SHARE

คัดลอกแล้ว

เลื่อนอ่านฎีกาคดี ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ ทนายแจ้งติดต่อจำเลยไม่ได้  ศาลนัดใหม่ 26 ม.ค. 2565

วันที่ 16 ธ.ค. 2564 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ หมายเลขดำ ฟย.46/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมเกียรติ คงเจริญ  อายุ 62 ปี กก.ผจก.บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด, นางธวัล แจ่มโชคชัย อายุ 64 ปี กก.ผจก.บจก.ฝูอัน ทราเวล, บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด, นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 31 ปี กก.ผจก บจก.โอเอฯ, บริษัท รอยัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ไทยเฮิร์บ จำกัด, บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท รอยัลพาราไดซ์ จำกัด, นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี อายุ 66ปี กรรมการผู้จัดการทั้งสี่บริษัท ซึ่งเป็นมารดาของนายวสุรัตน์, นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี อายุ 65 ปี สามีนางนิสา, บริษัท บ้านขนมทองทิพย์ จำกัด, น.ส.สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 40 ปี กรรมการผู้มีอำนาจ บจก.บ้านขนมทองทิพย์ ซึ่งเป็นบุตรของนายธงชัย และนายวินิจ จันทรมณี อายุ 74 ปี กก.ผจก บริษัทซินหยวน ทราเวล จำกัด และบริษัท ฝูอันฯ เป็นจำเลยที่ 1 – 13

ในความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคแรก, พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

กรณีสืบเนื่องเมื่อระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 31 ส.ค. 2559 ต่อเนื่องกัน บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด นำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวโดยไม่เสียค่าบริการ หรือที่เรียกว่า ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ จากนั้นบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จำเลยให้ใช้รถบัสจำนวน 2,500 คัน รับนักท่องเที่ยวฟรี โดยเป็นผู้กำหนดแผนการเดินทางให้มัคคุเทศก์และผู้ขับขี่นำรถไปจอดให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าจากร้านในเครือเดียวกับบริษัท โอเอฯ  ซึ่งสินค้ามีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า แสดงฉลากไม่ถูกต้อง เป็นการขูดรีดนักท่องเที่ยว ไม่เป็นการแข่งขันเสรีทางการค้า อำพรางแบ่งปันผลประโยชน์ โดยบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด แบ่งปันผลประโยชน์ให้บริษัททัวร์ 30 – 40% ให้มัคคุเทศก์ 3 – 5% มีพฤติกรรมลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ปกปิดวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญชาวจีน จนเกิดความ เสียหายมูลค่า 98 ล้านบาทเศษ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด

ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ลงโทษปรับเฉพาะ จำเลยที่ 1, 2 และ 13 ผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 มาตรา 24 , 82 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ให้ปรับรายละ 5 แสนบาท นอกจากที่เเก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 1, 2 และ 13 ยื่นฎีกา

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลา ทนายจำเลยที่ 1, 2 และ 13 แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถติดต่อนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 ได้ ไม่ทราบว่า ย้ายที่อยู่หรือไม่

ศาลตรวจสำนวนแล้ว ปรากฏว่า ได้ส่งหมายนัดให้จำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปิดหมายแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 แล้ว  ซึ่งถือว่าจำเลยที่ 1 ยังไม่มีหมายนัดโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นวันที่ 26 ม.ค. 2565 เวลา 09.00 น. 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า