ซีอีโอ ‘โมเดอร์นา’ ยอมรับวัคซีนที่มีอยู่อาจมีประสิทธิภาพลดลง เมื่อเจอเชื้อสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’

ซีอีโอโมเดอร์นาเผย มีแนวโน้มที่วัคซีนโควิด-19 ซึ่งใช้กันอยู่ในขณะนี้ จะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อต้องต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ ‘โอไมครอน’

วันที่ 30 พ.ย. 2564 นายสเตฟาน บันเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ในบทสัมภาษณ์พิเศษที่เผยแพร่ในวันนี้ มีเนื้อหาตอนหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบครั้งแรกในทวีปแอฟริกา และการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกในขณะนี้ว่า ข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีต่อไวรัสตัวนี้ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในอีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้อยู่ตอนนี้ จะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ และบรรดาบริษัทเวชภัณฑ์ทั้งหลายอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนจึงจะสามารถพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอต้านทานเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่

นายบันเซลระบุว่า การที่ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีการกลายพันธุ์ไปมากในส่วนของโปรตีนหนาม หรือ สไปก์โปรตีน (Spike Protein) และมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกาใต้ ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับสูตรวัคซีนในปีหน้า 

“ผมคิดว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะไม่เท่ากับสายพันธุ์เดลตา ผมว่าวัคซีนน่าจะมีประสิทธิภาพลดลง ส่วนจะลดลงมากแค่ไหนนั้น เรายังต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติม แต่เท่าที่ได้คุยกับนักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนมา ทุกคนต่างก็ประเมินว่าวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพไม่ดีนักกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้” นายบันเซลกล่าว

ทั้งนี้ ไฟแนนเชียล ไทมส์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การแสดงความเห็นของซีอีโอโมเดอร์นาครั้งนี้มีขึ้น ในขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและนักการเมืองในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พยายามออกมาพูดถึงประสิทธิภาพของวัคซีนเดิมที่มีอยู่ในการต้านทานเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน 

ก่อนหน้านี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาพูดถึงการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่ไม่ควรตื่นตระหนก พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่าผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของรัฐบาลเชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ยังมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสได้ในระดับหนึ่ง