วิเคราะห์ : Popcoin กลยุทธ์คริปโตของ ‘เฮียฮ้อ’ ที่ (อาจ) พลิกเกมธุรกิจให้ RS

ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย. 2564 ข่าวสุดฮือฮาในวงการธุรกิจข่าวหนึ่งคงหนีไม่พ้นการประกาศเข้าสู่วงการคริปโตเคอร์เรนซี่ด้วยการเปิดตัว ‘Popcoin’ โทเคนดิจิทัลของบริษัทที่ไปไกลกว่าค่ายเพลงมานานแล้วอย่าง RS Group ภายใต้การนำของ ‘เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์’

แต่ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่แค่การบุกวงการคริปโตฯ ด้วยการนำ Popcoin มาช่วยยกระดับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce (Entertainment + Commerce) ที่ประกอบไปด้วยสื่อ บันเทิง และคอมเมิร์ซ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดให้คอนเทนต์ อย่างที่ RS เคยบอกไว้เท่านั้น

เพราะถ้าดูจากโมเดลการนำเหรียญนี้มาใช้แล้ว ดูเหมือนว่า Popcoin จะเป็นกลยุทธ์ที่อาจพลิกเกมธุรกิจให้ RS เลยก็ว่าได้

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? TODAY Bizview ชวนทุกคนมาหาคำตอบกัน

[ รู้จัก Popcoin กันก่อน ]

หากจะอธิบายอย่างสั้นๆ และเข้าใจง่ายๆ Popcoin ก็คือคริปโตฯ เหรียญหนึ่งที่ RS เป็นคนผลิตออกมาให้ผู้ที่ถือครองนำไปใช้แลกสินค้าหรือบริการ และลงทุนเพื่อเก็งกำไรได้

ใน White Paper บอกว่า ใน 4 ปีนี้ RS มีโควต้าผลิต Popcoin ทั้งหมด 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือเฉลี่ยคือปีละ 2,500 ล้านเหรียญ

โดยผู้ที่จะถือครองเหรียญชนิดนี้ ณ ตอนนี้จะต้องเปิดวอลเล็ตบน Popcoin Platform โดย RS เรียกคนกลุ่มนี้ (รวมถึงคนที่ถือครอง Popcoin) ว่า Popster

หลักเกณฑ์การเปิดวอลเล็ตและถือครอง Popcoin นั้นอาศัยข้อกำหนดจากสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ใช้กันอยู่ในวงการคริปโต คือ ผู้ลงทุนจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป, มีการยืนยันตัวตนด้วยระบบ KYC เป็นต้น

[ Popcoin ทำให้ RS เป็นเหมือนผู้ให้บริการคริปโต ]

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า RS บอกว่า Popcoin จะเป็นส่วนที่ช่วยยกระดับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce เพิ่มประสิทธิภาพให้การทำการตลาด การจัดทำ และการจัดจำหน่ายคอนเทนต์ของบริษัท

รวมถึงช่วยให้ธุรกิจบันเทิง สื่อ และคอมเมิร์ซของ RS เชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ สมมติ RS จะอีเวนต์ของศิลปินในค่ายไปพร้อมๆ กับการโปรโมตโปรดักต์ของ RS Mall ก็อาจดึงดูดผู้บริโภคด้วยการออกแคมเปญให้แฟนๆ ไปซื้อสินค้าโปรดักต์จาก RS Mall

ถ้าซื้อครบเท่าจำนวนหนึ่ง ก็จะได้โทเคน Popcoin ที่สามารถมานำไปใช้แลกรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากศิลปิน เป็นต้น

นั่นเท่ากับว่า RS สามารถโปรโมตและส่งเสริมการเติบโตให้กับธุรกิจบันเทิงและธุรกิจคอมเมิร์ซได้พร้อมๆ กันแบบไร้รอยต่อ

แต่ที่สำคัญคือ กลยุทธ์นี้ทำให้ RS รู้จักกลุ่มลูกค้าของตัวเองอย่างชัดเจนมากขึ้นผ่าน ‘ข้อมูล’ หรือดาต้าบน Popcoin Platform

ซึ่งจะทำให้ RS นำมาข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และสร้างกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น

แล้วถามว่าธุรกิจในเครือ RS Group มีอะไรบ้าง?

1.ธุรกิจคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจพาณิชย์ มีบริษัท ‘ไลฟ์สตาร์’ เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OEM ในกลุ่มความงามและสุขภาพ และมี RS Mall เป็นผู้ขาย

2.ธุรกิจสื่อ มีช่อง 8 และคลื่นวิทยุ Coolism

3.ธุรกิจเพลง มี RoseSound, กามิกาเซ่ และอาร์สยาม

4.ธุรกิจใหม่ อย่างบริษัทที่ RS เพิ่งเข้าซื้อกิจการมาไม่นานนี้อย่าง ‘เชฎฐ์ เอเชีย’ ที่ทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์และติดตามหนี้สิน

ซึ่งแต่ละธุรกิจนั้นมีฐานลูกค้าไม่ใช่น้อยๆ เฉพาะค่ายเพลง 3 ค่ายก็มีฐานลูกค้าประมาณ 30-40 ล้านคนแล้ว ซึ่งจะเป็นโอกาสการขยายการเติบโตของเหรียญและธุรกิจให้กับ RS ได้

แต่ที่น่าสนใจคือ มากไปกว่าการนำ Popcoin มาใช้ในอาณาจักรของตัวเองแล้ว แบรนด์อื่นๆ นอกอาณาจักร รวมถึงศิลปินและครีเอเตอร์นอกเครือ ก็สามารถนำเหรียญนี้ไปทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด หรือกิจกรรมอื่นๆ ของตนเองได้

จึงอาจเรียกได้ว่า Popcoin นั้นทำให้ RS กลายเป็น ‘ผู้ให้บริการคริปโต’ เลยก็ว่าได้

โดยแบรนด์จะต้องมาแลกซื้อ Popcoin จาก RS แล้วนำไปใช้ทำกิจกรรมของตัวเอง โดยมีข้อกำหนดว่าแบรนด์ห้ามขายต่อให้กับผู้บริโภค ขณะที่ RS เองก็ไม่ขายให้กับผู้บริโภคทั่วไปเช่นกัน

ทำให้ผู้บริโภคจะได้รับเหรียญจากการมีส่วนร่วมกับแบรนด์/ครีเอเตอร์เท่านั้น (และต่อไปผู้บริโภคก็จะสามารถได้เหรียญผ่านการซื้อขายบนกระดานเทรดได้ด้วย)

ส่วนในปัจจุบันเหรียญ Popcoin ที่บริษัทขายให้แบรนด์อื่นๆ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 15-25 สตางค์ ขึ้นอยู่กับโปรเจกต์และปริมาณที่แบรนด์นั้นๆ ซื้อ

ดังนั้น Popcoin ไม่เพียงแต่จะช่วยสกระตุ้นยอดขายให้ธุรกิจในอาณาจักร RS ได้เท่านั้น  แต่จะช่วยให้ RS มีรายได้จากทั้งการขาย Popcoin ให้กับแบรนด์ต่างๆ และรายได้จากค่าบริหารจัดการแพลตฟอร์มอีกด้วย

ถามว่าแบรนด์อื่นจะได้ประโยชน์อย่างไรจากการใช้ Popcoin?

ที่แน่ๆ คือได้เหมือนกับที่ RS ได้ในเรื่องของการทำการตลาด ที่จะทำให้แบรนด์มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บริโภค รู้จักกลุ่มลูกค้าของแบรนด์จริงๆ โดยใช้งบประมาณที่อาจจะน้อยกว่าการทำตลาดรูปแบบเดิมๆ

อย่างที่ ‘ฐณณ ธนกรประภา’ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ โฟร์ท แอปเปิ้ล ผู้ร่วมสรรค์สร้างแพลตฟอร์ม Popcoin บอกว่า Popcoin จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการมองเห็น ช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากกว่าที่เคย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและวัดผลได้จริง

เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชิตศักดิ์ และ ฐณณ ธนกรประภา

แล้วถามว่าข้อดีอะไรที่จะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปยอมใช้ Popcoin?

หลักๆ เลยคงเป็นเรื่องที่ Popcoin จะเป็นช่องทางให้ได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบมากขึ้น เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบที่พิเศษมากกว่าเดิม

มากไปกว่านั้นคือ การฝาก Popcoin ไว้ในวอลเล็ตก็ยังได้รีวอร์ดคืน เหมือนฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ย รวมถึงผู้บริโภคยังสามารถใช้ Popcoin เป็นการลงทุนบนกระดานเทรดได้ ซึ่งจะเปิดให้เทรดบนกระดานของ Bitkub ในเดือน ม.ค. 2565 นี้

[ เร่งเพิ่มจำนวน Popster และพันธมิตร ]

แต่การจะทำให้ Popcoin พลิกเกมธุรกิจให้กับ RS ได้จริง อันดับแรกคงหนีไม่พ้นการเพิ่มจำนวน Popster และดึงแบรนด์ต่างๆ รวมถึงครีเอเตอร์เข้ามาเป็นพันธมิตรให้ได้มากขึ้นก่อน 

ในเฟสแรกนี้ RS ก็คว้าตัว ‘แบมแบม-กันต์พิมุก ภูวกุล’ ศิลปินเกาหลีสัญชาติไทยที่ดังไกลระดับโลกที่มีฐานแฟนในไทยมากมายจนหลายแบรนด์ต้องร่วมงานด้วย เข้ามาเป็นแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ โดยมีแพลนจะเปิดตัว Photoset สุดพิเศษในเร็วๆ นี้

นอกจากนั้น ตอนนี้ก็ยังมีคอลแล็บคอนเทนต์ร่วมกับพันธมิตรอีกหลายราย เช่น ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร, High Cloud Entertainment ค่ายเพลงของ กอล์ฟ F.HERO, คณะหมอลำเสียงอิสาน

VOM Records ค่ายเพลง Rock น้องใหม่, คานิวัล แบรนด์สตรีทแฟชั่นชั้นนำของไทย, UNLOCKMEN พับบลิชเชอร์ออนไลน์อันดับ 1 สำหรับผู้ชาย

Pet Hipster สื่อและนิตยสารออนไลน์สำหรับคนรักสัตว์, Full Sense ผู้ขับเคลื่อนวงการ eSport ในประเทศไทยและทั่วเอเชีย, Female Idol Trade Association (FITA) สมาคมการค้าธุรกิจไอดอลหญิง และ Bhouse Studio โรงเรียนสอนเต้นของพี่ชายแบมแบม

รวมถึงการมี Business Partner ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ เช่น ไอที ซิตี้, Asset Wise, RS Mall, คามู ซี, เวล ยู, ไวตาเนเจอร์พลัส, ไลฟ์เมต, เชฎฐ์ เอเชีย, ชโย กรุ๊ป, สบาย เทคโนโลยี, อินดีม กรุ๊ป, ช่อง 8, Coolism, RS Music ที่จะนำเหรียญไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และกลายเป็นอีกช่องทางสำคัญในการกระจายเหรียญไปยังผู้บริโภค

รวมแล้วทั้งหมดนี้ก็น่าจะทำให้ Popcoin ไปถึงเป้าหมายมี Popster จำนวน 1 ล้านรายภายใน ก.พ. 2565 นี้ได้ไม่ยาก จากตอนนี้ที่มี Popster อยู่แล้ว 5 แสนราย

และหากลองนึกดูว่าโปรเจกต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Popcoin ทั้งจาก RS เองและจากพาร์ทเนอร์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

คอมมูนิตี้และระบบนิเวศของ Popcoin ขยายและเติบโตแบบก้าวกระโดด มีการนำ Popcoin มาใช้ในระดับแมส

แม้ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นแหล่งรายได้หลักชิ้นใหม่ให้ RS หรือไม่ แต่ก็น่าจะเป็น ‘จิ๊กซอว์’ ชิ้นสำคัญที่มาพลิกเกมธุรกิจให้กับบริษัทได้แบบน่าสนใจ

และที่แน่ๆ คงเป็นส่วนที่ช่วยให้ RS ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้ง่ายขึ้นแบบที่ ‘เฮียฮ้อ’ หวังไว้นั่นเอง