ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดยุทธการ ‘เด็ดหัวสอยนั่งร้าน’ แง้ม ‘3 ป.’ ขึ้นเขียง คาดใช้เวลาซักฟอกมากกว่า 4 วัน จับตา ส.ว.
วันนี้ (9 มิ.ย. 65) เวลา 12.45 น. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย
แถลงข่าวจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 151 โดยจะยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 15 มิ.ย. 65 เวลา 10.00 น.
สำหรับการอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านจะใช้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จำนวน 10 คน โดยมุ่งเป้าใน 6 ประเด็น คือ
1. ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
2. การจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม
3. การส่อทุจริตเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง
4. การไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
5. การละเมิดสิทธิมนุษยชน
และ 6. การทำลายระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
นายสุทิน คลังแสง ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หัวมี 1 ส่วนนั่งร้านก็มาจาก 3 พรรค ครบกันทุกพรรค คือ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย และพลังประชารัฐ เพราะฉะน้้นนั่งร้านมี 9 คน รวมหัวเป็น 10 ส่วน 9 มีชื่ออะไรบ้าง อดใจรอนิดนึง วันพุธก็ทราบแล้ว วันนี้ให้นั่งร้านพยายามสำรวจตัวเองก่อน ไม่ให้เคลื่อนไหวมาก วันนี้เอาเป็นว่า 1+9
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวเสริมว่า 3 ป. โดนครบ จริงๆ เป็นนั่งร้านพิเศษอีก 2 ท่าน ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่ประธานวิปฯ ได้เรียนคือ เด็ดหัว หัวคือ 1+2 ที่เหลือจาก 3 พรรคร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความมั่นใจในข้อมูลและหลักฐานประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มาจากทั้ง 6 พรรค รวมทั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะร่วมอภิปรายด้วย
“เสียงของฝ่ายค้านเอง เราก็เหนียวแน่นในส่วนของเรา จริงอยู่อาจมีการแปรปรวนบ้างในช่วงการลงมติที่ผ่านมา เราก็ไม่เคยนับในกลุ่มของฝ่ายค้านอยู่แล้ว” นพ.ชลน่าน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี วุฒิสภาจะยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 จะเป็นการฟอกขาวให้กับรัฐบาลหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ได้หรือไม่ได้ ต้องดูเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญบอกว่าวุฒิสภายื่นได้แต่ให้ครม.มาแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญ
“ผมขีดเส้นใต้ชี้แจงปัญหาสำคัญในการบริหาราชการแผ่นดิน ถ้าเป็นไปตามตัวบทบัญญัติรัฐธรรมนูญนี้เป็นปัญหาสำคัญจริง แถลงในสิ่งที่เป็นปัญหาจริงก็ดูว่าเขาก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ การบริหารราชการแผ่นดิน ถ้านอกเหนือจากนี้ก็เข้าข่ายเป็นการฟอกขาวได้” นพ.ชลน่าน กล่าวและระบุว่า เราต้องเฝ้าดูเพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่วุฒิสภามายื่นได้ และเชื่อว่าวุฒิสภาส่วนใหญ่คงไม่เห็นด้วยที่จะใช้เป็นเวทีฟอกขาว