นายกฯ ขอ รมต.อยู่ร่วมอภิปรายงบฯ 66 ส่วนส.ส.ขอให้ถกเถียงอย่างมีคุณภาพ ‘ประวิตร’ เชื่อรบ.ผ่านได้อยู่ครบวาระ

นายกฯ ย้ำยังไม่มีนโยบายให้ถอดหน้ากาก พร้อมกันนี้ขอรัฐมนตรีอยู่ร่วมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 66 เพื่อชี้แจงข้อสงสัย ขอ ส.ส.ถกเถียงอย่างมีคุณภาพ ขณะที่ ‘ประวิตร’ มั่นใจ รัฐบาลผ่านทั้งอภิปรายงบฯ และอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะได้อยู่จนครบวาระ

วันที่ 30 พ.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีได้ย้ำเตือนเรื่องการใส่หน้ากากโดยระบุว่ายังมีความจำเป็น และไม่มีนโยบายให้ถอดหน้ากาก ขณะเดียวกันเตือนเรื่องฝีดาษลิง แต่ล่าสุดยังไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศไทย และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากถึงคณะรัฐมนตรีทุกคนให้อยู่ร่วมรับฟังการพิจารณาทุกวัน เพราะงบประมาณดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญต่อการใช้จ่ายของภาครัฐและการส่งเสริมการลงทุน ขอให้รัฐมนตรีทุกคนชี้แจงข้อสงสัย และขอส.ส. ถกเถียงอย่างมีคุณภาพ พร้อมขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด ทุ่มเทในการทำงานตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะผ่านพ้นการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 66 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำหน้าที่ครบวาระอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ งดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี จากเดิมที่สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งให้สื่อมวลชนขึ้นไปรอที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี เพื่อฟังการแถลงข่าว แต่ได้แจ้งยกเลิกการแถลงข่าวในภายหลัง ทั้งนี้ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี เดินจากตึกสันติไมตรีผ่านทางเชื่อมขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลพยายามสอบถามถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ.2566 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.ถึง 2 มิ.ย.โดยนายกรัฐมนตรีมีท่าทีที่เมินเฉย ไม่ได้มองมาที่สื่อ และไม่ได้ตอบคำถามกับสื่อเหมือนทุกครั้งและได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกส่งเป็นเอกสารชี้แจงให้กับสื่อมวลชนผ่านทางกลุ่มไลน์ของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ มีหลายประเด็นที่รัฐบาลเร่งหาทางแก้ไขช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้ ครม. ได้เห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านทาง ธกส. ที่สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ในปี 2565 – 2567 รวม 3 ปี วงเงินปีละ 2,000 บาท รวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะรับชดเชยดอกเบี้ยให้ตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องที่ได้ขยายเป็นระยะที่ 3 โดยจะได้มีการนำข้อมูลแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri – Map) มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ครม. ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลเรื่องการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ตามบริบทสภาพแวดล้อมของชาวไร่อ้อยที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเอื้อต่อการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยทุกกลุ่ม