นายกฯ แจงเงินกู้จากญี่ปุ่น 5 หมื่นล้านเยน เป็นก้อนเดียวกับ พ.ร.ก. 5 แสนล้านบาท ไม่ใช่กู้ใหม่

(นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 2 พ.ค. 2565 / ทำเนียบรัฐบาล)
จากกรณีนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 9 ปี เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) โดยมีรายงานข่าวต่อมาว่า ญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลไทย จำนวน 5 หมื่นล้านเยน ในลักษณะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโครงการตรวจเชื้อไวรัสบริเวณด่านพรมแดนนั้น

(ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล)
วันที่ 3 พ.ค. 2565 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ชี้แจงในประเด็นเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่นว่า
“คือผมนึกแล้วล่ะเมื่อวานพอมีรูปผมแล้วแหมบอกญี่ปุ่นให้กู้เงินเท่านั้นแหละก็จะรุมผมเล่นงานว่านายกฯ จะกู้อีกแล้ว จริงๆ แล้วเงินกู้ก้อนนี้มันกู้อยู่ในก้อน พ.ร.ก. 5 แสนล้านบาทที่อนุมัติไปแล้ว คือการกู้เงินนี่ผมเคยบอกไว้อยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะล้านล้าน ไม่ว่าจะห้าแสนล้าน ก็ค่อยทยอยกู้มาตามความจำเป็น แหล่งกู้ในประเทศเป็นหลัก อันนี้ทางญี่ปุ่นเขามาช่วยตรงนี้ ถ้าเราจะกู้เขาจะให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ แต่เขามีข้อแม้ว่า จะต้องดูแลในเรื่องโควิด-19 การพัฒนาในเรื่องการตรวจคัดกรองตามจังหวัดชายแดนของเราจากประเทศรอบบ้าน เราก็รู้ว่ามันมีหลายปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องของการตรวจคัดกรองก็มาใช้ในงบประมาณตรงนั้นก็อยู่ในขั้นตอน”
“อย่าบอกว่ารัฐบาลกู้เงินอีกแล้วเลย ก็ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราก็บริหารด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุดแล้ว ในเรื่องของการบริหารทางการเงินการคลัง เราเข้มแข็งอยู่ ถ้าไม่เข้มแข็งพอ ขอใครเขาก็ไม่ให้กู้ ใช่ไหม แต่ก็เท่าที่จำเป็นนะ ตอนนี้ทุกคนก็ต้องดูว่ามันจำเป็นหรือเปล่า กู้มาแล้วทำอะไร ใครได้ประโยชน์” นายกฯ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า “วันนี้ก็ดูแลคนไปหลายสิบล้านคน ได้รับคำชื่นชมจาก WHO มาแล้ว ในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19 เป็นตัวอย่างในภูมิภาคของเรา ในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย ที่เราทำมาทั้งหมด เพราะอย่างนั้นพวกเราก็ต้องเข้าใจ นายกรัฐมนตรีไม่เคยทอดทิ้งใครหรอก เพียงแต่ว่ามันจะทำได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร หลายเรื่องก็มีการถกแถลงใน ครม. ก็รับข้อสังเกตมานำไปปรับแก้”
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเพิ่มเติมว่า “ประเด็นเรื่องเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น นายกฯ ขอให้มีการนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวของเงินกู้ให้ถูกต้องด้วย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 ไม่ใช่การกู้ใหม่ แต่เป็นเงินกู้ที่อยู่ในกรอบ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทอยู่แล้ว โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้กู้ 5 หมื่นล้านเยน ซึ่งที่ต้องกู้จากภายนอกเพราะว่า สภาพคล่องภายในประเทศลดลง ในกรณีนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอให้มีเงื่อนไขในการกู้ที่ดีมาก ซึ่งนายกฯ ย้ำว่าการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามที่ได้รับการจัดสรรแล้ว” และว่า “อยู่ในยอดวงเงินกู้ ตามพ.ร.ก. 5 แสนล้านบาททราบอยู่แล้ว และเป็นการกู้เพื่อใช้ตามความเป็นจริงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องโควิด-19”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2564 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ให้รัฐบาล ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 270 เสียง ไม่เห็นด้วย 196 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ต่อมาวันที่ 14 มิ.ย. 2564 ที่ประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ได้พิจารณาอนุมัติพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเช่นกัน