การเมืองฝรั่งเศสส่อแวววุ่น ‘มาครง’ พลาดเสียงข้างมากในสภา เตรียมรับศึกหนักต่ออีก 5 ปี

ประธานาธิบดีเอมมามูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ต้องผชิญศึกหนักในการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง หลังจากที่ผลการเลือกสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสรอบสองซึ่งเป็นรอบชี้ขาดเมื่อวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) พรรคแนวร่วมรัฐบาลได้รับเสียงสนับสนุนน้อยลง แต่การสนับสนุนกลับเทไปยังพรรคฝ่ายค้านแทน

ผลอย่างไม่เป็นทางการของเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 และ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยต้องการจำนวนสมาชิกในสภาทั้งหมด 577 ที่นั่ง ปรากฎว่า พันธมิตรพรรครัฐบาลสายกลาง ที่นำโดยพรรคอ็องซอมเบลอ ของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง กวาดที่นั่งในสภารวมกันมาได้ 234 ที่นั่ง ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เพื่อจะครองเสียงข้างมากในสภาเบ็ดเสร็จที่ต้องการจำนวน ส.ส. 289 ที่นั่ง

ในขณะที่แนวร่วมพันธมิตรฝ่ายซ้าย ซึ่งนำโดยนาย ฌอง-ลุค เมลองชง ได้รับเลือกตั้งส.ส.เข้าสภาจำนวน 141 ที่นั่ง และพรรคชาตินิยมขวาจัดอย่างพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ( อาร์เอ็น ) ของนางมารีน เลอ เปน คว้ามาได้ 90 ที่นั่ง 

หากผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ จะส่งผลให้การเมืองฝรั่งเศสตกอยู่ในสภาสั่นคลอนเนื่องจากว่ารัฐบาลของนายมาครงจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการผลักดันนโยบายหรือออกกฎหมายต่างๆ ซึ่งจะต้องอาศัยการสนับสนุนจากฝ่ายตรงข้ามในสภา รวมถึงการใช้ความพยายามในการดึงเสียงสนับสนุนจากนักการเมืองสายกลางซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

นายโดมินิค รุสโซ ศาสตรจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “สำหรับนายมาครงแล้ว 5 ปีจากนี้จะเป็นเรื่องของการเจรจาและการประนีประนอมในรัฐสภา”

ด้านนางเอลิซาเบธ บอร์น นายกรัฐมนตรี ของฝรั่งเศสได้ออกมาพูดภายหลังจากที่รับทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยระบุว่า “นี่เป็นสถาการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแม้ว่าสถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับประเทศของเรา แต่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะทำงานกันอย่างหนักเพื่อสร้างเสียงข้างมากที่มุ่งเน้นการดำเนินการอย่างไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพันธมิตรทั้งหลายเพื่อรับประกันความมั่งคงของประเทศเรา และเดินหน้าออกกฎหมายเพื่อปฏิรูปในภาคส่วนที่มีความจำเป็นต่อไป”