SHARE

คัดลอกแล้ว

หลังจากที่มีข่าวว่า Meta จะปิดแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram ในยุโรป ถ้ามีปัญหาด้านกฎหมาย ส่งผลให้ทำธุรกิจไม่สะดวก

ล่าสุด ฝั่งยุโรปออกมาตอบโต้ถึงกรณีดังกล่าวแล้ว

– เริ่มด้วย Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี ที่บอกว่า “นับตั้งแต่บัญชี Facebook และ Twitter ถูกแฮ็กไปเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนี้ชีวิตก็ดีอย่างน่ามหัศจรรย์ใจเลย (fantastic)” นอกจากนั้น ก็ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวเพิ่มเติมว่า “สหภาพยุโรปของเรามีตลาดภายในที่ใหญ่ และทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากเพียงพอ ถ้าเราร่วมมือกัน เราจะไม่เกรงกลัวกับคำขู่แบบนี้เลย”

– ส่วนด้านของ Bruno Le Maire รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ที่ออกมาแถลงข่าวร่วมกัน ระบุว่า “ผมยืนยันได้เลยว่า ชีวิตเราดีได้โดยไม่ต้องมี Facebook” (I can confirm that life is very good without Facebook and that we would live very well without Facebook) พร้อมกันนั้นก็ได้เสริมด้วยว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ควรรู้ไว้ให้ดีว่า สหภาพยุโรปจะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านและยืนยันในอำนาจอธิปไตยของตนอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการตอบโต้ที่ทำให้เห็นท่าทีของฝั่งยุโรปมากขึ้น หลังจากที่แถลงการณ์ของ Meta บริษัทแม่ Facebook ได้ยื่นชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า “​หากเราไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างประเทศและภูมิภาคที่เราดำเนินการอยู่ ก็จะส่งผลต่อความสามารถของเราในการให้บริการ รวมการกำหนดเป้าหมายโฆษณา และเราอาจจะไม่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สำคัญรวมทั้ง Facebook และ Instagram ในยุโรป”

ส่วนปัญหาด้านกฎหมายของ Meta กับยุโรปในเชิงรายละเอียด TODAY Bizview เคยสรุปไว้แล้วดังนี้ 

– เรื่องราวเริ่มต้นจาก ศาลยุติธรรมยุโรป (Court of Justice of the European Union) ได้ตัดสินว่า Privacy Shield ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกต่อไป

– ซึ่ง Privacy Shield คือความร่วมมือกันระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาและคณะกรรมาธิการยุโรป ช่วยกันพัฒนาเฟรมเวิร์คที่ออกแบบมาเพื่อรับประกันว่า ข้อมูลพลเมืองยุโรปจะได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ เนื่องจากทั้งสองภูมิภาคมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างกันอยู่เสมอ 

– โดยหลังจากคำตัดสินของศาลยุติธรรมยุโรป ชี้ว่า Privacy Shield เป็นกฎหมายของสหรัฐที่ให้สิทธิ์ทางการสหรัฐฯ ในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลในสหภาพยุโรป โดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันข้อมูลที่ดีพอ 

– เท่ากับว่า Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ไม่สามารถนำเข้าข้อมูลของชาวยุโรปไปไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐฯ ได้ (กฎนี้กระทบบริษัทอเมริกันในวงกว้าง รวมถึง Microsoft, Amazon, Google)

หลังจากนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องราวจะจบลงอย่างไร ถ้าหาข้อตกลงกันไม่ได้ และในท้ายที่สุด Meta จะดึงบริการโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram ออกจากยุโรปจริงหรือไม่

อ้างอิง – Bloomberg

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า