ครบ 8 ปี วงโยฯ ขอยืมเงิน ‘ตัน’ 3.1 ล้าน ถึงวันนี้ยังไม่ได้คืน

explainer วันนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์สำคัญ เมื่อวงโยธวาทิต จากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้บุกไปขอยืมเงิน “ตัน-อิชิตัน” เพื่อไปร่วมประกวดงานดนตรีที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ สุดท้ายได้เงินมาจริงๆ โดยตัน จ่ายให้ 3.1 ล้านบาท แบบโดนมัดมือชก

ผ่านมา 8 ปี วันนี้เด็กนักเรียนเหล่านั้น เรียนจบกันหมดแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีการคืนเงินเกิดขึ้น เรื่องราวประวัติศาสตร์นี้เป็นอย่างไร workpointTODAY จะสรุปเหตุการณ์นี้ให้เข้าใจง่ายที่สุดใน 15 ข้อ

1) ย้อนกลับไปวันที่ 23 มีนาคม 2557 กลุ่มนักเรียนจากวงดรัมไลน์ ชื่อ Max Percussion Theater สังกัดโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จำนวน 30 คน พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ พรเนรมิต ครูผู้ฝึกสอน ได้บุกมาที่อารีน่า 10 ในซอยทองหล่อ พร้อมทั้งชูป้ายแบนเนอร์ เขียนว่า “พวกเรามากราบขอยืมเงินคุณตัน 3.1 ล้าน เพื่อไปประกวดดรัมไลน์โลก ต้องจ่ายเงินพรุ่งนี้ก่อน 9.00 น.”

(Note : วงดรัมไลน์ คือวงที่ใช้เครื่องดนตรีกลุ่ม Percussion แต่ใน explainer จะขออนุญาตใช้คำว่า “วงโยฯ” ไปเลย เพราะเป็นศัพท์ที่เข้าใจร่วมกันในข่าว)

คำอธิบายคือ การประกวดดนตรีที่เนเธอร์แลนด์ ในชื่อรายการ Percussion & Color Guard จะจัดขึ้นวันที่ 26 มีนาคม 2557 โดยนักดนตรีและครูผู้ฝึกสอน ทำวีซ่าเชงเก้น และจองตั๋วเครื่องบินไปหมดแล้ว เพราะตอนแรกเข้าใจว่าจะได้งบสนับสนุนการเดินทางจาก สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)

แต่เมื่อ สพฐ. ไม่อนุมัติเงินให้ จึงไม่มีเงินไปจ่ายซื้อตั๋วเครื่องบิน ซึ่งการแข่งขันกำลังจะเริ่มอยู่แล้วในอีกไม่กี่วัน จึงตัดสินใจ “บุกไปขอยืม” นายตัน ภาสกรนที เจ้าของเครื่องดื่มอิชิตัน จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อเอาไปซื้อตั๋วเครื่องบิน สำหรับเดินทางไปเนเธอร์แลนด์ โดยตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่อารีน่า 10 โดยไม่ไปไหน จนกว่าจะได้เงิน

2) ทางวงอธิบายว่า ขอเบิกเงินรัฐไปแล้ว 13 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ จึงไม่รู้จะทำอย่างไร มืดแปดด้านแล้วจริงๆ ก็เลยไปหาขอเงินจากคนรวย โดย ณ เวลานั้น ชื่อเสียงของตัน โด่งดังในฐานะเศรษฐีจอมแจก เพราะชาเชียวอิชิตันมีแคมเปญ “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง แจกล้านทุกวัน ลุ้นปอร์เช่ทุกเดือน” จึงเป็นเป้าหมายที่เหมาะสม กับการ “ขอยืมเงิน” คือดูทรงแล้ว น่าจะเป็นคนที่ให้หยิบยืมเงินได้

3) การที่อยู่ๆ มีเด็กนักเรียน 30 กว่าคน มาชูป้ายขอเงิน ตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนข้ามคืนแล้วก็ไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ทันที เพจ Drama Addict วิจารณ์ว่า “สิ่งแรกที่น้องต้องทำ ไม่ใช่การนั่งคุกเข่าขอเงินจากเสี่ยแล้วบอกว่า ข้าน้อยจะไม่ลุกจนกว่าเสี่ยจะยอมมอบเงินให้ข้า เหมือนในหนังจีนกำลังภายใน

แต่น้องๆ ทุกคน ต้องเรียกสื่อมวลชนมา จากนั้นก็แสดงความสามารถไอ้ที่จะไปแข่งต่างประเทศ ให้สื่อดู ให้เขาเข้าใจว่าเรามีหวัง มีลุ้นได้รางวัล เมื่อนั้นแหละน้อยๆ จะเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในสายตาอาเสี่ยทันที ไม่ใช่แค่เสี่ยตัน เผลอๆ พวกบุญรอด หรือเครือ CP อาจมาติดต่อ ขอสนับสนุนน้องๆ ด้วยซ้ำ”

4) กรณีศึกษาเรื่องนี้ เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในปี 2554 เมื่อวงโยธวาทิต จากโรงเรียนสวนลุมพินี ต้องการเงินทุนไปแข่งขันที่ฮ่องกง จึงพยายามเล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่ที่สวนลุมพินี ขอเงินสนับสนุนจากผู้ออกกำลังกายในสวน จน “ข่าวสามมิติ” ทางช่อง 3 มาเห็น แล้วเอาไปออกทีวี สุดท้ายผู้บริหาร บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ดูรายการอยู่พอดี จึงอนุมัติเงิน 3 ล้านบาท เป็นสปอนเซอร์ให้โรงเรียนสวนลุมพินี ดังนั้นถ้าหากเด็กๆ โรงเรียน สตรีวิทยา 2 วางแผนได้ถูกต้องกว่านี้ ก็อาจไม่จำเป็นต้องบุกมาขอเงินจากเสี่ยตันด้วยวิธีนี้

5) เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง น้องๆ นักเรียนนั่งอยู่ตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึง ตี 5 สุดท้าย ตัน ภาสกรนที เดินทางไปที่อารีน่า 10 แบบงงๆ พร้อมกับเขียนเช็กเงินสดให้ 3.1 ล้านบาท พร้อมกล่าวว่า “ถึงน้องๆทุกคน ขอโทษนะ พี่ไม่ใช่รัฐบาล และก็ไม่ใช่สปอนเซอร์ และพี่ก็ไม่มีปัญญาไปช่วยทุกคน”

“ต่อไปนี้ อย่าได้นำใครมาแบบนี้อีกนะ แล้วพี่จะไม่ให้อีกเด็ดขาด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าพี่ให้อีกแบบนี้นะ ต่อไปนี้จะมีคนมารอที่สนามบอลที่นี่ทุกวันเลย นี่เป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะให้ช่วยเหลือแบบนี้ โอเคมั้ย?”

“พี่ขอมอบเงินส่วนนี้ให้น้องทุกคนไปทำหน้าที่ เพื่อชาติ ไม่ต้องเอาเงินมาคืนพี่ แต่เอาชื่อเสียงและรอยยิ้มกลับมาฝากคนไทย เข้าใจตรงกันนะ”

6) สุดท้าย ตัน-อิชิตัน มอบเงิน 3.1 ล้านบาท จริงๆ ตามที่ถูกขอ ซึ่งในโลกออนไลน์ ก็มีคอมเมนต์ว่า ตันโดนมัดมือชก ถ้าไม่ให้เงิน ภาพลักษณ์ของนักธุรกิจสายเปย์ใจดีก็จะติดลบ
ผู้คนสงสารตัน และพากันต่อว่ากลุ่มนักเรียนอย่างหนักหน่วง คุณมีสิทธิ์อะไรจะไปกดดันคนอื่น บีบให้ยืมเงินอย่างที่ตัวเองต้องการ เป็นขอทานหรือยังไง จงมีเกียรติและศักดิ์ศรีบ้าง ถ้าหาเงินไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปสิ

7) เมื่อเด็กๆ วงโยฯ โดนด่าเละเทะ ว่าเป็นวงขอทาน จึงตอบโต้กลับอย่างดุเดือดในทวิตเตอร์ เช่น

“ถึงพวกกูจะเป็นขอทาน ก็ขอทานทีมชาติล่ะวะ”

“วงกูดีกรีระดับโลกไม่ใช่แตรวงงานวัด”

“วงโยฯ โรงเรียนกูไม่ธรรมดา ได้รับเชิญไปแข่งระดับโลก มึงอย่าเสือกมาด่า ชีวิตมึงทำเหี้ยไรได้บ้าง นอกจากเห่าหอนเป็นนักเลงคีย์บอร์ดไปวันๆ”

เมื่อโดนตำหนิแล้วไม่ยอมรับ พร้อมกับตอบโต้กลับ จึงกลายเป็นการจุดชนวนความโมโหให้คนในสังคมเข้าไปอีก ว่าเด็กเหล่านี้ไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำเลย

8 ) ปมดราม่าซับซ้อนมากขึ้น เมื่อมีการปล่อย “คลิปเสียง” เป็นการคุยกันของสมาชิกวงโยฯ กับ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 โดยมีเสียงระบุออกจาก ผอ. ว่า “มีทางเดียวที่จะไปได้ ครูเห็นทางสว่างคือ ยืมเงินเอกชนไป ได้ถ้วยกลับมาเมื่อไหร่นะ ไอ้พวกนี้มันเทให้หมดหน้าตัก แล้วเราจะได้เงินฟรีอีกประมาณ 8-9 ล้าน”

ในคลิปเสียงมีคนโต้แย้ง ผอ. ว่า “อาจารย์ครับ แต่รายการ Color Guard ศักดิ์ศรีมันเทียบไม่ได้กับ WGI เลยนะครับ” แต่ผอ. ตอบกลับมาว่า “คนไทยมันไม่รู้หรอก ว่าถ้วยไหนศักดิ์ศรีเป็นยังไง มันไม่รู้เรื่อง พอชนะ หมอพวกนี้ มันจะโผล่มาเอาหน้าสลอนกันเลย”

เท่ากับว่าเรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่นักเรียนเท่านั้น แต่ผู้บริหารโรงเรียน ก็ยังเห็นดีเห็นงามด้วย โดยทำเป็นขบวนการ ขอแค่หายืมเงินใครก็ได้ เพื่อให้ไปแข่งได้ก่อน แล้วหวังจะกลับมาฟันเงินจากสปอนเซอร์ ถ้าได้รางวัลอะไรสักอย่างกลับมา

9) เมื่อสื่อมวลชนลงทำการสืบค้น ก็พบความผิดปกติมากมาย จากกรณีวงโยฯ ครั้งนี้ อย่างแรกคือ การคิดเองว่าเป็น “ตัวแทนทีมชาติ” เพราะวงโยฯ จากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ไม่ได้ประกวดชนะรายการอะไรในประเทศแล้วจึงได้โควต้า แต่เป็นการ “ขอไปร่วมประกวดด้วย” ที่เนเธอร์แลนด์เฉยๆ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรมว. ศึกษาธิการ ในขณะนั้นอธิบายว่า โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ไม่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ ที่กรมพลศึกษาจัดแข่งขันในแต่ละปี ดังนั้นจึงภาครัฐจึงไม่สามารถให้เงินสนับสนุนไปแข่งต่างประเทศได้

โรงเรียนที่ชนะเลิศการประกวดของกรมพลศึกษาปีล่าสุด คือโรงเรียนอรรถวิทย์พาณิชยการ ดังนั้น ถ้าจะมีโรงเรียนที่จะงบจากรัฐได้ คือโรงเรียนอรรถวิทย์ฯ แต่ สตรีวิทยา 2 ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะขอ

อย่างที่ 2 คือ รายการ Percussion & Color Guard ที่เนเธอร์แลนด์ เป็นรายการเล็กๆ ไม่ใช่รายการใหญ่อย่าง WGI ที่สหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้นในประเภท World Class ที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ลงแข่งด้วย ก็มีพวกเขาแข่งขันอยู่ทีมเดียว เหมือนไปเล่นโชว์ มากกว่าจะไปแข่งกับใคร

อย่างที่ 3 คือ เป็นการคอร์รัปชั่นในแง่งบประมาณ เพราะนักดนตรีที่เดินทางไปประกวด ทั้งหมด 67 คน มีเด็กจากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แค่ 16 คน เท่านั้น อีก 51 คนที่เหลือ คือคนนอก ที่ยืมตัวมาจากสถาบันอื่น หลายคนก็เรียนจบมัธยมไปนานแล้ว แต่ตอนแรกสุดมีการของบจากรัฐ เพื่อให้คนนอกโรงเรียนได้ไปด้วย

อย่างที่ 4 คือเมื่อได้งบมา 3.1 ล้านบาท นักดนตรีใช้เงินก้อนนี้ เอาไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน มีการไปเที่ยวที่แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน จ้างไกด์เสร็จสรรพ พร้อมมีการรับพรีออเดอร์สินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

10) การเอาเงินจากตัน ภาสกรนที ไปใช้จ่ายโดยอ้างว่าเป็นตัวแทนทีมชาติ ซึ่งความจริงไม่ใช่แบบนั้น ทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เสียหายหนักมาก นักเรียนปัจจุบันและศิษย์เก่าเริ่มโดนประณาม จากนั้น สังคมเริ่มไล่บี้ทวงถามโรงเรียนว่า จะคืนเงิน 3.1 ล้านบาท ให้ตัน-อิชิตัน ได้เมื่อไหร่

สมาคมศิษย์เก่าสตรีวิทยา 2 แถลงการณ์ยืนยันว่า “ยินดีให้ความร่วมมือกับโรงเรียนสตรีวิทยา 2 พร้อมทั้งองค์กรภายในโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จัดหามาใช้คืนในเวลาอันใกล้นี้”

สอดคล้องกับ พงศกร เลิศศักดิ์วรกุล นักดนตรีในวง วัย 25 ปี ได้กล่าวว่า “ผมอยากเอาเงินไปคืน วันนี้-พรุ่งนี้ ให้เร็วที่สุดเลยครับ”

“ส่วนถ้าคุณตันจะไม่รับคืน ผมได้ยินมาว่าคุณตันมีมูลนิธิอยู่ ก็จะเอาเงินเข้าตรงนั้นไป ยังไงพวกผมไม่เอาเงินตรงนี้อยู่แล้วครับ”

11) แต่ปัญหาคือ ชื่อเสียงของวง Max Percussion Theater มันติดลบไปแล้ว ถึงแม้จะได้เหรียญรางวัลที่เนเธอร์แลนด์กลับมา แต่ก็ไม่มีสปอนเซอร์เจ้าไหน กล้ายุ่งเกี่ยวด้วย หลายคนโยงไปถึง ที่ผอ. เคยพูดไว้ว่า “คนไทยมันไม่รู้หรอก ว่าถ้วยไหนศักดิ์ศรีเป็นยังไง มันไม่รู้เรื่อง พอชนะ หมาพวกนี้ มันจะโผล่มาเอาหน้าสลอนกันเลย” ในมุมของสปอนเซอร์ที่จะมาให้เงินซัพพอร์ทแล้วยังโดนด่าว่าเป็นหมา จึงยากที่จะให้การสนับสนุน

12) จริงๆ แล้ว ตามกำหนดเดิม วง Max Percussion Theater หลังจากกลับจากเนเธอร์แลนด์ ต้องไปสหรัฐอเมริกาต่อที่แข่งขันอีกรายการด้วย และเตรียมขอทุนมากกว่า 8 ล้านบาทเพิ่มเติม แต่สุดท้าย หลังจากตกเป็นข่าว ไม่มีใครให้งบประมาณ ทั้งรัฐและเอกชน แผนการเดินทางไปสหรัฐฯ จึงล้มเลิกไป

13) การไม่ได้รับเงินจากสปอนเซอร์ ส่งผลสำคัญคือ ทางวงไม่มีเงินเอาไปคืน ตัน-อิชิตัน ขณะที่สมาคมศิษย์เก่าที่เคยรับปากว่าจะคืนเงิน ก็หายเงียบไปเลยเช่นกัน

14) หลังเหตุการณ์ผ่านไป 2 ปี ตัน-อิชิตัน ให้สัมภาษณ์กับ a day Bulletin ว่า ถ้าได้เงินคืนจากวงโยฯ ก็จะบริจาคต่อให้ กับกลุ่มลูกเหรียง ที่ช่วยเหลือนักเรียนในเขตเปราะบางที่จังหวัดยะลา แต่สุดท้ายผ่านไป 2 ปี ก็ยังไม่ได้เงินคืน

ตัน กล่าวว่า “ผมไม่ได้ทวงนะ เขาเป็นคนพูดเอง … เพราะสังคมเดี๋ยวนี้ พูดอะไรไปแล้ว ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรก็ได้ คุณบอกว่าจะคืน ก็ควรจะคืน ผมจะได้ส่งต่อให้คนอื่นเขาไป ผมไม่ได้ทวงนะ เพราะเขาพูดเองว่าจะคืน”

15) ในวันนี้ (23 มีนาคม) เหตุการณ์ยืมเงิน 3.1 ล้านบาท ผ่านมาแล้ว 8 ปี นักเรียนแต่ละคนก็เรียนจบ มหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว

ส่วนวง Max Percussion Theater ก็ประกาศรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อเป็น Nexus Indoor Percussion หลายคนเชื่อว่า เพื่อต้องการลดแรงเสียดทาน คนที่อยู่ในวงจะได้เริ่มต้นใหม่ โดยไม่โดนตีตราว่าเป็นวงขอทานอีก
อย่างไรก็ตาม เรื่องเงิน 3.1 ล้านบาท ก็ยังหายเงียบแบบไร้ร่องรอย ทั้งนักดนตรี และศิษย์เก่า ยังไม่มีการคืนเงินให้เจ้าของแม้แต่บาทเดียว

บทสรุปคำว่า “ยืมเงิน” เมื่อยืมใครแล้ว ก็ต้องคืน แต่เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า ถ้าหากให้ยืมกับคนที่ไม่ถูกต้อง การยืมอาจเปลี่ยนเป็นการยึด ได้เหมือนกัน