พรรคกล้าเรียกร้องก.พาณิชย์ ดำเนินการตามกฎหมายควบคุมราคาค่ากลั่นน้ำมัน ชี้ทำได้ทันทีคนไทยจะใช้น้ำมันราคาลดลง 4 บาทต่อลิตร
วันนี้ (20 มิ.ย. 2565) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า แถลงข่าวต่อเนื่องเรื่องวิกฤตพลังงาน-ราคาน้ำมัน “เราจะทำให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ถูกลงทันทีได้อย่างไร” – พรรคกล้าสู้ต่อ !! ให้คนไทยใช้น้ำมันถูกลงทันที 4 บาท/ลิตร ว่า ขอเรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยตรง ผ่าน พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ควบคุมราคาน้ำมัน ซึ่งหากใช้อำนาจดังกล่าว คนไทยจะสามารถใช้น้ำมันที่มีราคาลดลง 4 บาทต่อลิตรได้ทันที
นายกรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าทั้งก๊าซปิโตรเลียมเหลว และน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหนึ่งในสินค้าควบคุมมาตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.64 แต่ไม่ปรากฎมาตรการที่จะออกมาควบคุมราคาตามกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องค่ากลั่นน้ำมัน อัตราค่าการกลั่นในปี 65 เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยไตรมาสแรกของปีปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.91 บาท/ลิตร สร้างกำไรให้โรงกลั่น 28,000 ล้านบาท และปัจจุบันค่าการกลั่นขยับสูงขึ้นเกือบ 6 บาทแล้ว ดังนั้นหากนำส่วนต่างของค่าการกลั่นไปลดราคาน้ำมันหน้าปั้มจะทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนประหยัดเงินลงได้ 4 บาท/ลิตร
ส่วนกรณีที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าค่าการกลั่นอยู่ที่ 3 บาท/ลิตร ไม่ใช่ 8 บาทนั้น ได้นำข้อมูลจากกระทรวงพลังงานและ บมจ.ปตท.(PTT) ไปใช้คิดคำนวณ ซึ่งเชื่อถือได้ และใช้สูตรคำนวณคือราคาน้ำมันสำเร็จรูปลบราคาน้ำมันดิบ ซึ่งจะเท่ากับค่าการกลั่น ดังนั้นสิ่งที่นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่าค่าการกลั่นอยู่ที่ 3 บาท/ลิตร ถือเป็นเพียงค่าเฉลี่ยของ 5 เดือนแรกของปีนี้เท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากกำไรของโรงกลั่นไม่มากพอคงไม่กล้าคืนเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทันที
“รัฐบาลแก้ปัญหาทันทีด้วยการออก พ.ร.ก.ลดค่าภาระน้ำมันแพงให้ประชาชน เพื่อวางหลักเกณฑ์เรื่องของค่าการกลั่น ให้ชัดเจน และโปร่งใส ภายใต้กติกาและมีหลักธรรมาภิบาล และรองรับปัญหาความยืดเยื้อของวิกฤตพลังงานที่อาจยาวนานเกิน 3 เดือน เนื่องจากขณะนี้รัฐไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย เป็นเพียงสัญญาเปล่าที่ไม่มีอะไรเชื่อถือได้” นายกรณ์ กล่าว