สธ.แจ้งยกระดับเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 คุมโอไมครอน

สธ. ประกาศยกระดับเตือนภัย ‘โอไมครอน’ ระดับ 4 หลังยอดติดเชื้อเพิ่มไม่หยุด ย้ำประชาชนเข้มมาตรการ ตรวจ ATK ลดการเดินทาง และเข้ารับการฉีดวัคซีน

วันที่ 6 ม.ค. 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงประเมินสถานการณ์พร้อมประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ชะลอการแพร่ระบาดเชื้อโอไมครอน โดยหลังจากนี้จะมีการเน้นย้ำเรื่องการจำกัดการเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงต่างๆ อาจจะมีการปิดสถานที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด หรือมีการเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัยในสถานที่นั้น และการชะลอการเดินทางต่างๆ เช่น การเดินทางไปทำงาน การจำกัดการรวมกลุ่มต่างๆที่จะต้องมีข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อชะลอการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด จังหวัดต่างๆ ต้องเน้นบังคับใช้กฎหมาย กรณีที่พบผู้ติดเชื้อเช่นเดียวกับร้านอาหารหรือสถานบริการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Covid-19 free setting อย่างเคร่งครัด

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การระบาดนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขเป็นไปตามฉากทัศน์เป็นสัญญาณของการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ระบาดรวดเร็วขึ้น โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ พบว่ามีการสัมผัสใกล้ชิดกันในครอบครัวและที่ทำงานเพิ่มขึ้นด้วย เน้นย้ำผู้ประกอบการสถานบริการต่างๆเข้มมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง และการเร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นของประชาชนและกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

ขอให้ประชาชนที่กลับจากการเดินทางช่วงปีใหม่เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง 14 วัน ขอให้หน่วยงานและสถานประกอบการต่าง ๆ เน้นการทำงานที่บ้าน และตรวจ ATK อย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกัน 3 วัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะนานเกิน 4 ชั่วโมง หรือไปในสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากและงดการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน

ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนของให้ไปฉีดวัคซีนด้วยโดยกระทรวงสาธารณสุขให้ขยายบริการฉีดวัคซีนทั้งแบบ walk in และจัดบริการเชิงรุกในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด ขอให้ประชาชนมารับวัคซีน ทั้งผู้ที่ยังไม่เคยได้รับ และผู้ที่ถึงเวลารับเข็มกระตุ้นตามที่กำหนด โดยติดต่อสอบถามสถานบริการของรัฐใกล้บ้านได้ และใช้มาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือ และเว้นระยะห่าง รวมถึงงดไปสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ

สำหรับมาตการการป้องกันควบคุมโรคในระดับ 4 
– สถานที่เสี่ยง : เปิดได้เฉพาะที่จะเป็นต่อการดำรงชีวิต
– การรวมกลุ่มคนจำนวนมาก : เกณฑ์จำนวนคนให้รวมกลุ่มได้ตามระดับความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค รายจังหวัด
– การเดินทางข้ามพื้นที่ / ข้ามจังหวัด : ให้ Work From Home, ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่
– การเดินทางเข้าประเทศ : Quarantine (ลดวันกักตัว)

คำแนะนำสำหรับประชาชนและสถานประกอบการ
– ไปสถานที่เสี่ยง : งดเข้าสถานที่เสี่ยง, ร้านอาหารปรับอากาศ, งดทานอาหารร่วม – ดื่มสุราในร้าน, เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด, ห้าง
– ร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมา : เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน / งดร่วมกิจกรรมกลุ่มตามเกณฑ์ฯ
– เดินทางข้ามพื้นที่ / ข้ามจังหวัด : WFH 50% – 80%, ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หากจำเป็นให้ใช้รถส่วนตัว
– ปฏิบัติตามมาตรการ UP : เน้นสวมหน้ากาก 100%
– เดินทางออก – เข้าประเทศ : เลี่ยงไปต่างประเทศ, เข้าประเทศ, กักตัวในระบบ AQ

ทั้งนี้ ระบบเตือนภัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคมีทั้งหมด 5 ระดับ คือ
ระดับ 1 ใช้ชีวิตได้ปกติ แบบ COVID Free Setting
ระดับ 2 เร่งเฝ้าระวัง คัดกรอง เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่ม 1,000 คนขึ้นไป
ระดับ 3 จำกัดการรวมกลุ่ม ทำงานจากที่บ้าน 20 – 50% คัดกรองก่อนเดินทาง เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่ม 200 คนขึ้นไป
ระดับ 4 ปิดสถานที่เสี่ยง ทำงานจากที่บ้าน 50 – 80% ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ ใช้ระบบกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ
ระดับ 5 จำกัดการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเคอร์ฟิว ซึ่งจะมีการกำหนดมมาตรการตามระดับเตือนภัยทั้ง 5 ระดับ