สรุปผลการตรวจห้องเย็น 539 แห่ง พบหมูแช่แข็งในสต๊อก 13.41 ล้าน ก.ก.

กรมปศุสัตว์สรุปผลการตรวจห้องเย็น 539 แห่ง พบหมูแช่แข็งในสต๊อก 13.41 ล้านกิโลกรัม

วันที่ 25 ม.ค. 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบปริมาณหมูในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 23 ม.ค.2565  กรมปศุสัตว์รายงานว่า ทำการตรวจห้องเย็นไปแล้ว 539 แห่ง (สะสมวันที่ 20-23 ม.ค. 2565) พบเนื้อหมูรวม 13.41 ล้านกิโลกรัม และทางกรมฯจะเดินหน้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีสินค้าปศุสัตว์ที่เหลือให้ครบ ซึ่งจะมีอีกประมาณห้าร้อยกว่าแห่ง หากตรวจสอบโดยละเอียดพบมีการกักตุน ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และเนื้อหมูจะถูกสั่งให้จำหน่ายตามราคาที่ทางการกำหนดต่อไป

สำหรับข้อมูลการเลี้ยงหมูในเดือน ม.ค. 2565 กรมปศุสัตว์รายงาน มีเกษตรกรผู้เลี้ยง 1.07 แสนราย จำนวนหมู 10.84 ล้านตัว แบ่งเป็น หมูพ่อพันธุ์ 4.9 หมื่นตัว หมูแม่พันธุ์ 9.79 แสนตัว และหมูขุน 9.56 ล้านตัว และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า จำนวนหมูทั้งหมดลดลงร้อยละ 11.81 แยกเป็น หมูพ่อพันธุ์ลดลงร้อยละ 41.1 หมูแม่พันธุ์ลดลงร้อยละ 11.16 จำนวนหมูขุนลดลง ร้อยละ 13.9

ในปีนี้ มีการขยายการเลี้ยงหมูในพื้นที่ใหม่ ส่วนพื้นที่เดิมที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญมีการเลี้ยงลดลง ฟาร์มขนาดกลางมีจำนวนเกษตรกรเพิ่มขึ้นและขยายการเลี้ยงเพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม ส่วนฟาร์มขนาดใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่แต่เป็นการเลี้ยงที่ลดความหนาแน่นของหมูในฟาร์มควบคู่ไปกับการป้องกันการกักตุนเนื้อหมู

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ซึ่งประกอบด้วยมาตการหลายระยะ คือ

1) งดส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลาสามเดือน

2) ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์แก่เกษตรกร

3) สถาบันการเงินจัดสินเชื่อพิเศษเพื่อให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงใหม่ เรื่องเตรียมเข้า ครม.

4) ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน

5) เพิ่มกำลังการผลิตแม่หมูทดแทน

6) ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

7) เร่งศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคระบาด

8) ยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด

9) ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค

หากพบการกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาหมูจะถูกดำเนินคดีขั้นสูงสุด กรณีที่ตรวจพบว่า มีการรายงานตัวเลขการครอบครองเนื้อหมูไม่ตรงกับที่แจ้งพาณิชย์จังหวัด จะเข้าข่ายเป็นการกักตุนหรือไม่นั้น เจ้าหน้าทีจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด

ตามพ.ร.บ.ว่าดวยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำหนดว่า กรณีที่ไม่แจ้งปริมาณสต๊อกถือว่ามีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดระยะเวลาฝ่าฝืน ส่วนในกรณที่แจ้งแล้วต้องตรวจสอบต่อไปว่าแจ้งด้วยข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ หากแจ้งด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ จะมีความผิดอีกเช่นกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกักตุน ซึ่งหมายถึงการปฏิเสธการจำหน่าย ทั้งที่มีสินค้าและมีผู้ขอซื้อสินค้าเข้ามาแต่ไม่จำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประชาชนพบการกระทำความผิดหรือสงสัยว่าเป็นการกระทำความผิด ขอให้แจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงไปตรวจสอบและดำเนินการได้ทันที