SHARE

คัดลอกแล้ว

‘โบ TK’ เปิดใจ หลังพบตำรวจกว่า 5 ชั่วโมง ให้ปากคำในฐานะพยานคดีแตงโม เผย ‘กระติก’ บิดเบือนข้อเท็จจริง

วันที่ 3 มี.ค. 2565 ‘สุรัตนาวี ภัทรานุกุล’ หรือ ‘โบ TK’ อดีตนักร้องดังดูโอ้วง ไทรอัมพ์ส คิงดอม ได้แถลงข่าวเปิดใจ หลังให้ปากคำในฐานะพยานคดีกรเสียชีวิตของ ‘แตงโม นิดา’ หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว

โดย โบ TK ได้ชี้แจงเหตุผลที่เพิ่งเดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ เพราะได้เห็นการไปออกรายการของคนที่อยู่ในเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโมแล้วพบว่ามีการบิดเบือน

“โบเป็นคนแรกๆ ที่กระติกโทรหา เพราะฉะนั้นแล้วโบจะมีข้อมูลที่เขาพูด แต่ว่า พอโบเห็น ทั้งคำให้การ ทั้งการที่เขาไปออกรายการทีวี คำพูดต่างๆ ของเขา บางอย่างมันขัดแย้งกับสิ่งที่โบรู้ ได้ยินมา โบรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง โบเลยรอให้เขาพูดให้จบ แล้วถึงเวลาตอนนี้ โบคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่โบจะออกมาพูดความจริง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าผิดเพี้ยนไปเยอะหรือไม่ โบ TK ตอบว่า “ในส่วนตัวโบคิดว่าเยอะค่ะ” ถามย้ำว่า ผิดจากที่พูดใช่หรือไม่ โบ TK ตอบว่า “อืม บิดเบือนแล้วกันค่ะ”

ถามว่ากังวลหรือไม่เพราะได้กลายเป็นพยานปากสำคัญในคดี โบ บอกว่า “เอาว่าโบกังวลและก็เครียด มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น”

โบ ย้ำถึงเพิ่งเข้าให้การกับตำรวจว่า “โบไม่สนว่าใครจะว่าอะไรโบ ซึ่งที่โบเห็นความสำคัญ ตั้งแต่แรกคือการหาแตงโมให้เจอ โบไม่สนหรอกค่ะ ด่าโบทั้งประเทศก็ได้ ถ้าโบหาน้องเจอ อย่างที่โบบอกว่า เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสม

ทำไมโบไม่ออกมาก่อนหน้านี้ โบเห็นคำให้การของเขา คือถ้าคำให้การของเขาตรงกับที่เขาบอกโบ โบจะไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงโบก็ต้องออกมาให้การอยู่ดี แต่อันนี้มันมีเหตุแล้วกันค่ะ”

– (ทนายความชี้แจงแทนว่า “ไม่ใช่เห็นคำให้การ” แต่คือ “ได้ยินที่เขาให้สัมภาษณ์”)

– (ทนายความชี้แจงแทนด้วยว่า “เหตุการณ์บางอย่าง” คือ “เป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวเท่านั้นเอง ไม่ทราบว่าจากใคร มันอาจจะเป็นส่วนสำคัญในคดีหรือไม่ตอนนี้ไม่ทราบ ดังนั้นเลยเลือกที่พูดออกไป”)

นอกจากนี้ ‘โบ TK’ ได้เล่าไทม์ไลน์ในคืนวันเกิดเหตุ สรุปได้ดังนี้

– กระติกโทรมาหาโบ แล้วพูดว่า “พี่ โบตกน้ำ หาคนช่วยหน่อย” โบก็ถามเขาว่า “ตกยังไง มันเกิดอะไรขึ้น” แล้วเขาก็อธิบายมา

– โบ บอกว่า ไม่แปลกใจที่เขาโทรหาเพราะเวลาคนที่โบสต์ (คริสตจักรแห่งความสุข) ป่วย หรือเป็นอะไรดึกๆ ก็จะมีคนโทรหาโบอยู่แล้ว แต่ปกติแตงโมจะปรึกษาโบ ส่วนกระติกมีพี่อีกคนที่ปรึกษา โบจะคุยกับพี่คนนั้นส่วนใหญ่ว่าสองคนนี้เป็นยังไง กระติกรู้ว่าโบสนิทกับแตงโม

– โบ บอกว่า หลังรับสายกระติก โบได้เดินทางไปที่ท่าเรืออู่ NBC ถึงประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ได้เจอทุกคน นั่งอยู่ที่อู่เรือจนถึงตี 3 ประมาณ 2 ชั่วโมง และเป็นคนขับรถของแตงโมไปส่งกระติกที่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากว่า กระติกดูช็อก แล้วก็ขับรถไม่ไหว ระหว่างทางที่นั่งรถไปมีการพูดคุยกัน แต่โบไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

“ตอนที่โทรมาตอนแรกที่โบเชื่อ”

“พอโบไปถึงท่าเรือก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแค่นั้น”

ผู้สื่อข่าวถึงท่าทีของกระติกระหว่างที่เล่าเหตุการณ์ตอนที่โบขับรถไปส่งประมาณ 1 ชั่วโมง โบ TK บอกว่า “เขาเครียดมากเขาช็อก เขาทำอะไรไม่ถูก มีน้ำตาคลอขึ้นมาบ้างบางครั้ง” และว่า กระติกมีการพูดโทษตัวเองที่ไม่ได้ดูแลแตงโม

– ส่วนสาเหตุที่โบไม่ได้ไปที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ซึ่งมีทีมกู้ภัยกำลังค้นหาแตงโม โบ บอกว่า ตอนแรกกระติกก็ส่งโลเคชั่นตรงนั้นมา ซึ่งโบก็จะขับรถไปแล้ว แต่เขาบอกว่าตรงนั้นคนเยอะมาก มีเรื่องโควิดด้วย นักข่าวเยอะ อย่าเพิ่งไปเลย โบก็โอเค

– โบ บอกด้วยว่าตอนไปถึงที่อู่เรือ ได้เจอทุกคน อยู่ในอาการตกใจ ช็อกและตกใจ

– เมื่อไปถึงได้บอกกับกระติกว่า “โทรหาเบิร์ดหรือยัง “ยัง” โทรหาแม่หรือยัง “ยัง” โบบอกแล้วว่าเขาต้องโทร ส่วนเหตุผลก็ตามที่เขาพูด ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเป็นเหตุผลของเขา

– โบบอกว่าได้คุยกับ ‘โรเบิร์ต’ ด้วย เพราะมีการแนะนำว่าสนิทกับพี่ชายโบ โบได้ถามว่า “รู้ไหมว่าพี่ชายโบติดโควิด?” เขาทำหน้าเบลอๆ ไม่รู้เรื่องแล้วถามกลับว่า “นี่น้องโบหรอ?” หมายความว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อน และได้พูดกันแค่นั้น ยืนยันว่า รู้จักกับกระติกคนเดียว

– ส่วนที่ไปกลางดึกเจอคนไม่รู้จัก โบ TK ตอบว่า “ตอนนั้นเพื่อนตกน้ำ ถ้าไม่ไป แปลกกว่า”

– ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 5 คนมีอาการมึนเมาหรือไม่ โบ ตอบว่า หน้าแดง เสียงดัง โวยวาย เสียงแหบ

– โบ ตอบคำถามที่ว่าเมื่อเห็นว่ากระติกบิดเบือนได้มีการพูดคุยกับกระติกหรือไม่ว่า โบเป็นคนพากระติกมาที่โรงพัก อยู่กับกระติกจนให้การเสร็จ แต่หลังจากได้รู้ว่าเขาพูดอะไรต่อมา ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย

“บอกตรงๆ รู้สึกเสียใจ มีความโกรธ แต่ก็ยังรักเขา โบคิดว่าถ้าเขากลับใจ และเขาเลือกที่จะพูดในสิ่งที่เขารู้จริงๆ เราก็จะมาช่วยกัน เขามีการติดต่อมาหาโบ โดยการบอกว่า ขอโทษ ที่ทำให้โบต้องมามีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องมาวุ่ยวายเพราะเขา โบบอกเขาไปคำเดิม “กระติก The truth will set you free สัจจะทำให้คุณเป็นไท ความจริงของคุณเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้” เขาก็ส่งรูปร้องไห้กลับมาแค่นั้น”

ส่วนประเด็นเรื่องไลน์ (LINE) ที่มีการระบุว่า “โบแนะนำไม่ให้พูดว่าฉี่บนเรือ”

โบ TK ชี้แจงว่า เนื่องจากตอนนั้น กระติก ได้โทรศัพท์บอกโบถึงข้อมูลว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นคนเห็นเหตุการณ์ แต่เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ โบจึงบอกเขาไปว่า แล้วทำไมเราถึงต้องพูดว่าไปฉี่ล่ะ เขาก็ถามว่าเขาต้องพูดกับตำรวจยังไง โบก็บอกว่าต้องพูดความจริงในสิ่งที่เห็นเท่านั้น นั่นหมายถึง ลื่นลงไป ตกเรือไป อย่างที่เขาควรที่จะพูดคือไม่ควรที่จะพูดว่าไปฉี่ เรื่องที่หนึ่งคือ มันไม่ใช่เรื่องจริง ที่เขาเห็นโดยตัวเอง
และอย่างที่สอง แตงโมเป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองมากๆ อย่างโบ เวลาที่โพสต์ไอจีแท็กเขาไป ถ้าแค่เขาอ้วน เขาจะส่งมาเลยว่าลบรูปนี้เถอะอ้วน ทุกวันนี้ยังมีข้อความนั้นค้างอยู่ โบไม่อยากให้เขาถูกจินตนาการ… ไม่อยากให้ภาพแบบนั้น ซึ่งก็เกิดขึ้น แต่มีคนหนึ่งในเรือ ไปออกรายการหนึ่ง ใช้ข้อความที่โบยังไม่รู้เรื่องราวอะไร รู้แค่จากกระติก ไปบอกว่าโบแนะนำไม่ให้พูดความจริงแต่เขาเลือกที่จะพูดความจริง

“โบถามหน่อยนะคะ คุณเห็นเหตุการณ์จริงๆ ว่าแตงโมปัสสาวะหรือเปล่า แล้วคุณพูดแบบนั้น นั่นคือความจริงเหรอ สังคมน่าจะคิดแบบโบว่า คุณก็ไม่ได้พูดความจริงเหมือนกัน”

– โบ ย้ำว่าไปอยู่ที่ท่าเรือเห็นเหตุการณ์หลายๆ อย่าง แต่ขอไม่พูดรายละเอียด

ประเด็นเรื่องเป็นญาติกับภรรยาของคนที่อยู่บนเรือ

โบ TK ชี้แจงว่า เรื่องคุณเบนซ์ วงพริกไทย (ภรรยาของปอ) มีเพื่อนโบส่งรูปที่โบถ่ายคู่กับเค้ามารูปนั้นถ่ายในงานแต่งงานของญาติของโบ ตอนนั้นโบคิดว่า เขาน่าจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะเขาเป็นรุ่นน้องโบเหมือนกัน
ก็เห็นว่าเขายิ้มๆ น่ารักดี ยังโพสต์ในไอจีว่าน้องเขามาเล่าว่าเขามีลูกกี่คนแล้ว แต่ที่เขาบอกว่าเขาเป็นญาติโบ โบเพิ่งรู้วันอังคาร (1มี.ค.) เพราะว่าเขาโทรศัพท์มาโดยที่โบไม่ได้รับ… คุณแม่โบแคปหน้าจอที่คุยกับพี่ชายของคุณแม่บอกว่า ถ้ามีเบอร์นี้โทรมาให้โบรับด้วย เป็นน้องชื่อเบนซ์ โบก็เลยถามคุณแม่ว่าโบเป็นญาติกับเขาเหรอ คุณแม่บอกว่าเป็นลูกพี่ชายของคุณแม่ แต่เขาเลิกกันตั้งแต่เด็ก คุณแม่เบนซ์ได้พาลูกออกไปแล้วแต่งงานใหม่กับตำรวจแล้วก็เป็นลูกบุญธรรม เบนซ์เพิ่งรู้ตอนโตด้วยซ้ำว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ โบไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นน้องเขย

ชี้แจงเรื่องที่เป็นคนแรกที่ออกมาโพสต์ภาพแตงโมว่าใส่ชุดอะไร

โบ TK บอกว่า ได้ส่งรูปแตงโมที่ใส่ชุดสายเดี่ยวให้กับกรมเจ้าท่า บีม ศรัญยู พอข้ามวัน บีมก็ส่งข้อความมา ในเวลา 14.37 น.
คลิปเป็นเสียงของบีม “พี่โบๆ พี่โบไม่มีรูปน้องโมใส่โอเวอร์โค้ทขับเรือเหรอ พี่โบส่งให้สื่อเองเลยว่าเนี่ยเป็นชุดจริงๆ ที่ต้องค้นหา มีเสื้อคลุมอยู่ ใช่เปล่า ไม่งั้นเขาก็หาแต่เสื้อขาว ไม่ทราบนะ บีมไม่รู้นะบีมกับชาติไม่ได้ดูข่าว พี่โบส่งข่าวบอกหรือยังครับ ผมว่าอันนี้สำคัญมากเลยนะครับ”

โบ บอกว่า พอบีมส่งเสียงมาแบบนี้ โบไปขอรูปจากกระติก จริงๆ อยากได้รูปที่ใส่โอเวอร์โค้ทที่แตงโมขับเรือ ตอนอยู่ที่ท่าเรือเราดูรูปกัน เราบอกว่าไปทำอะไร ให้เขาเปิดรูปให้ดูว่าทำอะไร เราได้ดูกันตรงนั้น และบีมเองก็อยู่ตรงนั้นด้วย พอเขาส่งรูปนี้ โบรู้สึกว่ามันต้องรีบเป็นประโยชน์ ด้วยความตกใจโบก็เลยโพสต์ไป บอกว่าเราอยู่ที่ท่าเรือเพื่อให้มั่นใจว่าโบอยู่ในเหตุการณ์

เหตุผลที่ต้องมีทนายความ

โบ TK บอกว่า เพราะผู้เกี่ยวข้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีฐานะ เป็นคนที่มีสังคมระดับหนึ่ง โบคิดว่าการที่โบจะพูดอะไร โบอยากได้ความมั่นใจว่า คำพูดจะไม่ถูกบิดเบือน คำพูดของโบทุกคำจะไม่ถูกกลั่นแกล้งโดยใครคนใด ทำให้มันย้อนกลับมาทำร้ายโบได้ เหมือนที่โบเห็นว่า เอ๊ะทำไมคนมาว่าโบล่ะ

ช่วงท้ายของการแถลง

– โบ TK ยืนยันในความเต็มใจที่ออกเป็นพยานในคดีของแตงโม “โบคิดว่า ถ้าโบได้เห็นได้พออะไรที่ต้องพูด โบก็ไม่คิดว่าเป็นภาระอะไร”

– ส่วนว่าถ้าในวันเกิดเหตุเป็นเพื่อนของแตงโมตกน้ำ ในฐานะคนที่สนิทสนมกันคิดว่าแตงโมจะทำอย่างไร

“แตงโมเป็นคนที่ห่วงคนอื่นอยู่แล้ว โบตอบไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร แต่แตงโมที่โบรู้จัก เขาไม่ได้คิดถึงตัวเองก่อนเลย”

– โบ TK ยังบอกว่าในคืนที่มาที่อู่เรือได้นำอธิษฐาน “โบเป็นคำนำอธิษฐานฝากโมไว้กับพระเจ้าตามความเชื่อของเขา ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าแตงโมยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่โบรู้ว่าพระเจ้าอยู่กับเขาแน่นอน ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน”

– ย้ำว่า กังวลหลังจากที่ออกมาพูด แต่เชื่อว่า คนไทยต้องดูแลทุกคนอยู่แล้ว โบเชื่อว่าเราไม่ทิ้งกันหรอก

– โบ บอกด้วยว่า ในรายการโหนกระแส ที่มี 4 คนบนเรือไปออกรายการ โบดูแล้ว ไม่ค่อยพอใจ

– ส่วนเพื่อนของแตงโมบอกว่าอยากให้ ‘กระติก’ ออกมาพูดความจริง

“โบก็คิดเหมือนกันค่ะ ว่าทุกคนควรที่พูดความจริง ทุกคนควรจะได้รับความยุติธรรม ไม่ว่าเขาจะยากดีมีจนฐานะยังไง ฐานะทางสังคมเป็นยังไง ทุกคนควรได้รับความยุติธรรม ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม”

พร้อมฝากประโยคทิ้งท้ายว่า “…The truth will set you free สัจจะ จะทำให้เป็นไท ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องเราได้”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า