SHARE

คัดลอกแล้ว

อีกมุมหนึ่งของ ‘พืชกระท่อม’ ปลดล็อกแล้ว แต่ยังมีกฎหมายคุมการใช้ในทางที่ผิด

(ภาพจาก สำนักงาน ป.ป.ส.)

กรณีของ บีม ศรัณยู ประชากริช นักแสดงชาย ที่ตกเป็นข่าว จากพฤติกรรม “เคี้ยวใบกระท่อม ขับรถ และขับเรือ หวาดเสียวในเส้นทางสาธารณะ” จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทางลบ และเกิดการถกเถียงในวงกว้างว่า เป็นการเย้ยกฎหมายและสุ่มเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ นำมาซึ่งความสูญเสียของผู้อื่นได้

ในประเด็นที่สังคมสงสัยเกี่ยวกับ คนเสพพืชกระท่อมขณะขับรถผิดกฎหมายหรือไม่ ทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ออกเอกสารในนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจงข้อกฎหมาย ดังนี้

“ปัจจุบันพืชกระท่อมได้ถูกยกเลิกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไปตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564” ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 ประชาชาทั่วไป สามารถใช้พืชกระท่อมด้วยการเคี้ยวไป การต้มทำน้ำกระท่อม หรือชากระท่อมดื่มได้ตามวิถีท้องถิ่น และนับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 ได้มีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ห้ามใช้พืชกระท่อมเป็นส่วนผสมของอาหารแล้ว ปัจจุบันจึงสามารถใช้พืชกระท่อมในการประกอบอาหารหรือต้มน้ำกระท่อมในเชิงอุตสาหกรรมได้”

“สำหรับความผิดฐานขับเสพ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษนั้น เมื่อพืชกระท่อมไม่ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ผู้ขับขี่เสพพืชกระท่อมในขณะขับรถ จึงไม่มีความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวด้วยเช่นกัน”

ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2564 ไทยได้ปลดล็อกใบกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด หวังชูให้เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง สถานะของ “กระท่อม” จึงเป็นพืช ที่สามารถปลูก กิน ซื้อขายและครอบครองได้โดยไม่ผิดกฎหมาย คนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถนำใบมาเคี้ยว หรือ ต้มเอาน้ำบริโภคเป็นยาชูกำลังได้

แต่นั่นใช่การจะเลี่ยงบาลี เพราะถ้าเอา ‘กระท่อม’ ไปผสมกับ ‘สี่คูณร้อย’ ซึ่งเป็นสารเสพติดที่เกิดจากการนำยาน้ำแก้ไอมาผสมกับใบกระท่อม ยังถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย

เพราะเจตนาของการใช้ประโยชน์ ที่หลายภาคส่วนผลักดันให้ กระท่อมไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป เพื่อประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์ ทั้งด้านการแพทย์และทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ทางภาครัฐก็กำลังร่างกฎหมายลูกเพื่อมาควบคุมการใช้ ‘พืชกระท่อม’ โดยเฉพาะ เรียกว่า ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. …. ”  ซึ่งเพิ่งผ่านการพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา (ส.ว.)  ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ร่างฯ นี้ทาง ส.ว. ได้แก้ไข 11 มาตราและเพิ่มเติมอีก 1 มาตราด้วย โดยกำหนด “มาตรการเพิ่มในการกำกับดูแลพืชกระท่อมในบางกรณี” เช่น

มาตรา 25 สถานที่ห้ามขายใบกระท่อม โดยได้เพิ่มเติม “ห้ามขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์”

มาตรา 34 กำหนด “อัตราโทษเป็น 2 เท่า” กรณีขายใบกระท่อมให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร หรือขายในสถานที่ห้ามขาย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า ในประเด็นที่ ส.ว.แก้ไข ส่วนตัวไม่ได้ติดใจ แต่หาก ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อมฯ ส่งคืนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ แล้วเห็นแย้งต้องตั้ง “กรรมาธิการร่วมสองสภา” มาพิจารณาก็จะเข้าร่วมเป็น กมธ. ด้วย เพื่อร่างกฎหมายผ่านไปอย่างราบรื่น ผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้ให้ออกมาบังคับใช้ได้เร็วที่สุดภายในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน และเป็นกฎหมายของประชาชนอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่พฤติกรรม เคี้ยวกระท่อมไป ขณะขับรถไป อาจมองได้ในมุมของความไม่เหมาะสม ที่เต็มไปด้วยความประมาท ซึ่งทางตำรวจ 2 โรงพัก พบการกระทำความผิด มีการแจ้งข้อหารวม 7 ข้อหากับนักแสดงดังกล่าว ส่วนความเหมาะสมโดยเฉพาะตัวบุคคล ถือว่า เป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนติดตามให้ความสนใจ ก็ย่อมมีเสียงห่วงจากสังคม เรื่องการชี้นำ หรือ พฤติกรรมเลียนแบบได้ ดังนั้นหากมีกฎหมายลูกออกมาใช้ ความชัดเจนต่างๆ เกี่ยวกับการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่สังคมที่ต้องทำความเข้าใจกับสถานะใหม่ของพืชกระท่อมด้วย

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า