“เราต้องเดินไปข้างหน้าและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก่อนมันจะสายเกินไป” ผู้ก่อตั้งไมเนอร์หนุนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

“เราต้องเดินไปข้างหน้าและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก่อนมันจะสายเกินไป ตอนนี้เงินกำลังเฟ้ออย่างบ้าคลั่ง เราเห็นเงินเฟ้อ 4.5-4.9% นโยบายของรัฐบาลตอนนี้มันผิดพลาด ผมหวังว่านายกฯ และ รมว.สาธารณสุขจะตัดสินใจให้ถูกเกี่ยวกับปัญหาปากท้อง ก่อนเราจะตายกันหมด” 

‘บิล ไฮเนคกี’ ผู้ก่อตั้งเครือไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดใจอีกครั้งถึงนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวของประเทศไทย หลังจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประสบภาวะยากลำบากมาเป็นเวลานานจากแพนดามิก

“ทั่วโลกตื่นแล้ว เศรษฐกิจตื่นแล้ว สิงคโปร์ตื่นแล้ว มาเลเซียตื่นแล้ว คุณสามารถไล่ชื่อประเทศออกมาได้เลย อินเดียเองก็ตื่นแล้ว ดูไบ มัลดีฟส์ก็ตื่นแล้ว ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เราเริ่มต้นด้วยการเปิดก่อน ตอนแรกใครๆ ก็บอกว่าเราฟื้นตัวได้ดีที่สุด แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เราอยู่อันดับต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนทั้งหมดแล้ว กัมพูชาเองก็ยังนำเราไปแล้ว คนไทยยอมรับสิ่งนี้ได้ยังไง ผมไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้”

“ถ้าเรายังไม่เปิดประเทศตอนนี้ ปีนี้เราจะได้นักท่องเที่ยวไม่ถึง 10% ของเคยได้ก่อนเกิดโควิด หรืออาจจะแย่กว่านั้น ปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้ คือ รัฐบาลน่ะไม่รู้จะทำยังไง”

“Thailand Pass ต้องจบลงเร็วที่สุด เดี๋ยวนี้เลยถ้าเราอยากจะเซฟประเทศไทย เพราะเวลาต่อจากนี้คือสงกรานต์ คืออีสเตอร์ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถมาเอนจอยประเทศไทยได้ เพราะว่าเรายังคงมีกฎระเบียบมากมายเกินไป จะให้รอเปิดประเทศในเดือนมิถุนายนน่ะช้าเกินไป”

ผู้ก่อตั้งเครือไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อว่า ถ้าไทยสามารถกลับมาเปิดประเทศได้ในตอนนี้ การท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับ ‘มัลดีฟส์’ ที่เดินหน้าเปิดประเทศในปี 2021 และมีจำนวนผู้เข้าพักมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด แม้จะยังคงไม่มีนักท่องเที่ยวจีน เพราะนักท่องเที่ยวที่พร้อมออกเดินทางตอนนี้ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ

“ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเร็วมาก ใหญ่มาก จนทำให้ทุกคนช็อค หลายคนพูดถึง 2 หรือ 3 ปีของการฟื้นตัว ผมเชื่อว่าเราจะกลับมาได้ในปีเดียวเท่านั้น ถ้ารัฐบาลทำสิ่งที่ถูกต้อง”

“สิ่งเดียวที่อยากให้รัฐบาลทำตอนนี้อนุญาตให้คนท่องเที่ยวอย่างอิสระอย่างที่เคยทำ ไม่ต้องมีวีซ่า ไม่ต้องรอการอนุญาต ไม่ต้องมีประกันก่อนเดินทาง ไม่ต้องให้จองโรงแรม SHA ล่วงหน้า เราไม่ได้ต้องการ เราต้องการให้นักท่องเที่ยวท่องเที่ยวได้โดยไม่มีปัญหายุ่งยาก”