โควิด-19 ลามสถานศึกษา พบคลัสเตอร์ 11 จังหวัด โรงเรียนประจำราชบุรีติดเชื้อแล้ว 311 ราย

ศบค.ห่วงโควิด-19 ลามสถานศึกษาหลังพบคลัสเตอร์กระจาย 11 จังหวัด ติดเชื้อมากสุดโรงเรียนประจำ จ.ราชบุรี  311 ราย จากทั้งหมด 576 ราย แนะทำ Small Bubble ในโรงเรียน

วันที่ 28 ม.ค. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดประจำวันว่า ได้รับรายงานการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์สถานศึกษาหลายจังหวัด มีการติดเชื้อตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียน โรงเรียนอนุบาล สถานศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชน เช่น ราชบุรี น่าน เพชรบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ หนองคาย ยโสธร เลย และศรีสะเกษ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่โรงเรียนประจำหญิงล้วน จ.ราชบุรี พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ และเมื่อสาธารณสุขจังหวัดเข้าลงตรวจสอบในพื้นที่พบว่าโรงเรียนมีมาตรการที่เข้มงวดดี บุคลากรฉีดวัคซีนครบถ้วน วิเคราะห์ได้ว่าปัจจัยเสี่ยงน่าจะมาจากการจัดกิจกรรม มีการรวมกลุ่ม การแข่งขันกีฬา กิจกรรมปัจฉิมนิเทศฉลองนักเรียนจบการศึกษา ทำให้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน มีการเปิดหน้ากากอนามัย

สำหรับคลัสเตอร์โรงเรียนประจำ จ.ราชบุรี น่าจะเกิดจากกรณีที่โรงเรียนประจำอนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านช่วงปีใหม่ และกลับมาในวันที่ 14-16 ม.ค. 2565 นักเรียนประมาณ 570 คน กลับมาจากที่ที่แตกต่างกัน โรงเรียนได้ทำการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เมื่อนักเรียนกลับเข้าโรงเรียน ผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด คือไม่พบการติดเชื้อ เช่นเดียวกับผลตรวจครูไม่พบการติดเชื้อ

แต่เมื่อตรวจ ATK ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ผลกลายเป็นผลบวก ตรวจครั้งแรกพบติดเชื้อ 120 ราย โรงเรียนได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างถูกต้อง แจ้งไปที่ สสจ.ราชบุรี โดยโรงพยาบาลปากท่อได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือ มีการคัดแยกผู้ป่วย ผู้มีความเสี่ยงสูง และเก็บตัวอย่าง PCR ตั้งแต่ 24 ม.ค. เป็นต้นมา  รายงานวันนี้ผลเป็นบวก 311 คน จากจำนวนนักเรียนรวมครู 6 ท่าน รวมเป็น 576 คน เบื้องต้นมีการปิดโรงเรียนไปก่อน มีการทำความสะอาด มีการสอบสวนโรค และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอให้โรงเรียนเข้มงวดในมาตรการและทำ Small Bubble อาจต้องงดการทำกิจกรรมรวมกลุ่มไว้ก่อน เพราะการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ส่วนใหญ่มาจากการทำกิจกรรมรวมกลุ่ม ย้ำว่าการตรวจ ATK ยังมีความสำคัญแต่ต้องพึงระวังว่าสามารถเกิดผลลบลวงได้ ได้ไม่เกิน 10% หรืออยู่ประมาณ 5-7% ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำว่า แม้ว่าจะตรวจ ATK เป็นลบ แต่ถ้าสำรวจประวัติแล้ว มีการเดินทางมาจากหลายพื้นที่ มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก มีประวัติสัมผัสผู้ที่มีความเสี่ยง ขอให้กักตัวก่อนเป็นเวลา 7 วัน