สันธนะ ขอให้ข้อมูลสำคัญกับตำรวจ ฝากจับตาหวั่นมี ‘แพะ’ ในคดีแตงโม เรียกสอบกู้ภัยทางน้ำ 3 ชั่วโมง

เตรียมเชิญพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพิ่ม ฟากอดีตตำรวจสันติบาลขอให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี ส่วนคนบนเรืออาจเรียกสอบซ้ำถ้ามีประเด็นสงสัยเพิ่ม

วันที่ 5 มี.ค. 2565 พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ ‘แตงโม นิดา’ จะเรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมที่ไม่ใช่คนบนเรือ แต่ยังต้องรอสรุปว่าจะเชิญใคร ส่วนบุคคลที่อยู่บนเรือลำเกิดเหตุ ได้เรียกสอบไปหลายรอบแล้ว แต่หากยังมีประเด็นข้อสงสัยใด ก็ต้องเรียกมาสอบซ้ำ เช่น กระติก กับแซน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะซักถามในประเด็นใด

สำหรับเรื่องการย้ายเรือของกลางไปไว้ที่แขวงทางหลวงชนบท เพราะตั้งแต่แรกไม่มีพื้นที่จัดเก็บที่เหมาะสม ทำให้ต้องฝากไว้ที่อู่เรือเอ็นบีซีก่อน แต่ภายหลังสามารถประสานหน่วยงานของรัฐที่พร้อมจะให้จัดเก็บได้ จึงย้ายออกไป

ส่วนประเด็นเรื่องพบเส้นผม ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องในโซเชียลที่มีการเผยแพร่ภาพบทสนทนาในอินสตาแกรม ซึ่งอ้างว่ามีการพูดคุยกับ กระติก ลักษณะเนื้อหาคือ กระติกได้กล่าวขอบคุณที่มาให้การช่วยเหลือเรื่องทนายความ และบอกด้วยว่า ตนเล่าความจริงไปหมดแล้ว แต่เพื่อนๆ บังคับ ไม่อยากให้พูดอะไรที่ไม่ตรงกัน และตนก็พลาดเองที่รับงานแบบนั้น โดยยังไม่มีการยืนยันถึงแหล่งที่มาของภาพบทสนทนา รวมถึงการยืนยันว่าบทสนทนาดังกล่าวนี้เป็นของจริงหรือไม่

• เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำ ในฐานะพยาน สอบปากคำ 3 ชั่วโมง

ส่วนวันนี้ นายสุพจน์ สวดมาลัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญู จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นชุดแรกที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ ในการค้นหา น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ในฐานะพยาน โดยใช้เวลาการให้ปากคำนานเกือบ 3 ชั่วโมง

นายสุพจน์ กล่าวว่า มาให้ปากคำในฐานะพยาน เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในวันเกิดเหตุ และมาทำการค้นหาใบพัดเรือที่สูญหาย โดยให้รายละเอียดข้อเท็จจริงของการปฏิบัติงาน ซึ่งได้รับแจ้งตามที่ให้ไว้กับตำรวจ ประมาณ 22.00 น.กว่าๆ เกือบ 23.00 น. ที่ไปถึงที่เกิดเหตุ

ส่วนในวันเกิดเหตุเจอบุคคลทั้ง 5 คน ที่อยู่บนเรือ อยู่ในอาการตกใจ ทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่แน่ใจว่ามึนเมาหรือไม่ และทั้ง 5 คน ก็ให้ข้อมูลกับทีมกู้ภัยในวันเกิดเหตุว่า มีคนตกน้ำ แต่เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยากว้าง ทำให้กำหนดจุดค่อนข้างยาก ซึ่งทั้งหมดก็ให้ข้อมูลค่อนข้างตรงกัน และเป็นข้อมูลที่ใกล้เคียงกับที่เจ้าหน้าที่ถอดจีพีเอสเรือได้ ห่างจากสะพานพระราม 7 มาประมาณ 800-900 เมตร

ซึ่งในการค้นหาวันเกิดเหตุ อุปสรรคคือแสงสว่างเพราะค่อนข้างมืด กระแสน้ำไม่แรง และทั้ง 5 คน เมื่อชุดกู้ภัยไปถึง ก็แจ้งว่ามีคนตกน้ำ เป็นผู้หญิงให้ช่วยค้นหา ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร และไม่ได้บอกรายละเอียดของการแต่งกาย บอกเพียงว่าตกน้ำมา 20 นาที ก่อนหน้านี้ที่กู้ภัยจะไปถึงไม่ได้สังเกตว่าบนเรือมีขวดหรือแก้วไวน์หรือไม่ และไม่ทราบว่า ทั้ง 5 คน ออกจากที่เกิดเหตุเวลาไหน เพราะไปถึงก็วางแผนการค้นหาทันที ส่วนในวันที่ปฏิบัติการค้นหา ร่องน้ำลึกตรงกลางจะเป็นทราย ซึ่งพื้นทรายจะมีความลึกประมาณ 20 เมตร ถ้าช่วงริมแม่น้ำจะมีขยะและโคลนอยู่มาทางริมตลิ่ง

ส่วนกรณีการงมหาใบพัดเรือของกลางที่ตกลงไป ไม่ได้สังเกตเรื่องเส้นผม แต่ยืนยันว่า เป็นการงมตามพิกัดที่ได้รับแจ้งไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนใบพัด

• สันธนะ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าพบตำรวจขอให้ข้อมูลสำคัญหวั่นพนักงานสอบสวนถูกผู้มีอำนาจครอบงำการทำคดี

ต่อมาช่วงเย็น วันที่ 5 มี.ค. 2565 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมา แจ้งนัดหมายกับพนักงานสอบสวนสภ. เมืองนนทบุรี ว่าต้องการจะเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีเพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนดำเนินคดี และต้องการมาสอบถามในประเด็นที่ตั้งข้อสงสัย กับการทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ของชุดคลี่คลายคดี ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (7 มี.ค. 65)

ซึ่งเชื่อว่าการทำคดีนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องในชุดคลี่คลายคดีมีการพยายามทำลายหลักฐาน เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจพุ่งเป้าไปเพียงประเด็นเดียว และไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นอื่น และพนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาทไปแล้ว เพียงแค่ 2 คน ซึ่งจากข้อมูลที่ทราบมามองว่าคนที่อยู่บนเรือทุกคน จะต้องร่วมกันรับผิดชอบ หากพยานหลักฐานไปถึงก็จะต้องถูกดำเนินคดี คนบนเรือต้องถูกดำเนินคดีมากกว่าข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตอยู่ในสภาวะที่ถูกบีบคั้นกดดัน

“ คุณแตงโมอยู่ในสภาวะที่ทำให้ต้องกระโดดน้ำหนีเพื่อให้พ้นจากเหตุการณ์บนเรือเพื่อเอาชีวิตรอด และอีกประเด็นคือ  มีการกระทำความรุนแรงเป็นเจตนาที่ทำให้คุณแตงโมตกลงไปเพื่อประสงค์ต่อชีวิต และเชื่อตลอดว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณแตงโมจะตกน้ำจากการไปปัสสาวะ ซึ่งตำรวจจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้” นายสันธนะ กล่าว

นายสันธนะ กล่าวต่ออีกว่า ฝากถึงกลุ่มธุรกิจของคนบนเรือที่มีการพูดคุยกันกับคนใกล้ชิดว่าคดีนี้สบายมาก ที่ดูเหมือนมั่นใจ ก็ขอให้สบายจริงๆ ต้องจับตาอาจจะมีคำที่เราใช้ว่า แพะ หรือไม่