สมาคมมีเดียเอเยนซี่ฯ คาดปีนี้ตลาดโฆษณาโต 2.1-5% ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อ-สงครามยูเครน

ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (Media Agency Association of Thailand : MAAT) เปิดเผยคาดการณ์ตลาดสื่อโฆษณาในประเทศไทย ปี 2565 ว่าน่าจะมีภาพรวมการเติบโตอยู่ระหว่าง 2.1-5% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน และความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

“มูลค่าตลาดโฆษณาในประเทศไทยปี 2564 มีการเติบโตขึ้น 1.1% นำทัพด้วยธุรกิจด้านสุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภคภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า เรียกได้ว่าตลาดโฆษณาในไทยยังถือว่าเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับในปี 2565 หน่วยธุรกิจที่สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่เน้นการอยู่บ้าน สินค้าที่จำเป็นและดีต่อสุขภาพยังคงเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งช่องทางออนไลน์ที่มีความนิยมอย่างมาก ส่งผลให้หลายกลุ่มธุรกิจเติบโต เช่น  ธุรกิจเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์และเพื่อสุขภาพ ร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า วิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก และเว็บไซต์และแอปพลิชั่น

“ปัจจัยบวกต่อตลาดโฆษณาในปีนี้มาจากทั้งมู้ดการจับจ่าย การกระตุ้นจากภาครัฐ การเลือกตั้ง อีเวนต์การแข่งขันกีฬาหลักๆ เช่น ซีเกมส์ เป็นต้น”

ในส่วนของการคาดการณ์ตลาดโฆษณาในปี 2565 การเติบโตส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับปริมาณการติดเชื้อไวรัสโอมิครอนต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้

-ระดับที่ 1 ถ้ามีปริมาณการติดเชื้อสูงสุดที่ 11,000 คนต่อวัน ภาพรวมของตลาดโฆษณาจะมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5%

-ระดับที่ 2  ถ้ามีปริมาณการติดเชื้อสูงสุดที่ 17,000 คนต่อวัน ภาพรวมของตลาดโฆษณาจะมีแนวโน้มเติบโตลดลงเหลือ 4%

-ระดับที่ 3 ถ้ามีปริมาณการติดเชื้อสูงสุดที่ 32,000 คนต่อวัน ภาพรวมของตลาดโฆษณาจะมีแนวโน้มเติบโตลดลงเหลือ 3%

แต่ถึงอย่างนั้น อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญก็คือสงครามในประเทศยูเครน ที่ถ้าหากมีการยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนของแบรนด์ต่างๆ สูงขึ้น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะถีบตัวสูงขึ้น

ซึ่งสมาคม MAAT มองว่าจะเป็น Worst Scenario โดยผลกระทบหนักสุดน่าจะอยู่ในไตรมาส 2/2565 หรือช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน อย่างไรก็ตามตลาดโฆษณาโดยรวมทั้งปีจะยังเป็นบวก แต่การเติบโตจะลดลงเหลือ 2.1%

โดยสื่อที่มีการเติบโตมากขึ้นคือสื่อ out-of-home เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีการเดินทางออกจากบ้านแบบเป็นปกติมากขึ้น ใช้ชีวิตร่วมกับโควิดได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีการระมัดระวังตัว ใส่หน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด

ส่วนอีกสื่อหนึ่งที่จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่ได้หวือหวาเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาคือสื่อออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตถึง 10.2%

ขณะที่การขยายตัวของค่าสื่อ หรือ Media Inflation สมาคมฯ ประเมินว่าโดยรวมปีนี้จะเติบโตที่ 5% โดยทีวีจะมีเพิ่มขึ้นมากสุดคือ 6.39% และ out-of-home เพิ่มขึ้น 3% ในขณะที่สื่ออื่นๆ ยังคงราคาไว้ ยกเว้นสื่อสิ่งพิมพ์ที่จะลดลง 5% ตามแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่องทุกปี

ดร.ธราภุช กล่าวว่า เราผ่านช่วงเวลาจากสถานการณ์โควิด-19 เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ความรุนแรงของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเริ่มน้อยลงสำหรับประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็มหรือมากกว่า

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวก็ยังมีการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นภายใต้มาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาล แต่ปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจ ณ ปัจจุบันคือสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และประเทศอื่นๆ

“ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราพึงทำได้คือการสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และการจับจ่ายใช้สอยสินค้าในประเทศ ซึ่งนักการตลาดควรเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวอย่างทันท่วงทีให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด และต้องเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปได้ด้วยกัน” ดร.ธราภุช กล่าวทิ้งท้าย