เดอะ ฟอเรสเทียส์ กวาด 42 รางวัลระดับโลก พร้อมเผยยอดขายพุ่งกว่า 17,200 ล้านบาท

เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูสของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มูลค่า 125,000 ล้านบาท 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด กม.7 พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่กำลังเติบโต โดยภายในพื้นที่ประกอบด้วยพื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างและความหลากหลายของช่วงอายุ ตลอดจนพื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่ส่วนกลางจำนวนมาก

ซึ่งความมุ่งมั่นในการออกแบบทุกมิติของโครงการเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตของคนทุกเจเนอเรชันให้มีสุขภาพดีและการมีสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์คว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกมาอย่างมากมาย

โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศว่า “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ได้รับรางวัลด้านคุณภาพและนวัตกรรมระดับโลกกว่า 42 รางวัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นที่ยอมรับในเรื่องของความโดดเด่นของโครงการ

นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้รับการยอมรับยกย่องบนเวทีระดับโลก และรู้สึกภูมิใจที่ได้รับการตอบรับและการสนับสนุนที่ดีจากเจ้าของบ้านรายใหม่ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติจากทั่วโลก ที่มองเห็นว่าโครงการของเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น ตลอดจนความยั่งยืนในเรื่องของการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ภายใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าเราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องในการทุ่มเททุกอย่างและลงทุนอย่างหนักเพื่อคุณภาพ (Quality) ความยั่งยืน (Sustainability) และการทำให้โครงการอยู่ได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์ (Resilience)”

เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้รับ 3 รางวัลด้านนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรมของโครงการ จากงาน International Design Awards ครั้งที่ 15 ได้แก่ รางวัล Gold Award ด้าน Urban Design รางวัล Silver Award ด้านSustainable Living and Green Design และรางวัลชมเชยสำหรับ ฟอเรสต์ พาวิลเลียน โดยเป็นการรวบรวมผลงานจากกว่า 80 ประเทศ และเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลในปีนี้

รวมถึงได้รับรางวัลจากเวทีและสถาบันต่างๆ อีกมากมาย อาทิ Outstanding Property Award London, International Property Awards, International Federation of Landscape Architects, Muse Design Awards, Dot Property Award, Eldercare Innovation Awards และ Asian Property Awards

และนอกจากจะได้รับรางวัลการออกแบบโดยรวมแล้ว องค์ประกอบที่หลากหลายภายใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังได้รับรางวัลในด้านการออกแบบและด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ และ Family Center

โดยหนึ่งในองค์ประกอบของโครงการที่ได้รับรางวัลมากที่สุดคือ ฟอเรสต์ พาวิลเลียน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของโครงการ ได้รับการออกแบบโดย Foster+Partners และ DT Design และได้ประกาศเปิดตัวและเปิดให้เข้าชมไปล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้

“เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถูกมองว่าเป็นโครงการเมืองที่ทุกมิติได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นได้มาอยู่ใกล้ชิดกันอย่างลงตัว โดยเราตั้งใจให้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการโชว์เคส ที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นจริงได้ในแง่ของการออกแบบและการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังคาดหวังด้วยว่า เดอะ ฟอเรสเทียส์ จะแสดงให้เห็นว่ามีความต้องการที่อยู่อาศัยยุคใหม่ จากผู้ซื้อบ้านรายใหม่ๆ อย่างแท้จริง” นายกิตติพันธุ์กล่าว

พร้อมกันนี้ นายกิตติพันธุ์ยังได้เปิดเผยว่า พื้นที่อยู่อาศัยทุกโครงการใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ นั้นขายไปแล้วกว่า 40% ซึ่งยอดขาย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 ทะลุ 17,200 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 5 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 250 ล้านบาท ได้แก่

• คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ คอนโดมิเนียมแบบ low-rise ที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ขนาดตั้งแต่ 63 ตารางเมตร ถึง 1,027 ตารางเมตร

• ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม ที่มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายเจนเนเรชั่น ขนาด 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 1,000 ตารางเมตร ถึง 1,600ตารางเมตร

• คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ แบบ high-rise มุ่งตอบโจทย์คนวัยเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง โดยมีห้อง 7 แบบ ขนาดตั้งแต่ประมาณ 35 ไปจนถึง 205 ตารางเมตร

• ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ โครงการที่พักอาศัยพร้อมมอบบริการดูแลตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว มีทั้งแบบ Active Living Condominiums และ Sky Villa Residences เพรียบพร้อมทั้งที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างครบครัน และการดูแลด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร
• ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ วิลล่าระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ ที่บริหารและจัดการโดยซิกส์เซนส์แบรนด์เซอร์วิสระดับโลก

รวมทั้งมีพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่ Family Center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว และพื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเว้นต์ฮอลล์ ตลาด และพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางของโครงการ พร้อมด้วยทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร ซึ่งองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้มีกำหนดสร้างแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2567