‘อัศวิน’ เปิดตัวนโยบาย ไปต่อ 8 ด้าน พร้อมกองหนุน ‘กลุ่มรักษ์กรุงเทพ’ ส่งผู้สมัคร ส.ก. ครบ 50 เขต

‘อัศวิน’ เปิดตัวนโยบาย ไปต่อ 8 ด้าน พร้อมกองหนุน ‘กลุ่มรักษ์กรุงเทพ’ ส่งผู้สมัคร ส.ก. ครบ 50 เขต

วันที่ 28 มี.ค. 2565 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดตัวทีมงาน ที่โกดังเสริมสุข เขตคลองสาน โดยมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรคไทยภักดี มอบดอกไม้ให้กำลังใจ โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวในการแถลงเปิดตัวนโยบายโดยสรุปว่า จากการทำงานในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ได้ผลักดันนโยบายต่างๆ ตามยุทธศาสตร์ มาสู่การปฏิบัติให้เกิดผลขึ้นจริงได้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายนโยบาย อาทิ แก้ปัญหาน้ำท่วม ซ้ำซากจาก 24 จุด เหลือ 9 จุด และคุณภาพน้ำในคูคลองต่าง ๆ ดีขึ้น, แก้ไขปัญหาการเดินทาง มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายขึ้น เดินทางได้สะดวกมากขึ้น ทั้งทางเท้า รถไฟฟ้า เรือโดยสารไฟฟ้า ถนน ทางลอด ทางแยก, แก้ปัญหาพื้นที่สีเขียว ให้คนกรุงเทพฯ มีสวนสาธารณะและมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น ทั้งสวนขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก Dog park และ Pocket park, แก้ไขปัญหาสาธารณสุข ทำให้คนกรุงเทพฯ บางพื้นที่ มีโรงพยาบาลใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน มีระบบการรักษาที่ทันสมัย รวมถึงการแก้ไขปัญหาการศึกษา ทำให้ลูกหลานได้มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น และอิ่มท้องเวลาไปโรงเรียน เป็นต้น

แต่ก็ยอมรับว่า บางปัญหาจะแก้ไขได้ ต้องใช้เวลาและการทำงานอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้จึงขออาสาประชาชนชาวกรุงเทพฯ เข้ามาทำงานสานต่อนโยบายต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้ “กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ” ให้กรุงเทพฯ “เป็นสังคมปลอดภัย สงบสุข ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี” เติมเต็มความหวังให้กับชาวกรุงเทพมหานคร โดยให้ความหมายของการไปต่อ คือ “ไปต่อจากที่ทำไว้แล้ว” เป็นนโยบายหลัก 8 ด้าน ได้แก่

1. ไปต่อ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่ลดลง ซึ่งลดไปแล้วจาก 24 จุด เหลือ 9 จุด และจะลดต่อ ด้วยวิธีที่ตนมีประสบการณ์

2. ไปต่อ เพื่อสร้างความสะดวกในทุกการเดินทาง เพราะอยากเห็น “คนกรุงเทพฯ” คนเดินเท้าปลอดภัย ระบบขนส่งมวลชนสะดวกและสร้างความเชื่อมโยง

3. ไปต่อ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับ “คนเมือง” และระบบการรักษาที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” มีที่รักษาพยาบาลใกล้บ้านและครอบคลุมทุกพื้นที่ ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม

4. ไปต่อ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมเมืองที่ดี เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” เพิ่มพื้นที่สีเขียว จัดการขยะที่ต้นทาง มีคลองสวยน้ำใส

5. ไปต่อ เพื่อทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เพราะอยากเห็น “ลูกหลานและคนกรุงเทพฯ” มีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งกายและใจในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้น จะได้รับการศึกษาทั้งทักษะอาชีพและความรู้พร้อมกันไป

6. ไปต่อ เพื่อเติมเต็มความปลอดภัยให้กับคนเมือง เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” มีอาชญากรรมลดลง และมีการเตรียมพร้อมขจัดภัยพิบัติ

7. ไปต่อ เพื่อเชื่อมกรุงเทพฯ สู่เมืองดิจิทัล เพราะอยากเห็น “คนกรุงเทพฯ” ได้รับบริการจากหน่วยงานราชการของกรุงเทพฯ ที่โปร่งใสเชื่อมโยงและรวดเร็ว

8. ไปต่อ เพื่อดูแลคนทุกกลุ่มทุกวัย เพราะอยากเห็นบริการและสวัสดิการชุมชนทั่วถึง

พล.ต.อ.อัศวิน ย้ำจะก้าว “ต่อไป” พร้อมกับคนรุ่นใหม่ จากหลายสาขาอาชีพ รวมถึงผู้พิการ ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ใช่แค่การ “ร่วมทำ” แต่จะมาช่วย “ร่วมคิด” สร้างนโยบาย ร่วมกับคนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ โดยจะเรียกคนเหล่านี้ว่า “คนลุยเมือง” นอกจากนี้ ยังพูดถึงการบริหารงานของ กทม.ว่า ไม่ใช่ การเมืองเพื่ออำนาจหรือผลประโยชน์ของพวกพ้อง แต่เป็น การบ้านของพ่อเมือง ที่จะต้องคอยแก้ไขของคนกรุงเทพฯและพัฒนาต่อ เพื่อคุณภาพชีวิต ของลูกบ้าน และเมืองที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป

หลังการแถลงเปิดนโยบาย และทีมงาน “คนลุยเมือง” และกลุ่มรักษ์กรุงเทพ ที่จะลงสมัคร ส.ก. ครบทั้ง 50 เขต พล.ต.อ.อัศวิน ได้ให้สัมภาษณ์ ยืนยัน ลงสมัครในนามอิสระอย่างจริง ทำงานร่วมกันกับทุกรัฐบาลได้ ถ้าตั้งอยู่ในความถูกต้องและเป็นประโยชน์กับสังคม และคนกรุงเทพฯ

ส่วนการที่นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. เปิดตัวมาให้การสนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว “อัศวินคืออัศวิน” ตนก็ยินดีที่ใครจะมาสนับสนุน แต่ไม่มีสิทธิ์มาชี้นำตนว่า จะให้ใครเป็นที่ปรึกษา รองผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่สมัยเป็น ผบช.น. ดูแลทุกกลุ่ม คิดต่างกันได้แต่อย่าใช้กำลัง ขอห้องน้ำ ไฟส่องสว่างให้ทุกกลุ่ม แต่ต้องชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า ตนกับนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. จะตัดคะแนนฐานเสียงเดียวกันหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน ตอบว่า ไม่ได้มองฐานเสียง เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง ย้ำว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ทุกคนเก่งหมด รักใครชอบใครก็เลือกเขา แต่ถ้าไม่เข้าตาก็มาเลือกอัศวิน

“เราตั้งใจมารับใช้ประชาชน เราพร้อมที่จะได้รับความดีใจ หรือเสียใจ เลือกผม ผมชนะผมก็ดีใจ ผมแพ้ผมก็เฉยๆ ไม่ได้เสียใจอะไร เพราะว่าไม่มีใครมาบังคับให้เรามาสมัคร เราตั้งใจ ผมทำใจไว้แล้ว แต่ก็มั่นใจไม่งั้นก็ไม่มาสมัคร”
ส่วนผลโพลที่ผ่านมาคะแนนตามหลัง ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. คนอื่น พล.ต.อ.อัศวิน บอกว่าไม่ได้กังวลเรื่องโพลที่จะน้อยหรือได้มาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้รู้ตัวตน พร้อมระบุ มั่นใจที่เคยพูดว่าอีก 3 เดือนจะกลับมา เพราะถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่สมัคร

“เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ประชาชนเห็น ประชาชนมีความรู้ พวกวาดวิมานในอากาศเลือก ก็เลือกไปแล้วแต่ แต่ผมติดดินลงมาสู่พื้นดิน นำไปสู่การปฏิบัติมาโดยตลอด ถ้าประชาชนเห็นเขาก็เลือกผมเอง ไม่ได้กังวล ถามว่าโพลต่างๆ ดีหรือไม่ ก็ดี แต่ไม่ได้กังวล ผมก้มหน้าก้มตาทำให้กับสังคม ไม่ได้คิดถึงเรื่องโพล”

ผู้สื่อข่าวว่า จะซื้อใจคนที่ไม่พอใจการบริหารงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อย่างไร พล.ต.อ.อัศวิน ตอบว่า คนเรามีทั้งชอบทั้งชัง ไม่ได้มีคนรักทั้งโลก ไม่มี แล้วคนเกลียดทั้งโลก ไม่มี มันจะมีทั้งคนชอบคนชัง คนที่เขาชอบเราเขาก็เลือกเรา คนที่ไม่ชอบเราเขาก็ไปเลือกคนอื่นแค่นั้น

เมื่อถามว่าคิดว่าสัดส่วนคนชอบเท่าไหร่คนชังเท่าไหร่ พล.ต.อ.อัศวิน ตอบกลับว่า “ผมว่าเขารักผม 100 %” พร้อมกล่าวทิ้งท้าย ขอบคุณทุกกำลังใจ ทำให้เข้มแข็งขึ้นกว่าเก่า ปกติเป็นคนเต็มร้อยอยู่แล้ว ตอนนี้ 200-300 แล้ว