“ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์” เล็งดัน อุตสาหกรรมยานยนต์ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ฟื้นกิจกรรมท่องเที่ยว – งานแฟร์ในระดับภูมิภาค

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขานรับมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยได้จัดกิจกรรม DIPROM MOTOR SHOW จ.ลำปาง เพื่อสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาค พร้อมกระตุ้นให้การจัดนิทรรศการ และงานแฟร์สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงเชื่อมโยงผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ คพอ. ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวนกว่า 50 ราย เข้ามาร่วมในนิทรรศการดังกล่าวด้วย เพื่อแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคที่สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การทำตลาดในยุคปกติใหม่ ตลอดจนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ วันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2565

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ เพราะถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ โดยดีพร้อมได้ผนึกความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และภาคีเครือข่าย เพื่อเตรียมพร้อมจัดงาน “DIPROM MOTOR SHOW” เสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค ทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับการแสดงความพร้อมของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ที่ได้ปรับใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตที่สอดความกับความเป็นปกติใหม่ (New Normal)  โดยจะจัดขึ้นที่อาคารแสดงนิทรรศการ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิคและหัตถอุตสาหกรรม จังหวัดลำปาง วันตั้งแต่วันที่ วันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2565

กิจกรรมนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ดีพร้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะเดียวกันยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่จะสามารถเปรียบเทียบข้อมูลยานยนต์ต่างๆ จากหลากหลายค่ายในที่เดียวก่อนการตัดสินใจที่จะซื้อรถ โดยคาดว่าจากการจัดกิจกรรมนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้กว่า 100 ล้านบาท

นายณัฐพล ยังกล่าวอีกว่า เพื่อกระตุ้นให้การจัดกิจกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ เป็นไปอย่างครบวงจรได้เชื่อมโยงผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ คพอ. ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวนกว่า 50 ราย เข้ามาร่วมในนิทรรศการดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ รวมถึงระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคทั้งในการสร้างมูลค่า การจับคู่ธุรกิจหรือ Business Matching พร้อมทั้งกระตุ้นให้กิจกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบของงานแฟร์สามารถดำเนินต่อได้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคที่สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การทำตลาดในยุคปกติใหม่ หรือ New Normal อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องด้วยไทยยังคงเป็นฐานสำคัญในการผลิตทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ การประกอบรถยนต์ รวมถึงการผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ โดยสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2564 ที่ผ่านมานั้นพบว่าเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการผลิตรถยนต์ 1.6 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 แบ่งเป็นขายในประเทศ 0.75 ล้านคัน และส่งออกต่างประเทศ 0.85 ล้านคัน ส่วนในปี 2565 ได้ประมาณการว่าจะมีการผลิตรถยนต์ 1.7 – 1.8 ล้านคัน ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญทั้งการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากขึ้น มาตรการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว