หลังสงกรานต์ปิดคดี ‘แตงโม’ ตร.นัดแถลง 18 เม.ย.นี้ เตรียมเอาผิดคนบิดเบือนข้อมูลทำสับสน

ตำรวจเตรียมแถลงสรุปคดีการเสียชีวิตของ ‘แตงโม’ 18 เม.ย.นี้ ขณะที่วันนี้แจ้งข้อหา ‘กระติก’ เพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ‘ทำลายหลักฐาน’ และ บช.ภ.1 กำลังจะเอาผิดกับคนบิดเบือนข้อมูลทำสังคมสับสน

วันที่ 12 เม.ย. 2565 นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษและให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของแตงโม

ต่อมา พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) และทนายเดชา ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าทางคดี โดย พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญทนายและคุณแม่ของคุณแตงโม
มาสอบสวนเพิ่มเติม และได้เชิญ ‘กระติก’ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นเพื่อนกับแตงโม มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม คือข้อหา ‘ทำลายพยานหลักฐาน’ และสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปกว่า 90%แล้ว และอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องสรุปคดี

ซึ่งการแจ้งข้อหากระติกในข้อหาทำลายพยานหลักฐานนั้น พบว่า มีหลักฐานเพิ่มเติมที่สามารถแจ้งข้อหาได้ แต่ก่อนหน้านี้พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน เมื่อได้หลักฐานจากพิสูจน์ ซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์หรือไม่นั้น ไม่ขอเปิดเผย เพราะโทรศัพท์เป็นพยานหลักฐานที่ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ได้ให้ฝ่ายกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จบิดเบือนลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดี บิดเบือน สร้างความเสียหายต่อรูปคดี และทำให้สังคมเกิดความสับสน จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่เห็นชัดเจนปรากฎตามสื่อโซเชียล และสื่อโทรศัพท์ และที่ผ่านมาตำรวจไม่อยากดำเนินการ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความสับสน และเกินเลยจนสังคมเข้าใจผิด สับสน และครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ฝากถึงคนไม่รู้จริงขอให้หยุดพฤติกรรม

ส่วนบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีมีกี่รายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะรู้ตัว เพราะการที่นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบก็ต้องรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ย้ำว่า การดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ ตำรวจใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ซึ่งบางเรื่องอาจมีการขอโทษแล้วจบ แต่บางเรื่องจะต้องดำเนินคดีให้เด็ดขาด และเชื่อว่า คดีนี้จะต้องมีการถอดบทเรียนในทุกมิติ รวมถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และการสืบสวนสอบสวน
ส่วนกรณีการร้องเรียนของ นายนิติธร ล้ำเหลือ กลุ่มประชาชนคนไทย ที่ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ในการทำหน้าที่คดีแตงโม หลังจากที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาพูดถึงว่า ทั้งสองคนให้การว่า ปอ-โรเบิร์ต ไม่มีพิรุธนั้น พล.ต.ต.อุดร ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ส่งเรื่องให้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รับผิดชอบงานจเร ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่ร้องเรียนเข้ามาทุกประเด็นแล้ว

พล.ต.ต.อุดร ยังระบุอีกว่า วันจันทร์ที่ 18 เม.ย. จะแถลงสรุปสำนวนคดี โดยในวันดังกล่าวตำรวจจะทำกราฟฟิก และชี้แจงรายละเอียดในประเด็นที่เป็นข้อสังคมสงสัย จะมีคำตอบให้ทุกประเด็น ที่ไม่กระทบกับข้อเท็จจริงในสำนวนคดี แต่ต้องไม่ใช่ประเด็นที่เป็นข้อสันนิษฐาน ความเชื่อ และจินตนาการ รวมถึงประเด็นดราม่า

ทนายเดชา เผย แม่แตงโมมีคนทำให้ไม่สบายใจกว่า 10 คน 

ด้าน ทนายเดชา กล่าวเสริมว่า พาคุณแม่ภนิดา มาพบตำรวจเพื่อให้การเพิ่มเติมกับบุคคลที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ ซึ่งมีหลายคน ทั้งการกล่าวหา หรือทำให้แตงโมได้รับความเสียหาย ซึ่งหากตำรวจมีหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดใดก็จะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น และในขณะนี้มีบุคคลที่ทำให้แม่ไม่สบายใจมากกว่า 10 คน

ส่วนกรณี ส.ส.มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ออกมาให้ข้อมูลว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ 8 คน และแตงโมไม่ได้เสียชีวิตในน้ำนั้น ทนายเดชา ระบุว่า ตนเองไม่ได้คุย กับ ส.ส.เต้ มานานแล้ว เพราะรู้สึกว่าเกินเลยไปมาก มีการตั้งทีมสืบสวนสอบสวนเหมือนตำรวจ เช่าโรงแรมแถลงข่าว ทำให้คดีเสียหายเกิดความสับสน จึงอยากขอให้สื่อหยุดทำข่าวกลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนการที่ ส.ส.เต้ จะไปยื่นถอดถอนตนที่ทำผิดมารยาททนายความนั้น ตนไม่ได้กังวลและขอท้าให้รีบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวดังกล่าว สังเกตเห็นนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล มายืนอยู่ด้านหลังฟังการแถลงข่าว ซึ่งช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.ต.ต.อุดร และทนายเดชาว่า ที่บอกว่ามีคนออกมาให้ข้อมูลเรื่องการรับงานเอ็นและพาดพิงผู้เสียชีวิตจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่พูดหรือไม่ และนายสันธนะ จะเข้าข่ายบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ทำให้นายสันธนะ ตะโกนขึ้นมากลางวงแถลงข่าว พร้อมชี้นิ้วมาที่ ทนายเดชาว่า “ทนายเดชาพูดชื่ออกมาเลย” ขณะที่ทนายเดชาตอบกลับว่า “ไม่ใช่พี่ ไม่เกี่ยว” จากนั้นการแถลงของพล.ต.ต.อุดรและทนายเดชาก็ยุติลง