เปิดบทสนทนา “พี่แก้ว” พนักงานกวาด กทม. หนึ่งในแขกร่วมโต๊ะอาหารผู้ว่าฯ ชัชชาติ

เปิดบทสนทนา “พี่แก้ว” พนักงานกวาด กทม. หนึ่งในแขกร่วมโต๊ะอาหารผู้ว่าฯ ชัชชาติ

📍ล้วงลึก ‘พี่แก้ว’ หนึ่งในแขกร่วมโต๊ะอาหารผู้ว่าฯ ชัชชาติ

น.ส.กัลชนา เนตรวิจิตร ลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานทั่วไป (กวาด) หนึ่งในพนักงานทำความสะอาด กทม. ที่ได้รับเชิญไปร่วมโต๊ะทานข้าวกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ในรายการ workpointTODAY LIVE 

น.ส.กัลชนา บอกว่า ตนเองเป็นพนักงานกวาด เขตจตุจักร กทม. เดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้จะทำงานครบ 3 ปีแล้ว โดยจะตื่นตั้งแต่ 04.00 น. ไปถึงที่ทำงานไม่เกิน 05.30 น.รับผิดชอบกวาดตั้งแต่ทางเข้าโรงเรียนหอวัง จนถึงสุดถนนวิภาวดี หน้าที่คือ ต้องกวาดให้สะอาด ซึ่งถนนจุดนี้ตอนเช้าที่ไปเจอคือ เจอขยะ ใบไม้ เยอะมาก  

📍หลังช่วยนักเรียน ตกใจไม่คิดว่า ผู้ว่าฯ กทม. จะมาหา 

น.ส.กัลชนา ย้อนเล่าเหตุการณ์วันที่ช่วยเด็กนักเรียนโรงเรียนหอวังที่ถูกจี้ ว่าตอนนั้นเวลาประมาณ 5.40 น. ระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่เห็นผู้ชายคนนั้นท่าท่ามีพิรุธ กลัวว่าจะมาทำอะไรเด็กนักเรียน จึงขี่รถไปแจ้งครูที่โรงเรียน พอกลับมาอีกอีกที คนก่อเหตุวิ่งหนี ครูและนักเรียนวิ่งตาม  ส่วนตนเองทิ้งไม้กวาดกับบุ้งกี๋และขี่รถตามไป ซึ่งที่ขี่รถตามไปเพื่อจะได้ชี้เบาะแสถูกว่าเขาหนีไปทางไหน เพราะลำพังเราคงสู้เขาไม่ไหว

ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เจอแต่คนสติไม่ดีมาขอเงิน ซึ่งทุกครั้งที่ไปทำงานเราก็ต้องระวังตัวเองตลอด คอยมองซ้ายมองขวา เพราะเราก็มีลูกที่ต้องดูแล นอกจากนี้ก็ต้องระวังรถบนถนนด้วย แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่เคยเจอรถเฉี่ยวแต่ก็เกือบ ส่วนเทคนิคการระวังตัว เราจะรู้ว่ารถคันนี้น่าจะมาไว รีบขึ้นฟุตปาธ ก่อน

“หลังเกิดเหตุผู้ว่าฯ โทรศัพท์มาบอกว่าคุณแก้วผมอาจารย์ชัชชาตินะ เราก็บอกค่ะ อาจารย์ชัชชาติหรอคะ  เขาเรียกเราว่าคุณ เราก็ไม่คิดว่าระดับผู้ว่าฯ จะมาเรียกเราคุณ  เขาบอกว่าผมมาหาคุณแก้วอยู่ อยู่ตรงไหนเดี๋ยวผมไปหา  ไม่ต้องเดินมาหาผม แล้วก็ถามสารทุกข์สุกดิบเรื่องวันนั้น เราก็บอกไปว่าเรากลัว เพราะถ้าเขายังจับผู้ร้ายไม่ได้ กลัวว่าเขาจะมาดักเรา เพราะเป็นคนชี้เบาะแส เขาบอกไม่ต้องกลัว สู้ๆ แล้วเขาก็ตบไหล่เรา”

น.ส.กัลชนา กล่าวต่อว่า วันนั้น ผู้ว่าฯ มาคนเดียว ไม่ได้บอกใคร แต่มีนักข่าวตามมาช่องเดียวไม่คิดว่าผู้ว่าฯ จะมาหา ถือว่าเป็นบุญของเรา 

วันเดียวกันช่วงบ่าย ทีมงานผู้ว่าฯ เรียกตนไปพบนักข่าว มีนักข่าวปรบมือให้ ขอบคุณเรา  เรารู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจ รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ทำงานที่นี่ 

 นอกจากนี้หลังเกิดเหตุจี้นักเรียน ตนก็ไปเจออีกเหตุการณ์หนึ่ง คุณลุงจะเป็นลม ตนก็เข้าไปช่วยพยุง จากนั้นแกก็เดินต่อจนไปล้มลง ตนจึงวิ่งตามไปและขอให้คนแถวนั้นโทรหา 1669 ให้หน่อย เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาและบอกให้ช่วยหาน้ำแดงเฮลซ์บลูบอยมาให้ ตนก็ไปหามาให้ จนคุณลุงได้กินและฟื้นขึ้น 

“เราก็ดีใจที่ได้ช่วย รู้สึกภูมิใจ แม้อยู่ในชุดกวาด อยากให้คนเห็นว่าคนทำงานกวาดก็ช่วยเป็นหูเป็นตา อย่างที่ผู้ว่าฯ บอกซึ่ง ไม่ใช่แค่เรื่องทำความสะอาด  เรื่องอื่นๆ ด้วย อยากให้ทุกคนในสังคมช่วยกัน” 

น.ส.กัลชนา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นไม่นานได้รับเชิญไปร่วมโต๊ะทานอาหารกับ ผู้ว่าฯ โดยผอ.เขตเชิญมา ก็ตกใจและวันที่กินข้าว ผู้ว่าฯ เจอตนก็เรียกไปนั่งใกล้ๆ จำตนได้ ภูมิใจที่ผู้ว่าฯ ยังจำได้ ตอนนั้น ตื่นเต้น เขิน ใจเต้นผู้ว่าฯ แซวว่าผมไม่ใช่ดารานะ วันนั้นผู้ว่าฯ ไวมาก แกะน้ำแกะข้าวให้  ตนยังอายอยู่

📍แอบแฉภาพลักษณ์ผู้ว่าฯ หน้ากล้องกับหลังกล้อง

น.ส.กัลชนา กล่าวว่า วันนั้นช่วงต้นมีกล้องมาถ่ายสักพัก ผู้ว่าฯ บอกให้กล้องออกไปส่วนบรรยากาศหลังกล้องออกไปหมดแล้ว ผู้ว่าฯ ถามสารทุกข์สุกดิบทุกคนว่าครอบครัวชีวิตเป็นอย่างไร  ตนก็บอกปัญหาส่วนตัวให้ฟัง แกก็บอกว่าสู้ๆ 

น.ส.กัลชนา ยืนยันว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ หน้ากล้องกับหลังกล้องเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่หลังกล้องจะสนุกและกันเองกว่า  ผู้ว่าฯ คนนี้ติดดินมาก เป็นคนบ้านๆ พูดตรงๆ และเป็นคนกินง่ายมาก ข้าวหมูแดงเย็นแล้ว  น้ำราดเริ่มคืนตัว เรายังตักกินทีละน้อย แต่ผู้ว่าฯ เอาคลุกข้าวกินเลย  เหมือนผู้ใหญ่บ้าน ไม่มีพิธีรีตอง 

📍เปิดเรื่องคุยบนโต๊ะอาหาร 

ส่วนเรื่องที่พูดคุยบนโต๊ะอาหาร ผู้ว่าฯ จะถามเรื่องงาน ถามว่าบรรจุหรือยัง ถามเรื่องสวัสดิการ ตนจึงถามเรื่องเงินเสี่ยงภัยและโบนัส  ซึ่งเลขาผู้ว่าฯ บอกได้ดำเนินเรื่องให้แล้ว ซึ่งเรื่องเงินเสี่ยงภัยสำหรับตน มีความจำเป็นเพราะเป็นอาชีพเสี่ยง 

น.ส.กัลชนา ยังบอกอีกว่า ตอนนั้นมีพนักงานอีกคนก็เล่าทุกอย่างให้ผู้ว่ฯ ฟัง ผู้ว่าก็นั่งฟัง ไม่ได้ว่าอะไร แกปล่อยให้เล่ากันไป ส่วนปัญหาต่างๆ ของตน ไม่ค่อยได้พูดกับผู้ว่าฯ เพราะยังเขิน แต่วันนี้ถ้าจะพูดอยากจะฝากเรื่องขยะ เรื่องการทิ้งขยะ การทิ้งเศษอาหาร อยากให้แกมาดูตอนกลางคืนบ้าง ว่ามีคนทิ้งขยะเยอะ พอตอนเช้าขยะเยอะมาก มีทั้งขยะ เศษอาหาร กลิ่นฉี่คน  อยากจะสะท้อนตรงนี้ ให้ผู้ว่าฯ ฟัง

พร้อมฝากถึงคนในสังคม ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าคิดว่ามีคนงานทำความสะอาด อยาคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนมากวาด ทิ้งๆ ไปเถอะ อยากให้ทุกคนช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่  

📍พนักงาน กทม.และระบบการทำงานที่เปลี่ยนไป 

น.ส.กัลชนา  บอกว่า ตนทำงาน ที่นี่ได้เจอผู้ว่าฯ กทม. มาแล้ว 2 คน วิธีการทำงานของผู้ว่าฯ ทั้ง 2 คนต่างกันเยอะ  เช่นเรื่องการคลุกคลีกับคนงาน การเข้าถึงผู้ว่าฯ  กับผู้ว่าฯ คนนี้ เราไม่ต้องไปเข้าถึงเขา แต่เขามาเข้าถึงเราเอง

ส่วนที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติมีการไลฟ์ตลอด จนบางคนบอกว่าเป็นการสร้างภาพ นั้นไม่จริง เพราะทุกอย่างที่ทำเป็นธรรมชาติมาก อย่างวันที่ไปกินข้าว ผู้ว่าฯ ยังบอกทำไมให้คนกวาดมานั่งรอแก ที่หลังไม่ต้องให้ใครมานั่งรอแบบนี้นะ 

“ดีมาก ยอมรับให้เต็มสิบเลย “

📍1 เดือนหลังผู้ว่าฯ มาทำงาน 

น.ส.กัลชนา ยังได้เล่าย้อนไปถึงวันเลือกตั้ง บอกว่าตนเลือกเบอร์ 8 เพราะหลานเป็นคนแนะนำ บอกว่าเป็นคนติดดิน หลังผู้ว่าฯ ทำงานได้ 1 เดือน ไม่ผิดหวังเลย แกไม่ทิ้งคนงาน บางทีเราไปไหนคนอื่นเขามองเราน้อยกว่าผู้ว่าฯ อีก  บางทีเราใส่ชุดกวาดไปขึ้นรถไฟฟ้า หรือไปซื้อของคนก็หลบเราแล้ว บางทีก็มองเราเหมือนอะไร แต่ผู้ว่าฯ มาถึงมาเกาะไหล่ บอกให้เราสู้  

น.ส.กัลชนา ยังบอกอีกว่า แม้ที่ผ่านมาคนจะมองอย่างไร แต่ตนก็ภูมิใจในอาชีพนี้ เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง  บางคนมองว่ามันต่ำ แต่สำหรับเรา มองว่ามันมีค่า  ส่วนในอนาคตตนคาดหวังว่าจะได้รับการบรรจุ

ทั้งนี้ 1 เดือนหลังจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ เข้ามาทำงาน พนักงานดูแอคทีฟขึ้นเยอะ คนตั้งใจทำงานขึ้น เพราะมีผู้นำที่ดีทำให้เราอยากทำงาน อยากช่วยเหลือผู้ว่าฯ  บรรยยากาศการทำงาน กระตือรือร้น และยากมาทำงาน 

📍พนักงาน กทม. พูดอะไรลับหลังผู้ว่าฯ บ้าง 

น.ส.กัลชนา บอกว่าตอนนี้เพื่อนๆ พนักงานทุกคนพูดถึงผู้ว่าฯ คือเรื่องที่เข้าถึงคนงาน ไม่รังเกียจคนงาน จะคุยกันเยอะมากเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ว่าฯ บอกว่า ถ้ามีอะไรให้บอก และคุยกับแกได้ทุกเรื่อง

ส่วนจุดที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ต้องปรับปรุง ตอนนี้ยังไม่เจอให้คะแนนสิบเต็มสิบ