ผลสำรวจมหาเศรษฐีจาก CNBC พบว่า เศรษฐีวัยมิลเลนเนียล หรือกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่สะสมความมั่งคั่งไว้ที่คริปโทเคอร์เรนซี และวางแผนที่จะซื้อคริปโทฯ เพิ่มมากขึ้นอีกในปี 2022 แม้ในตอนนี้ราคาจะร่วงลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม
จากการสำรวจที่ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นนักลงทุนคนรุ่นใหม่ที่มีทรัพย์สินที่สามารถลงทุนได้มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป พบว่า 83% ของเศรษฐีกลุ่มนี้เป็นถือครองคริปโทเคอร์เรนซีไว้ในมือ
และมากกว่าครึ่ง (53%) ของคนกลุ่มนี้ มีความมั่งคั่งอย่างน้อย 50% มาจากคริปโทฯ
การถือครองคริปโทฯ ของเศรษฐีมิลเลนเนียลนั้นแตกต่างกับเศรษฐีรุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง
โดยมีเศรษฐีที่เป็นชาวเบบี้บูมเมอร์ 4% เท่านั้นที่ถือครองคริปโทฯ ขณะที่ชาว Gen X มากกว่า 3 ใน 4 ไม่ได้ถือครองคริปโทฯ ใดๆ
ผลสำรวยดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า คริปโทฯ นั้นสร้างมุมมองที่แตกต่างในเรื่องการลงทุนและสร้างความมั่งคั่งให้กับคนแต่ละเจเนอเรชั่นอย่างชัดเจน
เพราะในขณะที่เศรษฐีรุ่นก่อนๆ ยังคงตั้งคำถามในคริปโทฯ และอนาคตของมัน แต่คริปโทฯ ได้กลายเป็นแหล่งหลักในการสร้างความมั่งคั่งและเพิ่มพูนทรัพย์สินให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เพิ่งเข้ามาในโลกการลงทุนและเห็นผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว
George Walper ประธาน Spectrem Group ซึ่งดำเนินการสำรวจ กล่าวกับ CNBC ว่า “นี่เป็นความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องความมั่งคั่งของคนแต่ละเจเนอเรชั่น”
ทั้งนี้ แม้ว่าราคาบิตคอยน์และคริปโทฯ อื่นจะลดลงต่อเนื่องในช่วงนี้ แต่เศรษฐีมิลเลนเนียลก็ดูเหมือนยังไม่มีแผนการจะเลิกลงทุนในคริปโทฯ
โดยผลสำรวจพบว่า เกือบครึ่งหนึ่ง (48%) วางแผนจะซื้อคริปโทฯ เพิ่มอีกในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่อีก 39% วางแผนที่รักษาระดับคริปโทฯ ที่ถือไว้อยู่ในปัจจุบัน และมีเศรษฐีมิลเลนเนียลเพียง 6% เท่านั้นที่วางแผนจะลดการลงทุนในคริปโทฯ ลง
[ ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผู้จัดการความมั่งคั่ง ]
และเนื่องจากนักลงทุนยุคมิลเลนเนียลและ Gen Z จำนวนมากกลายเป็นเศรษฐีจากโลกคริปโทฯ และมีแนวโน้มว่าคริปโทฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนของคนกลุ่มนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ซึ่งนั่นทำให้เกิดภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของธนาคารพาณิชย์, บริษัทบริหารความมั่งคั่ง และที่ปรึกษาของเศรษฐียุคเก่า) ที่ยังไม่เปิดรับคริปโทฯ และไม่ต้องการนำความเสี่ยงของโลกคริปโทฯ เข้ามาอยู่ในพอร์ตหรือโปรดักต์ของตน
แต่ลองนึกดูว่า อนาคตของธุรกิจเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้ารุ่นต่อไปด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการผลิตภัณฑ์และคำแนะนำเกี่ยวกับคริปโทฯ
คำถามคือ ถ้าหากไม่ปรับตัว แล้วบริษัทเหล่านี้จะอยู่ได้อย่างไร?
“ฉันไม่แน่ใจว่าอุตสาหกรรมการบริหารความมั่งคั่งจะรับรู้หรือไม่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องคิดใหม่ว่าคนรุ่นนี้แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิง” Walper กล่าวและว่า “บริษัทส่วนใหญ่หวังว่าจะเพิกเฉยต่อคริปโทฯ แต่ลองดูให้ดีๆ ก็จะรู้ว่า เศรษฐีมิลเลนเนียลไม่ใช่เพียงแค่เติบโตจากคริปโทฯ เท่านั้น”
Walper กล่าวว่า บริษัทจัดการความมั่งคั่งหลายแห่งไม่อยากเพิ่มคริปโทฯ ลงในแพลตฟอร์มการลงทุนโดยตรง เนื่องจากความเสี่ยงทางกฎหมายและความผันผวน
ทว่าด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์ทางการเงินของคริปโทฯ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึง ETF ของคริปโทฯ ทำให้บริษัทจำนวนมากขึ้นสามารถเริ่มเสนอผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคริปโทฯ ให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่ได้
Walper ยังกล่าวอีกว่า นักลงทุนคริปโทฯ ชาวมิลเลนเนียลนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทกว้างๆ คือ
1.คนที่สร้างรายได้เป็นล้านๆ ได้จากคริปโทฯ
2.คนรวยอยู่แล้ว และเพิ่มความรวยของตัวเองขึ้นไปอีกด้วยการลงทุนในคริปโทฯ (ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีเงินมาจากมรดกหรือทำธุรกิจสตาร์ทอัป)
โดยจากการสำรวจของ Spectrem พบว่า 45% ของเศรษฐีรุ่นมิลเลนเนียลเชื่อว่ามรดกของพวกเขาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มั่งคั่ง
และในบรรดาคนรุ่นมิลเลนเนียลที่มีทรัพย์สินมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป มรดกคือปัจจัยอันดับต้นๆ (75%) ในความมั่งคั่งของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน คนรุ่นมิลเลนเนียลที่เข้าสู่วงการคริปโทฯ เมื่อหลายปีก่อนด้วยเงินเดิมพันเพียงเล็กน้อยจากรายได้ของพวกเขา ได้กลายเป็นเศรษฐีที่สร้างตัวเองขึ้นมาจากผลตอบแทนจากคริปโทฯ ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นและสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ อย่างมาก
แต่คำถามในตอนนี้คือ คนมิลเลนเนียลจะยังคงอยู่ในตลาดคริปโทฯ และจะอยู่ในอันดับมหาเศรษฐีหรือไม่ หากบิตคอยน์และโทเคนอื่นๆ ราคาร่วงลงต่อเนื่องยาวนาน
“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสบายและยอมรับได้กับความผันผวนนี้” Walper กล่าวทิ้งท้าย
*หมายเหตุ บทความนี้ไม่ใช่บทความชี้ชวนลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียด ความเสี่ยง และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน
ที่มา: https://www.cnbc.com/2021/12/16/millennial-millionaires-plan-to-add-more-crypto-in-2022.html?utm_content=Main&utm_medium=Social&utm_source=Facebook&fbclid=IwAR0PUqBdrUNYP3RTi6EIMxqvlZt9P5rqQOEzsoNB3Y4EY66aDgDW4v7uqxs#Echobox=1639681225