พายุหมุน ยกบ้านทั้งหลังลอย ก่อนหล่นลงมาพังยับ ! ด.ช.วัย 4 เดือน รอดหวุดหวิด คว้าออกมาได้ทัน

ประเด็นคือ – ที่ จ.ชุมพร เกิดลมพายุอย่างรุนเเรง โดยมีบ้านหลังหนึ่งในบ้านในจอก หมู่ที่ 10 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ธค. 60 ที่บ้านในจอก หมู่ที่ 10 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นายสมจิต หีดฤทธิ์ ผญบ.หมู่ที่ 10 รับแจ้งจาก นายสมควร ธงชัย อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 9 /11 หมุ่ที่10 ว่าได้เกิดพายุพัดบ้านของครอบครัวพังเสียหายยับ จึงพร้อมด้วย นายอัครชัย ชัยจิระฉายากุล นายอำเภอพะโต๊ะ , พ.ต.อ .ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.พะโต๊ะ รีบเดินเข้าไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบว่า หมู่บ้านดังกล่าวมีบ้านเรือนหลายสิบหลังอยู่ท่ามกลางหุบเขา โดยบ้านเลขที่ 9/11 เป็นบ้านสองหลังในรั้วเดียวกัน หลังด้านหน้าเป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ส่วน ด้านหลังเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งด้านหน้าบ้านไม้ 2 ชั้น มีกองหลังคา ทั้งกระเบื้องหลังคา ทั้งไม้ อยู่เต็มบริเวณหน้าบ้าน ใต้กองเศษกระเบื้องไม้ พบรถกะบะใหม่เอี่ยม 1 คัน , รถกะบะสภาพเก่าอีก1 คัน , รถ จยย.อีก 4 คัน และ ทรัพย์อื่นๆ อาทิ อุปกรณ์เครื่องมือทางการเกษตรอีกจำนวนมาก ที่พังเสียหายยับเยิน

เมื่อเดินเข้าไปด้านหลังพบว่า บ้านไม้ชั้นเดียว หายไปจากพื้นดินที่เคยปลูกไว้ทั้งหลัง เหลือแต่เสา นางสุนีย์ ธงชัย อายุ 43 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านเล่าว่า “ในช่วงเช้าขณะที่คนในบ้านจำนวน 5 คน มีเด็กชายอายุ 4 เดือน 1 คน นั่งล้อมวงกินกาแฟ ที่ด้านหน้าบ้านไม้ 2 ชั้น ได้เกิดพายุหมุนอย่างรุนแรง จนบ้านทั้งหลังสั่นไปหมด ได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่าดังมาก แล้วเห็นหลังคาบ้านชั้นเดียวด้านหลังลอยมาหล่นที่ด้านหน้าข้างๆ บ้าน 2 ชั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปเอาหลานชายที่นอนในบ้านออกมา ก่อนออกไปหลบที่ถนนหน้าบ้าน พายุพัดอยู่ประมาณ 10 นาที พบว่าบ้านไม้ชั้นเดียวถูกพายุพัดลอยละลิ่วมาตกทับโรงจอดรถยนต์และเครื่องมือทางการเกษตร พังยับเยิน เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”

นายสมจิต หีดฤทธิ์ ผญบ.หมู่ที่ 10 เปิดเผยว่า “ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวให้ หน่วยเหนือทราบ และ เดินทางเข้ามาเป็นกำลังใจ ให้กับคนในครอบครัวนี้ จะได้ประสานความช่วยเหลือต่อไป ในพื้นที่มีฝนตกหนักมา 5 วัน มีน้ำป่าไหลลงมาจากภูเขาสูงตลอดเวลา สีแดงขุ่นคลั่ก ได้เตือนให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง และ ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา

ส่วนความช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านพัง ก็คงทำตามระเบียบทางราชการ เจ้าของบ้านบอกว่า “จะซ่อมให้เหมือนเดิม คงมีความยากลำบากเพราะปีนี้รายได้จากผลลิต อาทิ มังคุด ปาล์ม ทุเรียน กำลังออกผล แต่มีฝนตกลงมามาก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย ความเสียหายนับแสนบาท ก็ยังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาซื้ออุปกรณ์ซ่อมบ้าน ก็ต้องแออัดอยู่ในบ้านไม้ 2 ชั้นไปก่อน แค่เอาชีวิตรอดมาได้ก็โชคดีแล้ว ตั้งแต่อาศัยในบริเวณดังกล่าวมานาน 30 ปีไม่เคยมีเหตุการณ์ แบบนี้มาก่อน”