รุมโทรม คุกคามเพศ เซ็กส์ปาร์ตี้ ปัญหาที่หลายคนกำลังเจอในเมตาเวิร์ส

การคุกคาม เหยียดผิวและเพศ เป็นประสบการณ์ที่พบได้ทั้งชีวิตจริงและในโลกออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่โลกเมตาเวิร์สที่ใครหลายๆ คนเชื่อว่าจะเป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ต 

จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ มองว่าการคุกคามไม่ว่าจะรูปแบบใด ถ้ามันเกิดขึ้นบนเมตาเวิร์ส มักจะมีรูปแบบที่ซับซ้อนกว่า และสร้างผลเสียที่ร้ายแรงกว่าการคุกคามผ่านช่องทางดิจิทัลทั่วๆ ไป

หากสงสัยว่าการคุกคามในเมตาเวิร์สมีประสบการณ์และหน้าตาแบบไหน TODAY Bizview จะรวบรวมมาเป็นกรณีศึกษา ตีแผ่ให้เห็นในบทความนี้  

1) หญิงสาวรายหนึ่งเล่าว่าเธอถูกรุมโทรม เมื่อเข้าใช้งาน Horizon Worlds ของ Meta 

Nina Jane Patel อายุ 43 ปี และยังเป็นนักจิตบำบัดด้วย เขียนตีแผ่ประสบการณ์ของเธอในบล็อก Medium เธอบอกว่าตั้งแต่ 60 วินาทีแรกที่เธอเข้าไปเล่น Horizon Worlds โซเชียลมีเดีย VR ของ Meta ว่า เธอถูกตัวอวตารชาย 3-4 คนล่วงละเมิดทางวาจาและทางเพศ พวกเขาเข้ามารุมตัวละครอวตารของเธอ และถ่ายรูป 

เมื่อเธอพยายามจะหลบหนี เสียงจากตัวอวตารชายก็บอกกับเธอว่า “อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่ชอบไปหน่อยเลย” 

ปัญหานี้เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วที่ Meta ทดสอบใช้งาน Horizon Worlds มีผู้ใช้งานถูกประชิดตัว และถูกลูบคลำร่างกายอวตารของตัวเองด้วย 

จนล่าสุด Meta ก็ออกมาแก้ปัญหาด้วยการออกฟีเจอร์ Personal Boundary หรือกำแพงบางๆ กั้นระหว่างตัวอวตารของเรากับคนอื่นๆ ไม่ให้ใครเข้ามาประชิดเราได้ง่ายๆ 

2) เจ้าพ่อเมตาเวิร์สอีกฝั่งอย่าง Microsoft ก็เจอปัญหาเดียวกัน 

Microsoft มีแพลตฟอร์ม VR เป็นของตัวเองชื่อว่า Altspace VR เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว (เรียกได้ว่าเป็นผู้มาก่อนกาล) แต่พอเทรนด์เมตาเวิร์สเริ่มจุดติด คนเริ่มให้ความสนใจ ปัญหาก็เริ่มเกิด 

เมื่อมีกรณีการคุกคามมากขึ้น Microsoft จึงต้องปิดพื้นที่การใช้งานบางส่วนใน Altspace VR ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Campfire, News และ Entertainment Commons ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาได้โดยอิสระ 

การปิดพื้นที่ทำให้ผู้เล่นถูกจำกัดสิ่ทธิ์ในการเข้าถึงพื้นที่ public space ด้วยความหวังว่าอย่างน้อยจะช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง 

นอกจากนี้ Microsoft ยังนำระบบฟองอากาศเสมือนหรือ Safety Bubble กลับมาใช้ป้องกันการประชิดตัวของผู้เล่น แต่เดิมเป็นฟังก์ชันทางเลือกที่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่กลายเป็นว่า ฟีเจอร์สร้างระยะห่างระหว่างตัวเองกับอวตารคนอื่นนั้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วในเมตาเวิร์ส 

3) Roblox เกมแนวสร้างโลกขวัญใจเด็กๆ เจอปัญหาคนเข้าไปเล่นปาร์ตี้เซ็กส์

Roblox เป็นเกมแนวสร้างโลกที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาสร้างเกมย่อยๆ ตามใจตัวเอง ลักษณะเด่นคือตัวละครใน Roblox เป็นตัวเหลี่ยมๆ นิยมเล่นกันในกลุ่มเด็กและเยาวชน 

การเล่น Roblox นั้นผู้เล่นไม่ต้องสวมแว่น VR เหมือนอย่าง Horizon Worlds และ Altspace VR แต่ Roblox ก็สามารถจำลองชีวิตในเมตาเวิร์สได้ระดับหนึ่ง คือมีตัวอวตารแทนตัวเรา เข้าไปทำกิจกรรมและเกมที่ผู้อื่นสร้างไว้บน  Roblox 

แต่ถึงแม้ว่า Roblox จะได้ชื่อว่าเป็นเกมขวัญใจเด็ก ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหาด้านมืดในโลกเมตาเวิร์ส ล่าสุดมีคนไปเจอผู้เล่นหลายรายใน Roblox เล่นปาร์ตี้เซ็กส์เสมือนจริง พูดคุยเรื่องเซ็กส์ ผู้เล่นรายหนึ่งถึงกับใส่ชุดเครื่องแบบนาซีด้วย 

ถือเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะกลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ของ Roblox เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 

โดยเกมใน Roblox ที่ผู้เล่นจะรู้กันว่าสามารถเข้าไปเล่นปาร์ตี้เซ็กส์เสมือนจริงได้คือเกมคอนโด ทางโฆษก Roblox ระบุกับ BBC ว่า กลุ่มผู้เล่นนี้เป็นเพียงส่วนน้อย และพวกเขาพยายามฝ่าฝืนกฎ 

ล่าสุดเกมคอนโดถูกลบออกไปแล้ว “เราทำการตรวจสอบความปลอดภัยของรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์เสียงทุกไฟล์ที่อัปโหลดไปยัง Roblox โดยใช้การตรวจจับจากทั้งทีมงานของเรา และ Machine Learning” ทาง Roblox กล่าว

4) การคุกคามเกิดขึ้นในโลกเสมือน แต่ผลกระทบทางใจไม่ต่างจากของจริง

Nina Jane Patel นักจิตบำบัดผู้เขียนประสบการณ์ตีแผ่การคุกคามเพศในโลกเมตาเวิร์ส เล่าว่าประสบการณ์มันจะซับซ้อน และส่งผลกระทบต่อจิตใจ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนการคุกคามนั้น เกิดขึ้นจริงกับตัวเธอ 

“คุณกำลังก้าวเข้าสู่สภาพแวดล้อมดิจิทัลแบบ 360 องศาอย่างแท้จริง และความเป็นจริงเสมือนได้รับการออกแบบมาให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันจึงคล้ายกับการเชิญใครบางคนเข้ามาในห้องนั่งเล่นของคุณ ดังนั้นการละเมิดจึงรุนแรงกว่าที่รู้สึกได้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย” Patel กล่าว 

ตอนนี้ บริษัทต่างๆ ก็กำลังพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อคว้าโอกาสใหม่จากมัน แต่จากเหตุคุกคาม ทำให้แต่ละบริษัท ต้องกลับมาพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้ว โลกเสมือน ควรเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถเข้าใช้งานได้อย่างสะดวกใจ 

ที่มา : Vice, Independent, Medium, The Verge, Microsoft