Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอชนะแบบ ‘แลนด์สไลด์’ ตั้งเป้าเก้าอี้ในสภาเกิน 250 ที่นั่ง ลั่นเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล ขณะที่ ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ หวังสานภารกิจสำคัญ สร้างประชาธิปไตยและผลักดันนโยบายแก้วิกฤตประเทศ ด้าน ‘แพทองธาร’ เปิด 5 วิธีปลดหนี้-มีเงินเหลือ สร้างเศรษฐีใหม่ด้วย NFT พร้อมทำทันทีหลังยุบสภา

วันที่ 24 เม.ย. 2565 พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยช่วงเช้ามีการแสดงวิสัยทัศน์ของแกนนำพรรคหัวข้อ “อนาคตที่เพื่อไทย อยากทำให้ประชาชนพ้นจากวิกฤตหลุมดำ” โดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ว่า ครอบครัวเพื่อไทย มีมิติที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือการมีองค์ประกอบสำคัญของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด พรรคไทยรักไทยเป็นทั้งตัวแสดงและผู้ถูกกระทำ แม้พรรคจะถูกสั่งให้ยุบพรรคไป แต่จิตวิญญาณและอุดมการณ์ยังอยู่ โดยเฉพาะอุดมการณ์ หัวใจคือ ประชาชน ต้นตอวิกฤตประเทศในวันนี้เกิดจากการผู้มีอำนาจที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่ยอมให้ประชาชนกำหนดการบริหารประเทศ ผ่านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ยอมให้เกิดรัฐบาลที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน แล้วไปทำให้เกิดระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจนนำมาสู่การมีรัฐบาลที่ไร้ความสามารถทำให้ประชาชนเสียหายเดือดร้อนกันในทุกวันนี้

พรรคไทยรักไทย ก่อเกิดขึ้นภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ขณะที่ประชาชนโหยหาทางออกจากวิกฤตประเทศ ต้องการผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และนโยบายที่ดี ทำให้เราได้มีผู้นำที่ตาดูดาว เท้าติดดิน ที่ชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่รวบรวมผู้คนมาร่วมกันคิดร่วมกันทำจนประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากประชาชน จนในการเลือกตั้งครั้งต่อมา ปี 2548 พรรคไทยรักไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 377 เสียง มากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรรคไทยรักไทยแก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชนและสร้างความเป็นโมเดิร์นไนซ์ไทยแลนด์ แต่ต่อมาก็เกิดการรัฐประหาร 2549 จากการที่ผู้มีอำนาจไม่อาจทนเห็นได้ว่าประชาชนเป็นผู้กำหนดการบริหารประเทศ และทนไม่ได้ที่จะเห็นประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน การรัฐประหาร 2549 คือ จุดเริ่มต้นของวิกฤต เพราะก่อการในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังดี ประชาชนกำลังได้ล้มตาอ้าปาก มีกินมีใช้ ประเทศกำลังก้าวไปเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและระดับโลก

การรัฐประหารครั้งนั้นก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพรรคไทยรักไทย จากพรรคการเมืองที่นำนโยบายมาบริหารประเทศจนประสบความสำเร็จ แก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศ มาเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงปกป้องประชาธิปไตย การยุบพรรคไทยรักไทย เป็นหนึ่งในแผนบันได 4 ขั้น แต่แผนนั้นก็ต้องล้มไป เพราะประชาชนไม่เอาด้วย เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็ก่อเกิดพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้ง ประชาชนก็เลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลอีก ตบหน้าเผด็จการและแผนบันได 4 ขั้น รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ได้แสดงความต่อเนื่องของความเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงประชาธิปไตย ด้วยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้เป็นประชาธิปไตย หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชนและการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างไม่มีข้อจำกัด เกิดการโค่นล้มรัฐบาล โค่นล้มนายกรัฐมนตรี 2 ท่านและยุบพรรคพลังประชาชนในที่สุด แต่การทำลายพรรคพลังประชาชนในครั้งนั้น ไม่ได้ทำลายจิตวิญญาณและอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ฆ่าไม่ตาย จึงเกิดเป็นพรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกัน เมื่อพรรคเพื่อไทยลงเลือกตั้งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชน และได้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เกิดความเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเหมือนเดิมอีก และพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่า ถ้ามีรัฐบาลจากการเลือกตั้งบ้านเมืองก็จะวุ่นวายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นและเป็นข้ออ้างให้เกิดการรัฐประหารในปี 2557

พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้นคัดค้านการรัฐประหารและคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จนทำให้นักการเมืองของพรรคเพื่อไทย ถูกจับดำเนินคดีและต้องติดคุกเป็นคนแรกๆ หลังการรัฐประหาร วิกฤตประเทศหนักขึ้น เพราะรัฐประหาร 2557 เพียงเพราะคำว่าต้องไม่ให้เสียของ ไม่ให้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมีอำนาจบริหารประเทศและประชาชนต้องไม่มีสิทธิมีเสียง แต่ผลเสียทั้งหลายก็เกิดขึ้นกับประเทศและประชาชน ระบบยุติธรรม ระบบการตรวจสอบถ่วงดุล สิทธิเสรีภาพถูกทำลายหมดและรัฐบาลที่ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เมื่อเกิดวิกฤตขึ้น หายนะจึงเกิดกับประชาชน เบื้องหน้าของเรามีความท้าทายใหญ่ที่ประเทศต้องเผชิญ 8 ข้อ

1. เศรษฐกิจตกต่ำ
2. ไม่มีรายได้ ของแพง ค่าแรงต่ำ
3. หนี้สาธารณะสูง และเงินถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า หนี้ครัวเรือนสูง
4. ความเหลือมล้ำอันดับต้นๆ ของโลก
5. ขีดความสามารถต่ำ ล้าสมัยไม่ทันโลก การศึกษาไม่มีอนาคตสำหรับเยาวชน
6. สังคมสูงวัย
7. โลกร้อนที่ใกล้ตัวเข้ามาแต่ไม่มีการจัดการ
8. การไม่มีเสรีภาพของประชาชนและความไม่เป็นประชาธิปไตยของประเทศ

แต่ขณะที่เราต้องเจอกับความท้าทายใหญ่แบบนี้กลับมีรัฐบาลแบบประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ข้อเดียว ก็ไม่สามารถแก้ได้ พรรคเพื่อไทยที่มีความต่อเนื่องของการผลักดันนโยบายในการแก้ไขปัญหาประชาชนและพัฒนาประเทศ รวมไปถึงการต่อสู้กับเผด็จการและเรียกร้องประชาธิปไตย ทำให้มีภารกิจสำคัญบนบ่าของทุกคนใน 2 มิติ คือ การสร้างนโยบายในการแก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศ ไปจนถึงการเดินหน้าสร้างประชาธิปไตย แต่การจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เราต้องบอกกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าจะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองและทำให้พี่น้องพ้นจากความเดือดร้อน ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และเราต้องไม่ชนะธรรมดา แต่ต้องชนะอย่างถล่มทลาย ต้องแลนด์สไลด์เพื่อไทย แล้วเราจะทำให้ดียิ่งกว่าที่เคยทำมาในอดีต

‘ชัยเกษม’ เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน

นายชัยเกษม กล่าวว่า ปัญหาความยุติธรรมสองมาตรฐาน หรือ ไม่มีมาตรฐานในความยุติธรรม โดยยกตัวอย่าง การชุมนุม กปปส. ปี 2556 – 2557 มีการบุกรุกสถานที่และทำลายทรัพย์สินราชการ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาหลายปีกว่าจะรวบรวมหลักฐานและสำนวน จนสามารถคุมขังแกนนำผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ แตกต่างกับการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นักศึกษาออกมาเรียกร้องและชุมนุมอย่างสันติแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง มีการดำเนินคดีเพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน หรือแม้แต่คดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง กระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดหลายครั้งหลายราย และศาลอนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่คดีเกี่ยวกับการชุมนุมและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกลับไม่อนุญาตให้การประกันตัว

นายชัยเกษม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ได้ก่อเกิดพรรคไทยรักไทย และรัฐบาลที่มาจากประชาชน มีเสถียรภาพทางการเมือง ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปาก มีเงินในกระเป๋าและมีศักดิ์ศรีคนไทยมีเต็มร้อย แต่เมื่อมีการฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 และมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยังได้บริหารประเทศต่อมา แต่ปรากฎว่าองค์กรอิสระหลายแห่งใต้อำนาจรัฐธรรมนูญกลับไม่อิสระตามเจตนาข้อกฎหมายและก่อให้เกิดกับดักการเมือง และเมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 ถูกฉีกอีกครั้ง จนก่อเกิดรัฐธรรมนูญ 2560 ในวันนี้ พรรคเพื่อไทยซึ่งได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งกลับไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากผู้ที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คือ ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน ส่งผลให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตการเมือง รัฐบาลใช้อำนาจรัฐจับประชาชนเข้าคุก รัฐบาลไม่มีความรู้ ทำให้คนที่เคยลืมตาอ้าปากได้ กลายเป็นคนจนในเวลาไม่กี่ปี

“ตลอด 8 ปีที่ผ่านมามีกฎหมายหลายฉบับที่เป็นอุปสรรคและฝันร้ายของประชาชน โดยเฉพาะกฎหมายที่มาจาก ‘คณะรัฐประหาร’ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบภายใต้ฐานคิดโดยไม่เคยมีหัวใจเป็นประชาชน ขอเพียงได้ให้รัฐธรรมนูญเพื่อรักษาอำนาจของพวกตนได้อย่างยืนยง และสืบทอดอำนาจต่อไปได้เรื่อยๆ การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเพียงการจัดฉากลวงตาที่คณะรัฐประหารจัดทำขึ้นเองอย่างจอมปลอม ดังนั้น รัฐธรรมนูญ 2560 จึงถือเป็นวิกฤตของชาติ เพราะแค่จุดเริ่มต้นที่มาของรัฐธรรมนูญก็เต็มไปด้วยเล่ห์กลมากมาย” นายชัยเกษม กล่าว

นายชัยเกษม กล่าวว่า ก้าวแรกที่พรรคเพื่อไทยจะเดินต่อนับจากนี้คือ​ การแก้ปมแรกของปัญหา การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชนทุกคนอีกครั้ง ดั่งที่รัฐธรรมนูญ 2540 เคยให้ความหวังแก่คนไทยทุกคน สร้างการเมืองที่ดี สร้างชีวิตที่ดี และสร้างเศรษฐกิจที่ดี แก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี แก้สิทธิของประชาชนที่เกี่ยวกับสิทธิบุคคลและชุมชน แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม คุ้มครองสิทธิในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ และสิทธิในการประกันตัว” นายชัยเกษม กล่าว

นายชัยเกษม กล่าวว่า เคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันการปฏิวัติ โดยเสนอกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า การปฏิวัติมีความผิดฐานเป็นกบฏและไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และไม่มีกำหนดอายุความ แม้รัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไป ก็ให้ถือเป็นประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้หลักการดังกล่าวนั้นสามารถใช้บังคับได้ตลอดไป แต่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างน้อยในสภาและไม่มี ส.ว. แต่งตั้งที่ไม่ได้มาจากประชาชนสนับสนุน ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับที่พรรคเพื่อไทยเสนอไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐสภา ทั้งหมดนี้คือร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยเคยยื่นไปแล้วและยืนยันจะยื่นใหม่อีกครั้งเมื่อมีโอกาส แม้จะรู้ว่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราจะแพ้เสียงข้างมากของฝั่ง ส.ว. และ ส.ส. ฝั่งรัฐบาล

‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ ลั่นเป้าหมายแลนด์สไลด์ คว้า ส.ส.เกิน 250 ที่นั่ง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ‘แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน’ ว่าความสิ้นหวังของประเทศ เกิดจากคนเพียงกลุ่มหนึ่ง ที่เสพติด ‘อำนาจ’ และทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ สร้างรัฐธรรมนูญที่ผูกขาดอำนาจไว้กับรัฐราชการและพวกพ้อง โดยประเทศและประชาชนตกเป็นเหยื่อ กฎเกณฑ์ กติกาและระเบียบกฎหมายที่เขียนขึ้น ขาดความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง และยังเป็นอุปสรรคอย่างสำคัญยิ่งต่อการแก้ปัญหาชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และยิ่งไปกว่านั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้วางกลไกให้คนไทยต้องอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ศักยภาพ ไม่สร้างความหวัง ไม่สร้างอนาคตให้พี่น้องประชาชน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตลอด 8 ปีภายใต้การปกครองและการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้คนไทยต้องพบกับ 6 หลุมดำที่นำไปสู่ทางตันของประเทศและประชาชน ดังนี้

1. วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ คนจนล้นประเทศแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หนี้ครัวเรือนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ธุรกิจปิดตัวล้มตาย แรงงานตกงานสูงสุดทำลายสถิติ

2. วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ จากการรับมือที่ผิดพลาด ปล่อยประชาชนเผชิญกับภัยของโรคระบาดตามยถากรรม

3. วิกฤตผู้นำที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก สร้างความอับอายให้ประเทศ และทำให้การต่อรองทางการทูต ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ที่ประชาชนควรได้รับ กลับหายไป

4. วิกฤตการเมือง วิกฤตประชาธิปไตยที่เสื่อมโทรม รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ การละเมิดสิทธิมนุษยชนทำลายผู้เห็นต่างโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำลายระบบรัฐสภาด้วยการทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซื้อขายตัวนักการเมือง ทำลายมาตรฐานทางการเมืองที่ควรจะเป็นอย่างรุนแรงมากสุดเป็นประวัติการณ์

5. วิกฤตหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติงบประมาณที่ไม่ได้สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่สร้างรายได้ หนี้สาธารณะของประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีขึ้นแถมยังดับฝันอนาคตลูกหลานด้วยหนี้ก้อนโตที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในระยะยาว

6. วิกฤตคอร์รัปชันที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่ประเทศเคยมีมา

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่อาจยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกจากวิกฤตนี้และทางออกเดียวที่เรามีวันนี้คือ พรรคเพื่อไทยต้องกลับมา มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยคือทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะพาคนไทยออกจากหลุมดำแห่งความทุกข์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาได้

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากประสบการณ์และความสำเร็จของพรรคเพื่อไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา รวมไปถึงคำสัญญาที่ยึดมั่นและจุดยืนอุดมการณ์ แม้ที่ผ่านมา 8 ปีพรรคจะตกอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่ได้ผลัดใบหลายครั้งเพื่อตอบสนองโลกยุคใหม่ ในวันนี้จึงกล้าพูดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างระหว่างผู้มีประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาล กับ คนรุ่นใหม่ที่อยากใช้พลัง ความรู้ความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ อีกทั้งยังมีส่วนผสมระหว่าง ส.ส. พื้นที่ ที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนกับผู้บริหารพรรค ที่ตอบสนองการมองภาพใหญ่เชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป เราต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด จะต้องเป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ด้วยเก้าอี้ในสภาเกิน 250 ที่นั่ง เพื่อให้เสียงของเรา สามารถควบคุมสภาล่าง และการบริหารของรัฐบาล เพราะต่อให้ ส.ว. แต่งตั้ง จะเลือกนายกเผด็จการได้ แต่จะเป็นข้อการันตีว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ ไม่มีวันบริหารประเทศนี้ได้

“เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องมือของประชาชน ทำงานให้ประชาชน ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทย ได้แสดงศักยภาพอีกครั้ง ให้เพื่อไทย ได้พาประชาชนหลุดพ้น จากวิกฤตและหลุมดำสักที เลือกเพื่อไทย ให้ชนะพรรค ส.ว. ลากตั้ง เลือกเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ เพื่อคนไทยทุกคน” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘แพทองธาร’ เปิด 5 วิธี ‘ปลดหนี้-มีเงินเหลือ’ สร้างเศรษฐีใหม่ด้วย NFT ลั่นเพื่อไทยพร้อมทำทันทีหลังยุบสภา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ขอใช้โอกาสในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ‘ส่งการบ้าน’ หลังจากที่ได้เริ่มเข้ามาทำงานการเมืองอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคและคนรุ่นใหม่ เพื่อหาแนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน โดยยืนยันว่า ‘จะไม่ทิ้งคนรากหญ้า’ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ พรรคเพื่อไทยจะใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าชีวิตจะดีขึ้น โดยไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆที่เข้ามา โดยเฉพาะการกอบโกยหาผลประโยชน์ที่กำลังดำเนินการกันอยู่อย่างมากมายเพื่อพวกพ้องของตัวเอง โดยไม่คำนึงความต้องการและชีวิตของประชาชน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจนลง จากที่เคยลืมตาอ้าปากได้ เพราะนโยบายที่กินได้ของไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย คนไทยส่วนใหญ่ ยังต้องการพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง อนาคตของลูกหลานที่ไม่มีหนี้ และมีเงินเหลือเฟือ จากนโยบายและการบริหารของผู้มีประสบการณ์จากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรลุไปสู่เป้าหมายนั้น จึงขอส่งการบ้าน 5 ข้อ ได้แก่

1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว โดยการจัดงบประมาณภาคประชาชน ลงไปในระดับหมู่บ้านให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาส่วนรวมของหมู่บ้าน รวมทั้งกระจายอำนาจทางการศึกษา การสาธารณสุข การเกษตร และการปกครองท้องถิ่น ให้ตัดสินใจในระดับจังหวัด ไม่ต้องขึ้นกับส่วนกลาง โดยจะทำให้กระทรวงต่างๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนในปัจจุบัน รวมทั้งจัดให้มีการรายงานปัญหาของประชาชน และรับฟังข้อเสนอแนะ ผ่านแอปพลิเคชั่น แบบ real-time เพื่อจะได้วิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ถูกทาง และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

2. ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ soft power 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสและพัฒนาศักยภาพมานาน จึงไม่มีโอกาสทำรายได้ให้สูงขึ้น จัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพของคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ มีส่วนร่วมและหาโอกาสทั้งระดับท้องถิ่น หัวเมืองใหญ่ในกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ตามศักยภาพหลังการฝึกฝนและพัฒนา เมื่อได้รับการฝึกฝนมีงานทำที่มีระดับค่าแรงงานที่สูงขึ้น คนเหล่านี้จะเป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเทรนด์โลกสมัยใหม่ คือการต่อสู้กันด้วยอำนาจของวัฒนธรรม soft power คือพลังหรืออำนาจ ที่ทำให้คนทั่วโลกโอบรับวัฒนธรรมอื่นๆ หากเกิดพลังนี้ขึ้นกับวัฒนธรรมใด จะนำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

3. ใช้เทคโนโลยี Ai เพื่อการเกษตร เพื่อเกิดการวิเคราะห์แม่นยำ และผลผลิตสูง โดยการศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยี Ai ปลูกพืชตามฤดูกาลที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ระบบวิเคราะห์ข้อมูลและวิทยาศาสตร์การเกษตร ตลอดจนการถนอมผลิตภัณฑ์ และการกระจายการจัดจำหน่ายที่รวดเร็ว จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้ พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมให้ ‘การเกษตรแบบวิถีชีวิต’ เกิดขึ้นอีกต่อไป

4. ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบ Digital Transformation ครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างรัฐบาลดิจิทัล ( Platform digital Government) ที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โตและคอรัปชั่นมากมาย และขาดประสิทธิภาพ ระบบราชการไทยต้องเป็นใช้กระดาษลดลง ( paperless) ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอปพลิเคชั่น เช่น การขอใช้บริการสาธารณสุขในโครงการ 30 บาท ประชาชนสามารถขอเวลานัดหมายทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องรอคิว จะใช้เทคโนโลยีการออกแบบและการทำโมลผลิตจากระบบเครื่องพิมพ์สามมิติ และการตลาดแบบ E-Commerce มาฟื้นคืนชีวิตให้กับสินค้า OTOP กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากลมากกว่าเดิม ขายดีกว่าเดิมยิ่งกว่าสมัยไทยรักไทย

5. เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค Metaverse โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ซึ่งจะประกอบด้วย NFT (Non-Fungible Token) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึง Games และ E-Sports เพื่อพัฒนาทักษะให้กับเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยี AR (Augmented reality) หรือเทคโนโลยีผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน รวมถึง VR (Virtual reality) หรือ การจำลองสภาพแวดล้อมจริงให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส

ทั้งหมดจะทำให้พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นการประกาศให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับคริปโต ‘อะไรที่มีข้อห้าม คือทำไม่ได้ อะไรที่ไม่มีข้อห้าม ย่อมทำได้’ เช่น การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หลายคนที่สร้างรายได้ผ่าน Soft Power เราจะส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้มีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขายใน NFT เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยอาจสร้างให้เด็กไทยและจิตรกรไทยรวมกัน จนมีสร้างมูลค่าทางสินทรัพย์ดิจิทัลได้นับแสนล้านบาท

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ในอนาคตประเทศไทยจะต้องปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลังทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเรื่องรถไฟฟ้าทุกประเภทที่เรามีขีดความสามารถในการผลิต หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และอื่นๆ จัดให้มี wifi ฟรี เข้าถึงระดับหมู่บ้าน โรงเรียน และสถานที่ราชการที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ( Bandwidth) มากพอ และด้วยเทคโนโลยี Metaverse กำลังจะมา พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเริ่มสอนเด็กและเยาวชน ด้วยการทำโปรแกรมการเขียนชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Program Coding) เพื่อให้เด็กและเยาวชนกลายเป็นเศรษฐีใหม่ในวันข้างหน้า ก้าวข้ามจากความยากจนไปเป็นเศรษฐี และในที่สุดจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีกเท่าตัว มาอยู่ที่ 80 ล้านคนภายใน 4ปี จะไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีกับต่างประเทศอีกแล้ว โดยเราจะสนับสนุนทุกรูปแบบให้ ‘คนไทยทำ คนไทยใช้ คนไทยฉลาด คนไทยเจริญ’

“วันที่รัฐบาล สั่งยุบสภา เราพร้อมหมดแล้ว และมั่นใจว่าเราจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มองไม่เห็นอนาคต มีแต่ความทุกข์ เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย เต็มไปด้วยโอกาส มีแต่ความหวังที่เป็นจริงได้ และไม่ต้องสิ้นหวังแบบทุกวันนี้ เรามั่นใจว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้มีโอกาสบริหารประเทศ ถึง 8 ปีเช่นนี้ เราจะไม่เห็นปรากฎการณ์ คนอยากย้ายประเทศ รวมถึงพี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศ ก็จะอยากกลับมาร่วมสร้างความสุข สร้างความมั่งคั่ง และสร้างความเจริญในประเทศไทย ต้องเกิดปรากฎการณ์สมองไหลกลับประเทศไทยในเร็ววัน ด้วยฝีมือของพรรคเพื่อไทย (Reverse brain drain) เป้าหมายต่อไป พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ เราต้องได้อำนาจรัฐ ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงจะเป็นจริงได้” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เพื่อไทย พร้อมส่ง 3 รายชื่อ แคนดิเดตนายกฯ ตามกฏหมายกำหนด 

นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์ถึงการวางตัวบุคคลเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคว่าน้ำหนักของคนจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ มาจากประชาชนให้การสนับสนุน พรรคเพื่อไทยจะส่ง 3 รายชื่อตามที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องหลังจากยุบสภา และกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง จึงจะมีการพิจารณายื่นรายชื่ออีกครั้ง

เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ประเทศอังกฤษ นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะกระบวนการที่เกิดขึ้น พรรคไม่มีส่วนร่วมรู้เห็น ไม่ใช่กลไกพรรค เป็นแค่เพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง

“ถ้าสื่ออยากรู้เรื่องนี้ ต้องไปถามทางรัฐบาลว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะต่างฝ่ายต่างตอบไม่เหมือนกัน ทั้งประธานวิปรัฐบาล พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ ต่างตอบไม่เหมือนกัน อยากฝากไปถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นการล้มรัฐบาลใช่หรือไม่” นพ.ชลน่าน กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า