ศบค. ไม่สั่งล็อกดาวน์ แต่ปรับมาตรการคุมโควิด-19 ระงับเข้าไทยแบบ Test&Go เพิ่มจังหวัดควบคุมสีส้มเป็น 69 จังหวัด

ศบค.ชุดใหญ่เคาะปรับโซนพื้นที่คุมโควิดใหม่ พื้นที่ควบคุมสีส้มเป็น 69 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า 8 จังหวัด ขยายเวลา WFH ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 ส่วนสถานบันเทิง ผับ คาราโอเกะ เปิดได้เฉพาะร้านอาหาร เริ่ม 16 ม.ค. พื้นที่ท่องเที่ยวดื่มสุราในร้านที่ผ่าน SHA+Thai stop Covid ได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม และพร้อมระงับ Test & GO ไม่มีกำหนด

วันที่ 7 ม.ค. 2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการฯ ว่า ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 และมีมติเห็นชอบให้ยกระดับมาตรการควบคุมโรคเข้มข้น ดังนี้

1. เพิ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุม สีส้มจาก 39 จังหวัด เป็น 69 จังหวัด (ห้ามการบริโภคสุราและเครื่องดื่มแองกอฮอล์ในร้าน)

จังหวัดที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ 1.ขอนแก่น 2.จันทบุรี 3.เชียงราย 4.เชียงใหม่ 5.ตราด 6.นครราชสีมา 7.บุรีรัมย์ 8.ประจวบคีรีขันธ์ 9.พระนครศรีอยุธยา 10.เพชรบุรี 11.ระนอง 12.ระยอง 13.เลย 14.สมุทรปราการ 15.สุราษฎร์ธานี 16.สุรินทร์ 17.หนองคาย 18.อุดรธานี

19.กาฬสินธุ์ 20.กำแพงเพชร 21.ฉะเชิงเทรา 22.ชุมพร 23.ชัยนาท 24.ชัยภูมิ 25.ตรัง 26.ตาก 27.นครนายก 28.นครปฐม 29.นครพนม 30.นครศรีธรรมราช 31.นครสวรรค์ 32.นราธิวาส 33.น่าน 34.ปราจีนบุรี 35.ปัตตานี 36.บึงกาฬ 37.พะเยา 38.พัทลุง 39.พิจิตร 40.พิษณุโลก 41.เพชรบูรณ์ 42.แพร่ 43.มหาสารคาม 44.มุกดาหาร 45.แม่ฮ่องสอน 46.ยโสธร 47.ยะลา 48.ร้อยเอ็ด 49.ราชบุรี

50.ลพบุรี 51.ลำปาง 52.ลำพูน 53.ศรีสะเกษ 54.สกลนคร 55.สงขลา 56.สตูล 57.สมุทรสงคราม 58.สมุทรสาคร 59.สระแก้ว 60.สระบุรี 61.สิงห์บุรี 62.สุโขทัย 63.สุพรรณบุรี 64.หนองบัวลำภู 65.อ่างทอง 66.อำนาจเจริญ 67.อุตรดิตถ์ 68.อุทัยธานี และ 69.อุบลราชธานี

2. ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด -19

– ขยายระยะเวลา work from home จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 แต่ต้องไม่กระทบต่อบริการประชาชน และการดำเนินงานขององค์กร

– สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดในรูปแบบร้านอาหาร โดยต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ก่อนวันที่ 15 มกราคม 2565 และเริ่มเปิด วันที่ 16 ม.ค. 2565

– ปรับมาตรการในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, กาญจนบุรี, กระบี่, ชลบุรี, นนทบุรี, ปทุมธานี, พังงา, และภูเก็ต บริโภคสุราในร้านอาหารไม่เกิน 21.00 น. และต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น

3. เห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ดังนี้

3.1 ยกเลิกการกำหนดกลุ่มประเทศเสี่ยงในการเข้าราชอาณาจักร คือ ประเทศในทวีปแอฟริกาทั้งหมด (รวม 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา) สามารถเข้ามาได้เหมือนประเทศอื่น ๆ แต่ให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดแต่ละรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2565

3.2 เปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 3 จังหวัด/พื้นที่ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) พังงา และกระบี่ (ทั้งจังหวัด) ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2565 โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด (ค่าที่พัก 7 วัน และค่าตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง)

3.3 พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 26 จังหวัด/พื้นที่ ยังดำเนินการเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคเช่นเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง แต่เพิ่มมาตรการการบริโภคสุราในร้านอาหาร และเลื่อนการเปิดการดำเนินการพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในระยะที่ 3 จำนวน 5 จังหวัด/พื้นที่ ได้แก่ ตราด (คลองใหญ่), สระแก้ว (เมือง อรัญประเทศ), มุกดาหาร (เมือง), บึงกาฬ, อุบลราชธานี (เมือง สิรินธร)

3.4 ระงับการลงทะเบียนเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบ Test&Go ออกไปก่อน

3.5 ระงับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในรูปแบบ Test & Go สำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติเดินทางเข้ามาภายหลัง 15 ม.ค. 2565 ข้อมูลเดินทางที่คงค้างทั้งหมดที่ได้รับอนุมัติแล้ว = T&G – 82,853 / SB – 25,917 คน ขณะที่จำนวนผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรจริง ประมาณ 30% ของผู้ได้รับอนุมัติทั้งหมด 7 ม.ค. -15 ม.ค.65 ประมาณ 10,440 คน