ศบค. จับตา 8 จังหวัดท่องเที่ยวยอดติดโควิดพุ่ง พบคลัสเตอร์ใหญ่ในหลายจังหวัด

ศบค. ห่วง 8 จังหวัดพื้นที่สีฟ้ายอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มพบคลัสเตอร์มากที่สุด เผยสถานการณ์โลกแนวโน้มผู้เสียชีวิตลดลง เริ่มมีทิศทางเป็นโรคประจำถิ่น

วันที่ 12 ม.ค. 2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์ประจำวันว่าแนวโน้มการติดเชื้อและการเสียชีวิตของทั่วโลกพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีมากขึ้น แต่ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิตมีทิศทางแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้น เทียบกับวันที่ 30 ธ.ค. 2564 จำนวน 3,037 ราย วันที่ 12 ม.ค. 2565 จำนวน 7,681 ราย หากคิดอัตราการติดเชื้อต่อแสนประชากร ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 100 ราย ต่อ 100,000 ประชากร

พญ.สุมนี กล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่ได้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโอไมครอน ซึ่งถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตามาก เริ่มมีทิศทางเป็นแบบโรคประจำถิ่น คือ สามารถใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับโรคได้ แต่โควิด-19 จะไม่เหมือนโรคประจำถิ่นอื่นๆ เพราะเรายังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน อยู่ห่าง ล้างมือ ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีความเป็นห่วงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ช่วง 3-4 วันก่อนมีผู้ติดเชื้อหลักสิบ แต่วันนี้กลับกระโดดมาเป็นตัวเลข 3 หลัก และมีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก  สำหรับ 8 จังหวัดท่องเที่ยว วันนี้ติดเชื้อเพิ่มจากเมื่อวาน 507 ราย จึงต้องย้ำว่าแม้จะเปิดกิจกรรมและกิจการ แต่ต้องขอความร่วมมือประชาชนยังต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลในการใช้ชีวิตประจำวัน

สำหรับผู้ติดเชื้อที่พบเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ใหม่ส่วนใหญ่มากจากร้านอาหารกึ่งผับ มีรายงานวันนี้ 8 จังหวัด คือ

1. อุบลราชธานี 26 ราย
2. เชียงใหม่ 26 ราย
3. น่าน 22 ราย
4. อุดรธานี 6 ราย
5. ขอนแก่น 6 ราย
6. พะเยา 3 ราย
7. ศรีสะเกษ 3 ราย
8. นนทบุรี 3 ราย

นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์สังสรรค์ปีใหม่, คลัสเตอร์งานบุญ และคลัสเตอร์สถานศึกษาที่ จันทบุรี, กทม.และ จ.นนทบุรี