SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ชัชชาติ’ ขอบคุณ นายกฯ สนใจนโยบาย ไม่ค้านต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า แต่ควรผ่านพ.ร.บ.ร่วมทุน

วันที่ 25 พ.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษน์ระหว่างลงพื้นที่แยกลำสาลี เขตบางกะปิ ถึงจุดยืนเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำว่า เป็นแค่หลักการเพราะยังไม่เห็นข้อมูล ซึ่งหลักการ คือ 1. “โอนหนี้” มาให้กทม. กระบวนการครบถ้วนแล้วหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่า สภาฯ กทม. ต้องรับรู้ด้วย เพราะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ผู้ว่าฯ กทม. ทำเองน่าจะไม่ได้ เรื่องนี้เราไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด 2. สัญญาจ้างเดินรถ ซึ่งจ้างระยะยาว ที่ไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน ตรงนี้ต้องดูว่าถูกกฎหมายหรือไม่ และเรื่องที่ 3 การต่อสัญญาสัมปทาน โดยไม่ได้ใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุน

“เราไม่ได้ค้านการต่อสัญญา แต่เราคิดว่าควรจะผ่านกระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุน เพราะมีการพิจารณาที่ละเอียดถี่ถ้วน อาจจะมีการแข่งขัน ไม่อย่างนั้นก็ถกเถียงกันว่า (ค่าโดยสาร) 65 บาทคุ้มหรือไม่คุ้ม เราไม่รู้ว่าตัวเลขมาจากไหน ใจจริงเราคิดว่า ในเมื่อทุกโครงการ ต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน ถ้าได้ตามวงเงิน ก็คือหลักการโดยรวมของทั้งประเทศ อย่างนั้นเราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุผลอะไรที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว เราไม่ต้องใช้หลักการนี้ เพราะอย่างนั้นถ้าเรายกข้ามหลักการนี้ไป ถามว่าต่อไปโครงการอื่นก็ต้องทำข้ามได้เหรอ แค่นั้นเอง ไม่ได้มีรายละเอียด เพราะเราพูดตามหลักการ เพราะเราเชื่อมั่นว่ายิ่งมีการแข่งขัน ยิ่งมีคนมาช่วยดูมันยิ่งโปร่งใส ถ้าดูได้น้อยคน ไม่มีการแข่งขัน เราก็ไม่รู้ราคาหรอก” นายชัชชาติ กล่าว

ส่วนเรื่องการลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า นายชัชชาติ บอกว่า ลดราคาเป็นรายละเอียด ยกตัวอย่างปัจจุบัน 59 บาท มี 44 บาท คือส่วนไข่แดง กับ 15 บาท ส่วนต่อขยาย ซึ่งกทม.เป็นคนรับผิดชอบอยู่ ต้องดูว่าในส่วน 15 บาทนี้ ปรับได้มากน้อยแค่ไหนด้วย เพราะเป็นส่วนที่เรารับโดยตรง ดังนั้นในช่วงถึงปี พ.ศ. 2572 ต้องไปคิดรายละเอียดว่าต้นทุนเท่าไหร่ ซึ่งเราไม่รู้ต้นทุนเท่าไหร่ ขาดทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ ไม่มีตัวเลขเลยว่าส่วนต่อขยายขาดทุนหรือกำไร จ้างเขาเดินรถเก็บได้คุ้มไหม เพราะถ้ากำไรอยู่อาจจะคืนให้ได้ ส่วนที่ต่อขยายเก็บลดลงได้ แต่ถ้าขาดทุนต้องไปดูอีกที…หลักการคือลดได้ ต้องลดให้มากที่สุดให้ประชาชน แต่ตัวเลขเรายังไม่เห็น เราดูในหลักการก่อน

ผู้สื่อข่าวถามกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดถึงนโยบาย 200 ข้อจะทำได้จริงแค่ไหน นายชัชชาติ ตอบว่า “ขอบคุณกำลังใจที่ท่านให้ แสดงว่าท่านให้ความสำคัญกับนโยบายเรา ก็ดีครับ ผมก็รับฟังทุกคำวิจารณ์ แล้วท่านเป็นผู้ใหญ่ ผมว่าเราก็รับมา ยิ่งทำให้เราแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจที่ต้องทำให้ดีที่สุด ก็ขอบพระคุณท่านนายกฯ ที่กรุณาให้ความสนใจเรื่องนี้ครับ”

มีการนำไปเปรียบเทียบกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่มีนโยบายตอนหาเสียงเมื่อปี 2562 เยอะแต่ยังทำไม่ได้จริง นายชัชชาติ ตอบว่า “อันนี้ผมไม่เกี่ยว เพราะไม่เกี่ยวกับ กทม. เราเน้นเรื่องกทม.เป็นหลัก”

ส่วนกรณีคนในรัฐบาลวิจารณ์ถ้านโยบายกว่า 200 ข้อทำไม่ได้จริง ลงสนามต่อไปคะแนนจะลดลงเหลือแค่ 2 แสนคะแนน นายชัชชาติ ตอบว่า “ได้ครับ ผมว่าท่านมีสิทธิ์เหมือนคนกรุงเทพ ทุกคนที่จะให้ความเห็น ผมว่าก็น้อมรับความเห็น ก็ยินดีเราต้องรีบ ทำให้เร็วขึ้น ทำให้ได้ครบ ผมว่าดี ติเตียนในสิ่งที่สร้างสรรค์ ผมว่าก็เป็นประโยชน์กับคนกรุงเทพ แล้วผมว่าท่านมีสิทธิ์จะพูด เพราะท่านก็เป็นคนกรุงเทพเหมือนกัน ผมว่าเราวิจารณ์ได้ เราน้อมรับ เพราะว่าเราใช้เหตุผล ผมว่านั่นคือข้อดี เราเอานโยบายชัดเจนแถลง ทุกคนเห็นเลยทำได้ไม่ได้ เราชี้แจงได้ ถ้าเกิดเราพูดแค่ 2-3 นโยบาย แล้วไม่มีอะไรเป็นตัวชี้วัดสุดท้าย 4 ปีไป กรุงเทพก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

“และที่น่าดีใจมากๆ คืออะไร สำนักเขตหลายๆ อัน เอานโยบายไปพัฒนาแล้ว ยังไม่ทันเข้าทำงานเลย ตื่นตัวกันแล้ว ผมว่าอันนี้เป็นมิติใหม่ อย่างสำนักการศึกษาเอา 28 นโยบายไปดู ผมเชื่อว่าเขาทำได้เกือบหมดแหละ พอมีทิศทางไปทุกคนเริ่มต้นตัว เป็นการทำงานที่ยังไม่ต้องลงมือเลย มันก็เกิดความกระตือรือร้นแล้ว …ผมได้แนะนำเลย แล้วผมก็ยังดีใจนะ วันที่ 22 ที่ประกาศผลการเลือกตั้ง เราแนะนำว่าข้าราชการช่วยไปอ่านหน่อยเผื่อมีข้อติเตียนแนะนำจะได้มาคุยกันง่ายหลายคนไปอ่านเราก็ดีใจ ผมเชื่อว่ามันคงพอทำได้แหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่เอาโพสต์ขึ้นเว็บไซต์เขา ส่วนเขต นโยบายรายเขตเขาก็ไปดูว่า 214 แผน เกี่ยวข้องอะไรกับเขาบ้าง ซึ่งเขาต้องไปหาพื้นที่ปลูกต้นไม้…จะปลูกที่ไหน จุดหาบเร่แผงลอย รถติด ฟุตบาทไม่ดี แล้วทำลงแผนที่มา แล้วค่อยๆ แก้ไป ผมว่าสนุกนะ เป็นมิติใหม่ที่ไม่ค่อยเคยเห็นราชการเป็นแบบนี้” นายชัชชาติ ระบุ

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ยินดีถ้าข้าราชการ กทม. จะแจกการบ้านกลับมาให้ตน เป็นต้องเป็น Two way อย่างเช่นเว็บไซต์ มีคนคอมเมนต์กว่า 2,000 คอมเมนต์ เราเริ่มจาก 213 นโยบายตอนนี้เป็น 214 นโยบาย ตนยังไม่ได้เห็นรายละเอียด ทีมงานก็เพิ่ม ต่อไปอาจมีเพิ่มก็ได้ เพราะเมืองเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย นโยบายไม่ใช่ศิลาจารึก นโยบายเปลี่ยนตามความต้องการของคน ลงไปเจอปัญหาแล้วจะปรับได้ไหม ดังนั้น 213 ข้อ ไม่ใช่สร้างรถไฟฟ้าทุกข้อ แต่เป็นนโยบายไม่ใหญ่โตใช้เงินไม่มาก แต่แตะชีวิตคน พอเรามีโจทย์ข้าราชการเขาก็มีทิศทางว่าจะทำอะไร ถ้าเราไม่มีโจทย์ เขาก็ทำเหมือนเดิมน่าจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าก็ต้องลองดู แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจเพราะทำให้กระตุ้นตื่นเต้น หันมาดูนโยบายแทนที่จะทะเลาะกันเรื่องอื่น ถ้าทำไม่ได้ก็คงอธิบายยาก เรามีที่ปรึกษาที่จะมาขับเคลื่อนนโยบายทั้งหมดให้สำเร็จและมีงบประมาณลงไป

นอกจากนี้ เมื่อวาน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ในสนามเลือกตั้งเดียวได้โทรศัพท์มาหา โดย นายชัชชาติ เปิดเผยว่า “ท่านโทรมาแสดงความยินดี และฝากเรื่องรถไฟฟ้า ผมก็น้อมรับ ผมเคารพคุณรสนาเหมือนญาติผู้ใหญ่ เจอกันทุกครั้งก็สวัสดีท่าน ได้บอกท่านถ้ามีอะไรแนะนำท่านโทรมาได้เลย เพราะเรามีเบอร์กันแล้วก็ยินดี” ส่วนเรื่องที่ น.ส.รสนาพูดช่วงการหาเสียง “ไม่เลือกรสนา ชัชชาติมาแน่” นั้น นายชัชชาติ ตอบว่า ไม่พูดเรื่องนั้นเลย แล้วที่ท่านพูดเคารพสิทธิ์ของท่าน ช่วงการเมืองทุกคนมีเหตุผลที่จะพูด ซึ่งมันผ่านไปแล้วอย่าเอามาใส่ใจเลย” สำหรับเรื่องรถไฟฟ้าที่ น.ส.รสนา ฝากนั้นจุดยืนเดียวกันคือ “ผลประโยชน์ของประชาชน”

ภาพจาก : ทีมงานชัชชาติ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า