‘เสรีพิศุทธ์’ เผยสัปดาห์หน้าเชิญ ‘อนุชา-เสกสกล’ ให้ข้อมูลปมปราบหวยแพง ลุยสอบคลิปเสียง 15 ล้าน ไม่กังวล ‘ปารีณา’ ร้องป.ป.ช. สอบจริยธรรม

‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ เผยสัปดาห์หน้าเชิญ ‘อนุชา-เสกสกล’ ให้ข้อมูลปมปราบหวยแพง ไม่กังวล ‘ปารีณา’ ร้องป.ป.ช. สอบจริยธรรม

วันที่ 19 เม.ย. 2565 วันที่ 19 เม.ย. 2565 ที่รัฐสภา ชมรมผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.)สภาผู้แทนราษฎร ขอให้แก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายเสกสกล อัตถาวงษ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เนื่องจากผู้ค้าสลากรายย่อยไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งได้รับผลกระทบจากวิธีการรับโควต้าสลากรูปแบบใหม่ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด เนื่องจากผู้ค้าบางรายมีอายุมากไม่สะดวก ขาดความรู้ด้านเทคโนโลยี จึงไม่สามารถจองโควต้าสลากได้ทันผู้ค้าคนอื่น อีกทั้งเห็นว่า การปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการปราบปรามและแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาเป็นการสนับสนุนนายทุน โดยไม่คำนึงถึงปากท้องของประชาชนดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ค้าสลากรายย่อย จึงขอให้ กมธ. ป.ป.ช. ดำเนินการ ดังนี้

– ตรวจสอบและเสนอระงับการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าวโดยเร่งด่วน

– ขอให้กรรมาธิการพิจารณาหาวิธีการให้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยุติการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอพพลิเคชัน

– เสนอให้พิจารณาแก้ไขระเบียบของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ตัวแทนผู้ค้าสลากรายย่อยเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณากำหนดระเบียบในทุกๆครั้ง

– ขอให้สนับสนุนให้อาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลสงวนไว้สำหรับประชาชนและผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น / และขอให้คณะกรรมาธิการเสนอตั้งกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่คู่ขนานกับคณะกรรมการของรัฐบาลเพื่อทำการตรวจสอบความโปร่งใสของคณะกรรมการชุดดังกล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า สัปดาห์หน้าจะเริ่มกระบวนการสอบสวน โดยจะเชิญ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา, ผู้แทนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายเสกสกล เข้าให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ เพราะเชื่อว่า ปัญหาส่วนใหญ่มาจากคนในระบบราชการไม่เข้าใจปัญหาของประชาชนทั้งเรื่องของการใช้เทคโนโลยีและแนวทางปฏิบัติ มั่นใจว่าหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งใจแก้ไขปัญหาทุกอย่างก็จะประสบความสำเร็จ

ส่วนความคืบหน้ากรณีการสอบสวนคลิปเสียงระหว่าง นายเสกสกล กับนางจุรีพร สินธุไพร ลักษณะเรียกรับเงิน 15 ล้านบาทนำไปใช้ในการเลือกตั้งนั้น ในสัปดาห์หน้า ตนจะเชิญ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) ทนายความ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล จากนั้นในวันที่ 7 พ.ค. จะเชิญนายเสกสกล และนางจุรีพรเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการด้วย สำหรับการลาออกจากตำแหน่งต่างๆ ของนายเสกสกลนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เชื่อว่า เป็นเพราะฝ่ายเสธ. ของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ให้คำแนะนำ เพราะหากให้นายเสกสกลทำหน้าที่ต่อไปอาจจะส่งผลกระทบกับตัวนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมองว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ร้องต่อ ป.ป.ช. กรณีการถือครองรุกล้ำลำน้ำแควน้อย และร้องให้สอบจริยธรรมกรณีสร้างท่าเรือผิดแบบรุกล้ำลำน้ำเจ้าพระยาว่า การกระทำของน.ส. ปารีณา “ติ๊งต๊อง” ไม่เข้าใจประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งท่าเรือและที่ดินที่ทองผาภูมิล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในอดีตก่อนที่ตนเองจะมาเป็นผู้แทน ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นไม่สามารถเอาผิดด้วยจริยธรรม ส.ส. ได้ ซึ่งตนไม่ได้กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนจะมีการฟ้องกลับน.ส.ปารีณาหรือไม่นั้นฝ่ายทนายจะเป็นผู้พิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แรมโบ้อีสาน’ ลาออก จากตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยรัฐมนตรี’ ขอเคลียร์ปมคลิปเสียง 15 ล้าน

‘สมชัย’ ยื่น กมธ.ป.ป.ช. สอบคลิปเสียง ‘แรมโบ้อีสาน’ ขณะที่ นายกฯ บอกไม่ยุ่ง

‘ปารีณา’ ปรากฏตัว ร้องป.ป.ช. สอบจริยธรรม ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ ปมสร้างท่าเทียบเรือรุกแม่น้ำ