ผอ.ข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนสงครามยูเครนอาจไม่จบง่ายๆ เพราะปูตินยังต้องการยึดทั้งประเทศ

ผู้อำนวยการข่าวกรองสหรัฐฯ เผยแนวโน้มสงครามในยูเครนอาจต้องยืดเยื้อไปอีกนาน ชี้ ‘ปูติน’ ยังต้องการยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครน และอาจแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อตะวันตกมากขึ้น

แอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence: DNI) ของสหรัฐฯ เปิดเผยในการประชุมร่วมกับผู้แทนจากภาคธุรกิจรายใหญ่ที่กรุงวอชิงตันดีซีเมื่อวันพุธ (29 มิ.ย.) ว่า จากการประเมินและติดตามสถานการณ์สงครามในยูเครนมานานกว่า 4 เดือน หน่วยงานด้านข่าวกรองหลายแห่งมีความเห็นตรงกันว่า สงครามนี้น่าจะดำเนินต่อไปอีกนาน

“ในระยะสั้น ภาพของสงครามจะยังคงดูดุเดือด และรัสเซียก็จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อตะวันตกมากยิ่งขึ้น” เฮนส์ระบุ

เฮนส์อธิบายต่อว่า “เราคิดว่าปูตินยังคงมีเป้าหมายทางการเมืองเหมือนเดิมอย่างที่เราเคยคิดกันไว้ นั่นก็คือการยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนไว้ให้ได้” อย่างไรก็ตาม กองกำลังรัสเซียอ่อนแรงลงมาก จากการสู้รบมานานกว่า 4 เดือน จึงน่าจะยังเป็นไปไม่ได้ที่กองทัพรัสเซียจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ปูตินวางไว้ได้เร็วๆ นี้

ในขณะที่ยูเครนแม้จะได้รับความช่วยเหลือเป็นอาวุธทันสมัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ส่งให้อย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจะยังไม่ช่วยพลิกเกมให้พวกเขากลับมาต่อกรกับรัสเซียได้ในเร็ววันนี้

เฮนส์ระบุว่า จากมุมมองหน่วยงานด้านข่าวกรอง มีความเป็นไปอย่างยิ่งที่สถานการณ์จะดุเดือดมากขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ในขณะที่กองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียจะอยู่ในจุดเสื่อมโทรมจนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะฟื้นฟูให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ พวกเขาอาจจะหันไปใช้วิธีการอื่นๆ อย่างการโจมตีทางไซเบอร์, พยายามควบคุมตลาดพลังงาน หรือแม้แต่อาจเลือกใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจัดการและประกาศอิทธิพลของตนไปทั่วโลก

ผอ.หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เสริมว่า ตอนนี้กองกำลังรัสเซียดูเหมือนจะมุ่งความสนใจไปที่การยึดครองพื้นที่ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนให้มากที่สุด และในขณะเดียวกัน ก็กำลังพยายามควบคุมดินแดนทางตอนใต้ที่สามารถยึดครองมาได้เอาไว้

“รัสเซียคิดว่า หากพวกเขาสามารถบดขยี้หนึ่งในกองกำลังที่มีความสามารถและมีอาวุธครบครันที่สุดของยูเครนที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคทางตะวันออกไว้ได้ จะทำให้กองทัพยูเครนถูกบั่นทอนความสามารถในการต่อต้านทัพรัสเซีย และเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็จะมีโอกาสในการชนะมากยิ่งขึ้น” เฮนส์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เฮนส์ยังคงมองว่า ความหวังของการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันนั้นยังคงมีอยู่ หากแต่อาจยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในตอนนี้