ไทยติด ‘โอไมครอน’ สะสม 2,338 ราย เตรียมประเมินสถานการณ์ 7 ม.ค.นี้

ศบค.เผยไทยติด ‘โอไมครอน’ เพิ่ม 2,338 ราย หรือ 20.92% กระจายไป 55 จังหวัดทั่วประเทศ เผยศุกร์นี้เตรียมประเมินสถานการณ์พร้อมปรับมาตรการรับโอไมครอน

วันที่ 5 ม.ค. 2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า ข้อมูล วันที่ 1 พ.ย. 2564 – 4 ม.ค. 2565 ไทยติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอน 2,338 ราย เพิ่มขึ้น 20.92% ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากกลุ่มแรก ขณะที่ผลการตรวจสายพันธุ์พบเดลตาพบ 78.91% ไทยพบเชื้อโอไมครอนกระจายไปแล้ว 55 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ พบผู้ติดเชื้อโอไมครอน 676 ราย, กาฬสินธุ์ 233 ราย, ชลบุรี 204 ราย, ร้อยเอ็ด 180 ราย, ภูเก็ต 175 ราย, สมุทรปราการ 117 ราย และมหาสารคาม 103 ราย สำหรับชลบุรีมียอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงเป็นอันดับ 1 แซงกรุงเทพฯ ต่อเป็นวันที่ 3 แล้ว ขณะที่ กทม. ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสมุทรปราการ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ

พญ.สุมนี กล่าวว่า กลุ่มเสี่ยงหลักที่น่าเป็นห่วงคือผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน กลุ่มเสี่ยงคือผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ต้องขอความร่วมมือให้จังหวัดที่มีอัตราการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงได้น้อย ปัตตานี นราธิวาส แม่ฮ่องสอน ยะลา นครนายก ขอนแก่น ตาก ลพบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เตรียมระบบการรักษาให้พร้อม ขอให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้น ซ้อมระบบการรักษาที่บ้าน การรักษาในชุมชน ให้ท้องถิ่นประสานงานกับสาธารณสุข

ผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. กล่าวว่า หลังเทศกาลปีใหม่ได้มีการประเมินสถานการณ์มาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.เป็นต้นมา เพื่อสรุปในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันศุกร์นี้ ในหลายเรื่องที่น่าสนใจ คือ

1. การปรับพื้นที่สีตามสถานการณ์ มาตรการและการอนุญาตให้ทำกิจการกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีการกำหนดจำนวนคน รวมถึงการอนุญาตให้ดื่มอนุญาตการดื่มสุราในร้านอาหาร

2. การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค จากเดิมที่มีแนวโน้มว่าจะมีการพิจารณาว่าจะเปิดสถานบันเทิง เมื่อมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นคัตเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ และไม่ได้อยู่ภายใต้การจัดการตามมาตรการป้องกันที่กำหนด ก็จะมีการพิจารณาในวันที่ 7 ม.ค.นี้เช่นกัน

3. จะมีการปรับมาตรการของผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยประเทศ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เรียกประชุมนัดแรกหลังเปิดปีใหม่มีวาระสำคัญคือ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอให้พิจารณาระงับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรแบบ Test&Go ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และงดรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2565 ส่วนการกำหนดเปิดสถานบันเทิงผับบาร์เดิมที่มีกำหนดเปิดในวันที่ 16 ม.ค.65 นั้น ต้องพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อประกอบกัน แต่คงไม่ใช่การเปิดแบบเต็มรูปแบบ อาจจะงดเว้นในบางกิจกรรม

นอกจากนี้จะพิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ มาตรการควบคุมโรค และมาตรการการเดินทางในราชอาณาจักร รวมไปถึงการอนุญาตให้นักกีฬาเดินทางเข้าราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ รวมไปถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 และแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกลุ่มผู้ประกันตน และเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับแผนเผชิญเหตุ หากเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักทั้งประเทศ