เกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว 21 คน โดย 18 คนเป็นเด็กที่คาดว่าอาจมีอายุเพียง 7-10 ปีเท่านั้น ส่วนผู้ก่อเหตุอายุ 18 ปี ถูกตำรวจวิสามัญแล้ว
วันที่ 25 พ.ค. 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมร็อบบ์ (Robb Elementary School) ในรัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 21 คน โดยเป็นเด็กถึง 18 คน และเป็นผู้ใหญ่อีก 3 คน
รายงานเบื้องต้นระบุว่า นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อจากเหตุกราดยิงนี้ อาจจะมีอายุเพียง 7-10 ปีเท่านั้น
ขณะที่ผู้ก่อเหตุเชื่อว่าเป็นเยาวชนอายุ 18 ปี ชื่อซัลวาดอร์ รามอส เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้วเช่นกัน คาดว่าอาจเสียชีวิตจากการวิสามัญโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้สังหารยายของเขาก่อนเกิดเหตุ และใช้อาวุธปืนพกและปืนไรเฟิลชนิด AR-15 ในการก่อเหตุ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ชัดเจน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมแถลงต่อชาวอเมริกันถึงเหตุสลดที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งให้ลดธงชาติสหรัฐฯ ครึ่งเสาไปจนถึงวันที่ 28 พ.ค. เพื่อเป็นการไว้อาลัย
เหตุกราดยิงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงหลายครั้งในอเมริกา ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้ยังเป็นโศกนาฏกรรมที่ซ้ำรอย เพราะเคยมีเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดี ฮุค เกิดขึ้นแล้วที่รัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐฯ เมื่อปี 2012 ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 26 คน ในจำนวนนี้ 20 คนเป็นเด็ก
ขณะเดียวกัน เหตุกราดยิงครั้งนี้แม้จะยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัด แต่ก็ทำให้ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐฯ กลับมาเป็นประเด็นทันที โดยบางส่วนห็นว่า อาจต้องมีการแก้กฎหมายการถือครองอาวุธปืนให้เข้มงวดขึ้น ขณะที่บางฝ่ายไม่เห็นด้วย เช่นสมาชิกวุฒิสภาเท็ด ครูซ จากรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนล่าสุดชี้ว่า แม้เหตุกราดยิงล่าสุดจะเป็นเรื่องน่ากลัวขั้นสุด แต่การปฏิรูปกฎหมายครอบครองอาวุธปืนไม่ใช่ทางออก ขณะที่มีบางฝ่ายเสนอให้ครูสามารถพกพาอาวุธปืนได้ เพื่อป้องกันเหตุสลดดังกล่าว
