‘สมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตอาสา ม.อ.’ ทำ MOU ‘บ้านกรือซอ แว้ง’ สร้างชุมชนต้นแบบสู่หมู่บ้านจัดการโควิด

สมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตอาสา ม.อ. (สศ.มอ.) จัดทำ MOU ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส องค์การบริหารส่วนตำบลแว้ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกรือซอ และเครือข่ายภัยพิบัติชุมชนบ้านกรือซอ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยมีนายสุวัฒน์ ทองเล็ก ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอแว้ง เป็นประธานในพิธีลงนาม MOU พร้อมนางไอยชะห์ พรหมปลัด รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกรือซอ น.ส.จุฑามณี หามะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแว้ง นายบาฮารูดีน ลอแม โต๊ะอีม่าม ม.4 บ้านกรือซอนายอานัติ หวังกุหลำ อุปนายก สมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตอาสา มอ. ว่าที่ร้อยตรี อิสมาแอ มาหะ ผู้จัดการโครงการฯ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วม ที่ห้องประชุม สำนักงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกรือซอ อ.แว้ง จ.นราธิวาส

น.ส.จุฑามณี หามะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแว้ง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการจัดการโควิด ได้มีส่วนช่วยให้ชาวบ้านได้เข้าถึงการบริการในด้านต่างๆ ทำให้พื้นที่สามารถจัดการตัวเองได้ดีเยี่ยม

นายบาฮารูดีน ลอแม โต๊ะอีม่าม ม.4 บ้านกรือซอ ในฐานะประธานเครือข่ายรับมือภัยพิบัติบ้านกรือซอ กล่าวว่า การทำงานกับคนในชุมชนนั้นไม่ยาก ชาวบ้านเข้าใจ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้ช่วงแรกๆที่โควิด19 ระบาดหนัก จนต้องปิดหมู่บ้าน แต่เมื่อเราทำงานกับชุมชน มีการสื่อสารด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและหยิบเรื่องประกาศจากทางสำนักจุฬาราชมนตรีมาอธิบายด้วยทำให้ชาวบ้านเปิดใจและให้ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่ทำงานเพื่อชุมชนในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครั้งนี้ ทำให้ตนในฐานะผู้นำศาสนาได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ได้ความรู้ใหม่ๆ ชาวบ้านเกิดการตื่นตัว โดยเฉพาะหมู่3 และหมู่ 4 ที่ตนรับผิดชอบอยู่นั้น ถือเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดโควิดในช่วงแรกๆ ทำให้มีการปิดหมู่บ้าน แต่หลังจากตนได้ทำการประชาสัมพันธ์ เรื่องโควิด 19 ก็ทำให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือและฉีดวัคซีนมากขึ้น

ขณะที่ นางไอยชะห์ พรหมปลัด นักวิชาการสาธาณสุขชำนาญการ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกรือซอ กล่าวว่า ทาง รพ.สต.บ้านกรือซอ รู้สึกมีความยินดีอย่างมาก และรู้สึกดีใจ ที่ สมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตอาสา ม.อ.มีโครงการดีๆนำเข้ามาในชุมชน ทำให้ภาคีเครือข่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม นอกจากจะช่วยให้ชาวบ้านได้สร้างเสริมสุขภาพที่ดีในการดำรงชีวิต และได้มีส่วนในการพัฒนาชุมชนในการป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย”

“เราทำงานด้านควบคุมโรคติดต่ออยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว สำหรับการทำงานช่วงโควิด – 19 เป็นงานของเราตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว มีการประสานงานกับภาคีเครือข่ายในชุมชน ทั้งผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา อสม.ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น รวมถึงน้องๆเยาวชนในพื้นที่”

ปิดท้าย ว่าที่ร้อยตรี อิสมาแอ มาหะ ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า หัวใจของการทำ MOU ร่วมกัน มี 4 ข้อ ด้วยกัน

1. การผลักดันเชิงนโยบายและแผนที่เกี่ยวข้อกับการดำเนินงาน เพื่อรับมือและฟื้นฟูผลกระทบจากภับพิบัติ

2. การจัดวางงบประมาณให้กับส่วนที่เกี่ยวข้อง กลุ่มเครือข่ายของเราที่มีอยู่ในชุมชน

3. การจัดวางคนที่จะทำหน้าที่ในการประสานงานร่วมกับเครือข่ายภัยพิบัติของเรา

4. การให้การสนับสนุนเครื่องไม้ เครื่องมืออุปกรณ์หรือการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มที่เรามีการทำกิจกรรมอยู่ในพื้นที่

“เราเลือกพื้นที่บ้านกรือซอ เพราะที่นี้มีต้นทุน การทำงานเครือข่าย มีผู้นำศาสนาที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้นำมัสยิดในชุมชนที่มีการทำงานร่วมกับกลุ่มเยาวชน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ที่เราอยากทำงานร่วมกัน จึงเป็นที่มาของการเลือกพื้นที่ตรงนี้” ว่าที่ร้อยตรี อิสมาแอ กล่าว