SHARE

คัดลอกแล้ว

รอง ผบช.น. ติดตามความคืบหน้ากรณีหญิงอายุ 18 ปี แจ้งความดำเนินคดีหลังอ้างว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองลวนลาม เผยหากหลักฐานครบออกหมายจับได้เลย ไม่ต้องมีหมายเรียก เนื่องจากมีอัตราโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติ ขณะที่ ‘ทนายษิทรา’ นำอดีตเหยื่อแจ้งความเพิ่ม

วันที่ 14 เม.ย. 2565 พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เข้าตรวจสอบสำนวนและติดตามความคืบหน้ากรณีมีนักศึกษาสาววัย 18 ปี แจ้งความกับตำรวจหลังอ้างว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งลวนลาม ว่า หลังรับแจ้งความ ตำรวจ สน.ลุมพินี สืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็ว ยืนยันมีหลักฐานกล้องวงจรปิดจากที่เกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานที่เป็นประโยชน์กับสำนวนคดี

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นความผิดฐานกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ แต่การจะขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับหรือหมายเรียกถือเป็นดุลยพินิจของศาล ตามปกติความผิดตามข้อกล่าวหานี้พนักงานสอบสวนสามารถขอศาลออกหมายจับได้ทันที โดยไม่ต้องออกหมายเรียก เนื่องจากมีอัตราโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี แต่หากผู้ถูกกล่าวหาจะมามอบตัวก่อน ถือว่าเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานมาแต่อย่างใด

ส่วนการแถลงข่าวของผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธและพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา พนักงานสอบสวนมีหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอย้ำว่าตำรวจไม่เลือกปฏิบัติ แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะมีตำแหน่งใดก็ตาม สำหรับมีผู้เสียหายรายอื่น ต้องดูว่าเกิดเหตุที่ไหน หากทราบก็ให้ไปร้องทุกข์กับโรงพักท้องที่ได้

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้นำหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เป็นอดีตทีมงานพรรคการเมือง ซึ่งอ้างว่าเป็นเหยื่อที่เคยถูกอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองกระทำอนาจาร แจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม พร้อมระบุด้วยว่า หลังเกิดเรื่องก็มีเหยื่ออีก 5 คน ติดต่อเข้ามาว่าถูกลวนลามข่มขืน กรณีนี้เหตุเกิดที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งเหยื่อทำงานในพรรคเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าขณะเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุไม่มีอาการเมาแต่อย่างใด โดยนำหลักฐานเป็นรูปภาพขณะเกิดเหตุ และเพื่อนของเหยื่อมาให้ปากคำ นอกจากนี้ ยังมีเหยื่ออีกรายที่เคยเป็นนางแบบ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักที่เตรียมจะมาแจ้งความด้วย ซึ่งจะมีภาพที่เตรียมจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.)

นอกจากนี้ น.ส.หทัยรัตน์ วิทยพูม ภรรยานายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท แจ้งความกับ พ.ต.ท.พงศักดิ์ การัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ลุมพินี ในคดีกล่าวหารองหัวหน้าพรรคการเมืองเช่นกัน โดยระบุว่า เหตุเกิดเมื่อปี 2564 โดยตนได้นัดคุยเรื่องงานกับนักการเมืองคนนี้ตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่เขาอ้างเป็นเจ้าของ และบอกว่ามีออฟฟิศอยู่ใกล้ๆ กันกับร้าน แต่พอไปถึงกลับเป็นคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 3 เมื่อไปถึงประตูห้องถูกล็อกแล้วข่มขืนเลย ซึ่งตนมีน้ำหนักตัวเพียง 39 กิโลกรัม แม้จะพยายามขัดขืนก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้น เพิ่งเลิกกับแฟนที่แพลนจะแต่งงานและเสียน้องชายไป ทำให้อยากเริ่มอะไรใหม่ๆ เขาก็เข้ามาขายฝันหลอกล่อเรื่องธุรกิจ บอกว่าให้ลองมาคุยกันเพราะเขาบอกว่าตนมีศักยภาพ เราก็ตกหลุมไป เพราะงานนั้นเป็นการรวมตัวของนักธุรกิจ

น.ส.หทัยรัตน์ กล่าวว่า การเปิดเผยตัวตนในวันนี้ ก็เพื่อให้เหยื่อรายอื่นๆ กล้าที่จะออกมา เพราะตอนแรกตนรู้สึกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้ แต่พอทราบว่ามีผู้เสียหายอีกเยอะ เลยต้องการออกมาพูด และสามีตนก็สนับสนุน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ขู่ แต่พูดว่าเป็นใครทำอะไรในเชิงข่ม และใช้กำลังบังคับตน ซึ่งหากเขาเป็นคนปกติก็คงแจ้งความไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

ต่อมาเวลา 19.20 น. คนขับรถแท็กซี่ที่รับผู้เสียหาย วัย 18 ปี จากโรงแรมที่เกิดเหตุมาส่งยังสน.ลุมพินี เข้าให้ข้มูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพยาน โดยเล่าเหตุการณ์วันดังกล่าวผู้สื่อข่าวว่า สืบเนื่องจากในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานโรงแรมออกมาเรียกรถแท็กซี่เข้าไปรับผู้โดยสาร เมื่อผู้เสียหายขึ้นมาบนรถแท็กซี่ ตนเห็นว่ามีอาการฟูมฟายร้องไห้ไม่หยุด ก่อนที่จะโทรศัพท์หาแม่ ซึ่งตนจับใจความการพูดคุยได้ว่า ผู้เสียหายมาที่โรงแรม เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดหลังจากถูกกระทำชำเรา ก่อนที่จะบอกกับตนอีกครั้งว่าขอเปลี่ยนจุดหมายมาเป็นที่สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความอย่างไรก็ตามการออกมาเป็นพยานของตน ลึกๆก็รู้สึกกลัว และเป็นห่วงความปลอดภัย แต่เนื่องจากสงสารผู้เสียหาย และเห็นว่าเป็นเพศแม่ จนตัดสินใจออกมาให้ปากคำ

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า