SHARE

คัดลอกแล้ว

‘มงคลกิตติ์’ เหวี่ยงบัตร ส.ส.พร้อมลาออก หากผิดเรื่องข่มขู่ทนายคดีแตงโมจริง ขณะที่ ‘ทนายเดชา’ ยื่น ‘เสรีพิศุทธิ์’ สอบจริยธรรมลั่น ส.ส.ทำผิดกฎหมายไม่ละเว้น

วันที่ 2 มิ.ย. 2565 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมว่า สามารถมาร้องเรียนได้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อขอให้สอบจริยธรรมร้ายแรง ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็เป็นสิทธิ์ที่จะมาร้องเรียนได้ แต่ข้อชี้แจงว่าเดิมทีได้มูฟออนคดีแตงโมไปแล้ว เพราะจะต้องดำเนินการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สืบสวนสอบสวนคดีอาญา และร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับสำนักงานทนายรัฐ เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อภาพรวมของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสืบสวน การพิสูจน์หลักฐานและนิติวิทยาศาสตร์

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ได้มาขอความอนุเคราะห์พรรค ให้มาช่วยดูแลคดีการเสียชีวิตของแตงโม เพราะแม่พูดตรงๆ ว่าลูกแม่เสียชีวิตเนื่องจากไม่ใช่อุบัติเหตุ จึงสนใจและติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่แตงโมเสียชีวิต และดำเนินการมาหลายบทบาท อีกทั้งไม่สามารถละทิ้งได้คือหน้าที่ของพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรคมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน พรรคต้องเข้าไปช่วยเหลือทุกสถานการณ์ เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และดำเนินการตามนโยบายพรรค

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ทนายทุกคน ทั้งทนายเดชา และทนายษิทรา รู้จักและสนิทหมด เราทำเต็มที่เพื่อผู้เสียหาย ไม่อยากใช้กฎหมายประหัตประหารกับฝ่ายตรงข้าม ถ้ายังไม่หยุดแสดงความเห็นเชิงข่มขู่แม่แตงโม ก็จำเป็นต้องพูดคุยกันตรงๆ ส่วนใครจะเห็นว่าผิดก็สามารถยื่นร้องเรียนได้ แต่การที่ทนายเดชาจะกล่าวหาว่าเป็นอั้งยี่ซ่องโจร ขอปฏิเสธ เพราะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยอารมณ์พร้อมถอดบัตรประจำตัว ส.ส.ออกว่า “หากผมไม่สามารถคุ้มครองแม่ของแตงโมได้ก็ไม่มีหน้าจะเป็นส.ส. และคนอย่างผมหากคิดจะสู้ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว และไม่กลัวจะตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่กลัวติดคุก แม้จะถูกตัดสิทธิ์ 10 ปีก็ยอม หากช่วยให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้น ผมพร้อมจะแลก เพราะยังมีคนอื่นทำหน้าที่แทนตามอุดมการณ์ของพรรคไทยศรีวิไลย์ และหากผมผิดจริงไม่ต้องมาตัดสิน เพราะจะลาออกด้วยตนเอง ผมไม่ได้ข่มขู่ทนายเดชา แต่เป็นการตักเตือนกัน และขอให้ไปถามทนายเดชาว่าข่มขู่อะไรไว้บ้าง และยืนยันจำเป็นที่จะเป็น ส.ส.ต่อ เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนที่ดูแลอยู่ผ่านพ้นไปด้วยดี อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าระหว่างแถลงข่าวนายมงคลกิตติ์ มีน้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับจะร้องไห้อยู่ตลอด

เมื่อถามว่า อยากฝากบอกอะไรกับทนายความเหล่านั้นบ้าง นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอฝากไปยังทนายความ 4 คนว่า ให้ดูด้วยว่ากำลังทำอะไรอยู่และท่านทำอะไรอยู่ เพราะพยายามช่วยเหลือแม่แตงโมทุกทางที่ทำได้ แต่ทั้งทนายทั้ง 4 คนพยายามระงับกระบวนการยุติธรรม และส่วนตัวไม่โกรธที่จะไปร้องเรียน สามารถทำได้ แต่เสียใจเพราะจะทำให้เสียเวลาในการต่อสู้คดี ขอร้องอย่างวางประตูเรือใบ หากทำงานนี้เสร็จแล้วจะทำลาออกเอง

จากนั้นนายมงคลกิตติ์ ได้อ่านบทกลอนของศรีปราชญ์ฝากถึงทนายทั้ง 4 คน ว่า “ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เราผิด 4-5 คนมาประหารเราชอบ เราบ่ผิดท่านมาล้างดาบนั้นคืนสนอง”

‘ทนายเดชา’ ยื่น ‘เสรีพิศุทธิ์’ สอบจริยธรรม ลั่น ส.ส.ทำผิดกฎหมาย ไม่ละเว้น

ก่อนหน้านี้นายเดชา กิตติวิทยานันนท์ หรือ ทนายเดชา อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธา มารดาของแตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ อดีตนักแสดงสาว ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร(ปปช.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ หลังมีพฤติกรรมข่มขู่ตนและเพื่อนทนาย ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีโทรศัพท์ข่มขู่ว่าหากไม่หยุดพูดถึงคดีการเสียชีวิตของแตงโมจะถูกกระทืบ

“นายมงคลกิตติ์ ระบุด้วยว่าไม่นิยมใช้วิธีการทางกฎหมายเพราะ ไม่ถนัด ถนัดแต่วิธีนอกระบบ ทั้งที่นายมงคลกิตติ์เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังข่มขู่ว่าหากผมไม่หยุดพูดเกี่ยวกับคดีจะส่งไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วไม่ได้กลับมา ซึ่งหมายถึงจะต้องตายอย่างเดียว ดังนั้น ก่อนตายผมจึงเดินทางมาหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบกลับทันทีว่ายังไงก็ไม่ตายหรอก” นายเดชา กล่าว

นายเดชา กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ยังโพสต์เฟซบุ๊กจะให้คนไปแจ้งความ เช่น ที่ จ.มหาสารคาม นราธิวาส ภูเก็ต ทั้งที่เหตุเกิดที่กรุงเทพ ฯ เพราะต้องการให้ตนลำบาก เป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต กลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ส.ส.มีหน้าที่ในการประชุมสภา แต่กลับไปงมหามีด เห็นท่อนไม้ก็บอกเป็นแตงโม แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตำรวจสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ในขั้นตอนอัยการสั่งฟ้อง และยังตั้งพรรคพวกทนายความ อ้างว่ามี 30-40 คน รวมถึงอ้างอดีตผู้พิพากษาตรวจสอบการทำงานตำรวจ อัยการ

“พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม แบบนี้เรียกว่า ส.ส.มาเฟีย ใครทำอะไรขัดหูก็จะออกมากระทืบ ผมเห็นว่าคนแบบนี้ไม่ควรเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไปและตนจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายมงคลกิตติ์พ้นจากความเป็น ส.ส. คนที่จะจัดการกับนายมงคลกิตติ์ได้ เอาที่ผม เซิร์ช Google มีเพียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์คนเดียว เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นมือสังหารส.ส.มาแล้วหลายคน คนต่อไปคือนายมงคลกิตติ์ ให้เตรียมฌาปนกิจได้เลย และตอนนี้จะไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะต้องหลุด ส.ส.อย่างเดียว ผมคงไม่เอาส.ส.มาเฟียไว้” นายเดชา กล่าว

ส่วนกรณีที่นายเดชาท้าให้นายมงคลกิตติ์ลงสัตยาบันกับคุณแม่ของแตงโม ในฐานะเป็นคนแนะนำ ให้ฟ้องร้องคนบนเรือว่าร่วมกันฆ่า หรือร่วมกันทำร้ายแตงโม แต่นายมงคลกิตติ์กลับไม่ยอมทำ นายเดชา กล่าวว่าการที่ไม่ลงชื่อแสดงว่ากลัว และเป็นเรื่องโกหกเพราะบอกว่าเป็นคดีฆาตกรรม การที่ไม่ร่วมลงสัตยาบันเพราะต้องรับผิดถ้าเกิดมีการฟ้องเท็จ ซึ่งตอนนี้เป็นห่วงแม่คุณแตงโมมาก เพราะแต่ละครั้งที่นายมงคลกิตติ์แถลงข่าวร่วมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แล้วบอกว่า เป็นนโยบายของพรรคไทยศิวิไลย์ เป็นแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ ตนจึงมองว่าเมื่อคุณแม่แตงโมฟังเรื่องนี้แล้วควรหาที่จะหาที่ปรึกษาใหม่ดีกว่า

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์ กล่าววาจาข่มขู่ คิดว่าทนายเดชาไม่มีความรู้หรือไม่มีพรรคพวกหรือ จะช่วยให้ความเป็นธรรมกับทนายเดชาทั้งกรณีที่นายมงคลกิตติ์ ผิดจริยธรรมและผิดประมวลกฎหมายอาญาด้วย มาตรา 309 ที่ระบุว่าผู้ใดข่มขู่ประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มีโทษจำคุก 3 ปี มาตรา209 ผู้ใดกระทำการเป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีโทษจำคุก 7 ปี แต่มาตราที่สำคัญคือมาตรา 157 ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งในการสอบสวนของผมอาศัยมาตรา 234 (1) ที่ระบุว่าคณะกรรมการป.ป.ช มีอำนาจหน้าที่ไต่สวนดำเนินคดีนักการเมือง ที่กระทำการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

“พฤติกรรมต่าง ๆ ของนายมงคลกิตติ์ ผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญและผิดจริยธรรม จะรีบสอบสวนและส่งไปยังป.ป.ช. เพื่อให้ส่งศาลฎีกาเพื่อดำเนินการความผิดทั้งอาญาและจริยธรรม ในฐานะส.ส.ต้องขอโทษทนายเดชา แต่ยืนยันว่า ส.ส.ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน ถ้า ส.ส.ทำผิดกฎหมาย ไม่ละเว้น” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า