ศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังประชาชนลุกฮือไล่รัฐบาล ล้มเหลวแก้วิกฤตเศรษฐกิจ

ศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังกลุ่มผู้ประท้วงบุกบ้านประธานาธิบดีเรียกร้องให้ลาออก เหตุไม่พอใจบริหารประเทศผิดพลาด จนเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้ายสุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราช 

วันที่ 2 เม.ย. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงค่ำวันศุกร์ (1 เม.ย.) หลังประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาล ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2527

ทั้งนี้ ศรีลังกา ซึ่งมีประชาชนอยู่ราว 22 ล้านคน กำลังเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างหนัก จนบานปลายกลายมาเป็นวิกฤตด้านพลังงาน เนื่องจากรัฐบาลไม่มีสกุลเงินต่างประเทศเพียงพอเพื่อนำเข้าน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานที่จำเป็นสำหรับการคมนาคมและผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศ ส่งผลให้น้ำมันดีเซลขาดแคลนทั่วประเทศ การคมนาคมต้องหยุดชะงัก รัฐบาลต้องประกาศตัดการจ่ายไฟฟ้านานถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน 

ผลจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าพื้นฐาน และสินค้าจำเป็นหลายรายการก็มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยการออกมาตรการจำกัดการซื้อเพื่อแบ่งสรรปันส่วนให้เพียงพอต่อความต้องการ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง จนผู้คนที่ไม่พอใจเริ่มออกมารวมตัวประท้วงทั่วประเทศ

การตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีขึ้น หลังจากที่การประท้วงเริ่มทวีความรุนแรง ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนพยายามบุกบ้านพักประธานาธิบดีโกตาบาบา ราชปักษา เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่ง มีการจุดไฟเผารถประจำทาง จนเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม 

ประธานาธิบดีราชปักษาระบุว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงสาธารณะ คุ้มครองความสงบเรียบร้อยของประชาชน และรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน และการบริการที่จำเป็น