สธ.จ่อประเมินยอดติดโควิดหลังปีใหม่ 15 วัน นายกฯ กำชับทุกจังหวัดคุมเข้ม

นายกฯ ห่วงการแพร่ระบาด ‘โอไมครอน’ ช่วงวันหยุดปีใหม่ กำชับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศคุมเข้มมาตรการ พร้อมให้กระทรวงสาธารณสุขประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่ 15 วัน

วันที่ 30 ธ.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยในสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ต่อประชาชนผ่านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำเตือนว่า แม้จะเป็นช่วงวันหยุดยาวขอให้ทุกคนอย่าประมาท การ์ดกย่าตก

ไทยยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับ VUCA (Vaccine, UP; Universal Prevention, COVID Free Setting, ATK) โดยเน้นการสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศรวมทั้งที่พำนักในประเทศไทยขอความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามมาตรการอนามัยส่วนบุคคล และสวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา เพื่อให้ทุกคนใช้เวลาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างมีความสุขและปลอดภัย

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ติดตามผู้ได้รับอนุญาตจัดงาน เจ้าของสถานประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่จะเปิดให้บริการช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต้องดำเนินมาตรการภายใต้มาตรการ COVID Free Setting อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเข้มงวด เมื่อเข้าไปในสถานบันเทิง สถานที่แออัด ร้านอาหารที่มีระบบระบายอากาศไม่ดี เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนสูงมาก

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมประเมินสถานการณ์การระบาดหลังหยุดเทศกาลปีใหม่ผ่านไป 15 วันอีกครั้ง หากพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง อาจนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. เพื่อพิจารณาปรับแนวทางและเพิ่มมาตรการป้องกันอื่น ๆ ได้อีก

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่องข้อสั่งการ ผ่านทางปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จากแนวโน้มของสถานการณ์การระบาดสายพันธุ์โอไมครอนในประเทศไทยมีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่ประชาชนจะมีการจัดงานตามประเพณีท้องถิ่นและทางศาสนา งานเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการรวมกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ลดอัตราการแพร่เชื้อและอัตราการเสียชีวิต จึงขอให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ทุกหน่วยงานเน้นย้ำการปฏิบัติงานตามแนวทางการเฝ้าระวังการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด และสร้างการรับรู้มาตรการสำคัญของทางราชการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนด้วย