‘สยามพิวรรธน์’ เปิดตัวซูเปอร์แอป ให้สะสมเหรียญ Viz Coin ไว้ซื้อสินค้า ก่อนขยายให้ทำธุรกรรมคริปโทฯ ได้ปีหน้า

ยิ่งนับวัน สงครามการมุ่งสู่งแพลตฟอร์มดิจิทัลและให้ความสำคัญกับ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ (Digital Asset) ในวงการค้าปลีกกลุ่ม ‘ศูนย์การค้า’ ก็เหมือนจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

หลังเมื่อสัปดาห์ก่อน เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพิ่งประกาศจับมือกับ Bitkub สร้างดิจิทัลคอมมูนิตี้ และเปิดให้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกรับสินค้าและบริการของศูนย์การค้าในเครือได้

ล่าสุดในวันนี้ (9 ธ.ค. 2564) ‘บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด’ เจ้าของศูนย์การค้าสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ชื่อ ONESIAM Super App

ซึ่งสยามพิวรรธน์บอกว่าใช้เวลาในการพัฒนาถึง 13 เดือน โดยจะเป็นมากกว่าแอปสะสมแต้มแบบเดิมๆ และสร้างประสบการณ์แบบเหนือความคาดหมายในโลกดิจิทัล

แล้วซูเปอร์แอปดังกล่าวของสยามพิวรรธน์ทำอะไรได้บ้าง TODAY Bizview สรุปมาดังนี้

-ONESIAM Super App มีฟีเจอร์ของ Loyalty Program ชนิดที่แตกต่างจากแบบเดิมที่ให้ซื้อของแล้วสะสมแต้ม เปลี่ยนมาเป็นการสะสมเหรียญที่ชื่อ Viz Coin แทน

-โดย Viz Coin ที่ว่ามีมูลค่าเหรียญละ 1 บาท สามารถนำเหรียญไปใช้ซื้อของแทนเงินสดได้ใน 4 ศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ และร้านค้าพันธมิตรต่างๆ ที่อยู่ในศูนย์การค้าด้วย

-ส่วนเงื่อนไขว่าซื้อของเท่าไหร่ถึงจะได้ 1 เหรียญนั้น อยู่ที่แบรนด์หรือร้านค้าต่างๆ เป็นคนกำหนด

-ในแอปยังให้บริการแบบ Omnichannel เชื่อมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ คือ เป็นอีคอมเมิร์ซที่สามารถซื้อสินค้าบนแอปแล้วให้มาส่งที่บ้านได้เลย หรือเลือกไปรับที่ร้าน หรือนัดหมายเข้าใช้บริการกับแบรนด์ต่างๆ ได้

-โดยร้านค้าที่อยู่บนแอป ก็คือร้านค้าต่างๆ ที่ให้บริการที่ศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ ตั้งแต่แบรนด์ไทยไปจนถึงแบรนด์หรู ซึ่งต้นปีหน้าจะมีแบรนด์พรีเมียมเข้ามาเป็นพันธมิตรอีกกว่า 1,000 แบรนด์

-บนแอปจะพยายามสร้างคอมมูนิตี้กับผู้ใช้ด้วยการดึงผู้นำความคิด คนรุ่นใหม่ พันธมิตร ร้านค้า คู่ค้า มาสร้างคอนเทนต์ให้ลูกค้าได้อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ

-และที่น่าสนใจก็คือ ต้นปีหน้า สมาชิกจะสามารถใช้ ONESIAM Super App ในการทำธุรกรรมดิจิทัลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ (Digital Assets) และดิจิทัลยูทิลิตี้ (Digital Utility)

โดยประเดิมช่วงแรกคืองานศิลปะดิจิทัล NFT ที่ไปร่วมกับ KASIKORN X หรือ KX ในการก่อตั้ง Coral – Super Simple NFT Marketplace (CORALWORLD.CO) และการร่วมมือกับ Zipmex ในการแลกซื้อคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT)

ก่อนเข้าสู่ช่วงที่ 2 ที่ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น  X Spring และ เจ เวนเจอร์ส เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรภายในปีหน้า

-แอปสามารถดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยสยามพิวรรธน์ตั้งเป้าหมายการดาวน์โหลด 5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2565

ทั้งนี้ ทีมงาน TODAY Bizview ลองดาวน์โหลดแล้วพบว่า จะต้องลงทะเบียนโดยใช้ข้อมูล ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วย

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า “เราใช้เวลา 13 เดือนในการในการปรับกลยุทธ์ และพัฒนาแอปพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ที่จะทลายทุกข้อจำกัด และสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ ของพันธมิตรในระบบนิเวศของเรา

ภายใต้การนำของคุณอริยะ พนมยงค์ ประธานบริหารสายงานนวัตกรรม ซึ่งทำงานร่วมกับคุณอักเซล วินเทอร์ ประธานบริหารสายงานดิจิทัล โดยใช้นวัตกรรมจากหลายองค์กรชั้นนำต่างประเทศ

“สยามพิวรรธน์ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้สนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของบรรดาร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้าของเรารวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ โดยตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในประเทศ 7 ล้านคน และลูกค้าที่ทรงพลังทั่วโลก”

นางชฎาทิพ กล่าวอีกว่า สยามพิวรรธน์ถือเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่รายในโลก และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ลงทุนสร้างแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ONESIAM เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอสินค้าและบริการที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถันให้กับลูกค้าบนความสนใจเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยี AI ที่จะเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า

พร้อมด้วย Hyper Personalized Marketing ที่จะวิเคราะห์ และคาดการณ์การรับข่าวสารและซื้อสินค้าครั้งหน้าของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้บริหารจัดการสินค้าและบริการทุกประเภทได้ดีขึ้น รวมทั้งสร้างแคมเปญให้ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น