SHARE

คัดลอกแล้ว

‘นิคม’ ซัด รมว.แรงงาน ไฟเขียว บอร์ดกองทุนประกันสังคม เอาเงินไปซื้อหุ้น บริษัทพรรคพวก จากนั้น วกกลับมาซื้อหุ้น บริษัทที่ภรรยาตนเองถือหุ้น ข้องใจ เข้าข่ายปั่นหุ้น เหตุ ราคาพุ่งสวนผลประกอบการติดลบ ด้าน ‘สุชาติ’ ชี้แจงตอบโต้ พร้อมจี้ถามถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เผยตนมีร่างที่ตอนแรกฝ่ายค้านจะยื่น 10 รัฐมนตรี แต่สุดท้ายมามีชื่อตนเป็นคนที่ 11 

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานว่า ขาดความรู้ความสามารถ ในการบริหารจัดการแรงงาน ปล่อยให้แรงงานลักลอบเข้าเมือง ในช่วงโควิดระบาด เรื่องแรงงาน มีผลประโยชน์ มีขุมทรัพย์มากมาย เป็นการทำนาบนหลังคน แรงงานที่เข้ามาในประเทศไทยหลายแสนคน เท่าที่รู้ ไปสอบถาม มีการไปเก็บส่วย จ่ายให้นายหน้า ซึ่งแรงงานนอกจากจะเสียจากเมียนมา 2 หมื่นบาทแล้ว พอมาประเทศไทยยังต้องเสียอีก 1.5 หมื่นบาท ทั้งที่ครม.ไม่มีมติให้แรงงานเข้ามา แต่ก็ยังปล่อยให้มีการนำเข้ามา เมื่อแรงงานเข้ามาแล้ว ก็ไม่ได้มีการกักกัน ตรวจโรค พอนำเข้ามา ไปส่งให้บริษัทพรรคพวกของพวกท่าน โดยหนึ่งในบริษัทก็เป็นพรรคพวกของท่านอยู่ใน จ.ชลบุรี

นายนิคม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังทราบว่า มีเก็บค่าหัวแรงงานที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ 3 พันบาทต่อคน คนที่เก็บ มีการอ้างว่า เก็บให้นาย ตนก็ไม่รู้ว่านายที่ว่าคือใคร มีหลักฐานการพูดคุยทางไลน์ และหลักฐานการโอนเงิน กระทรวงแรงงานแทนที่จะมีนโยบายส่งแรงงานไปต่างประเทศ ไม่ต้องไปเก็บเงิน เพราะแรงงานเหล่านี้ ก็ไปหางาน นำเงินเข้าประเทศ แม้ท่านจะไม่ได้เก็บเอง แต่ก็ปล่อยให้เขาทำ ช่วงที่เกิดวิกฤติคนตกงาน ควรช่วยเหลือให้เขาหางานทำง่ายๆ ไม่ใช่ไปเก็บเงิน จึงได้บอกว่า ท่านขาดความรู้ ความสามารถ ปล่อยปละละเลยให้มีการเก็บส่วย ถึงแม้ท่านไม่ได้เก็บเอง แต่ก็ปล่อยให้คนของท่านไปเก็บ ผมเชื่อว่า คนๆ นั้น มีความเกี่ยวข้องกับท่าน เมื่อไปดูในรายละเอียด

ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวอีกว่า นายสุชาติ ยังอนุมัติเงินประกันสังคมไปให้ บริษัทพวกพ้องของท่านที่ชื่อ ‘สอภอ’ ซึ่งในแวดวงรู้กันดีว่า นายคนนี้ เป็นนักปั่นหุ้นและฟอกเงิน นาย สอภอ มีบริษัทลูกอีก3-4 บริษัท จากนั้นได้ทำการปั่นหุ้น สร้างความร่ำรวยขึ้นมา ต่อมานายสอภอ นำเงินมาซื้อหุ้น บริษัทอรินสิริแลนด์ (ARIN) ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อไปดูผลประกอบการบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2562 2563 2564 จนถึงไตรมาส1ของปี 2565 ผลประกอบการติดลบมาโดยตลอด แต่ที่น่าประหลาดใจ กระทั่งธ.ค.64 ราคาหุ้นเริ่มพุ่งขึ้น ทั้งที่ผลประกอบการขาดทุน ต่อมา 31มี.ค.65 บริษัทก็ยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่หุ้นพุ่งขึ้นมาถึง 138 เปอร์เซ็นต์ นายสุชาติจะบอกว่า ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะหนึ่งในกรรมการบริษัท มีภรรยานายสุชาติ ถือหุ้นอยู่ด้วย เพื่อดันหุ้น จากราคาไม่กี่สตางค์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18ก.ค. ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.70บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการติดลบมาตลอด

“ผมไม่เชื่อว่า บริษัทที่มีผลประกอบการขาดทุน ราคาหุ้นจะขึ้นขนาดนี้ เอาเงินรัฐ เงินประกันสังคม เงินลูกจ้าง ที่เก็บไว้ในยามจำเป็น หรือยามเขาตกงาน ที่ต้องอาศัยเงินประกันสังคมมาช่วยพวกเขา แต่ท่านเอาเงินเหล่านี้ไปให้พวกพ้องท่าน อย่างนี้ ซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ เป็นการเอื้อต่อพวกพ้องหรือไม่ ผมไปคัดหนังสือจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อ12ก.ค. นส.วิมลจิต อรินทมะพงษ์ เป็นภรรยานายสุชาติ และยังมีอำนาจเต็มในบริษัทอรินสิริ นายสุชาติ จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ขอเรียกร้องให้กลต.เข้ามาตรวจสอบ รัฐมนตรีกับพวกเข้าข่ายปั่นหุ้นนหรือไม่ โดยผมก็จะยื่นเรื่องให้ปปช.ตรวจสอบด้วย สวรรค์มีตา เรื่องนี้มีข้าราชการในกระทรวง เป็นคนส่งข้อมูลมาให้ จากที่อภิปราย จึงไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ควรพิจารณาตัวเอง อย่าให้พวกเราต้องโหวตเลย” นายนิคม กล่าว

จากนั้นนายสุชาติ ได้ชี้แจงว่า ตามที่มีการกล่าวหา เรื่องกองทุนประกันสังคม ตนไม่มีความเกี่ยวข้องการซื้อ ขายหุ้น การที่กองทุนประกันสังคมจะอนุมัติให้ใครล้วนผ่านการพิจารณาจากบอร์ด ที่มีตัวแทนจากหน่วยงานรัฐต่างๆ กองทุนประกันสังคม ต้องลงทุนหาเงิน เพื่อให้ผู้ประกันตน 6-7หมื่นล้านบาท ตนไม่ใช่นักเล่นหุ้น เชื่อว่า คงไม่มีใครคิดทำอะไรผิดกฎหมาย ตนปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีพ.ศ.2543 ตามมาตรา 4 ที่ให้รัฐมนตรีถือหุ้นได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังยอมรับว่า ก่อนมาเล่นการเมืองได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จริง ไม่ได้ค้าแป้ง เมื่อได้เป็นรัฐมนตรี ได้ชี้แจงทรัพย์สินตั้งแต่ 5 ส.ค. 63 ภายใน 8 วัน คือวันที่ 13 ส.ค. ชี้แจงก่อนเวลา ส่วนหุ้นจะขึ้นหรือลง ตนไม่ทราบ การจะอนุมัติเป็นเรื่องของบอร์ดกองทุนประกันสังคม และที่กล่าวหา มีการเอื้อบริษัทใหญ่ให้บริษัทแห่งหนึ่งในชลบุรี ได้ถามอธิบดีกรมจัดหางานว่า บริษัทดังกล่าว รับแรงงานต่างด้าวมา 182 คน ไม่มีการเก็บส่วย ไม่มีการเก็บหัวคิว และเรื่องการส่งแรงงานไปต่างประเทศ ก็เป็นไปตามระเบียบ การส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ ที่แต่ละประเทศมีค่าใช้จ่าย รายละเอียดแตกต่างกัน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า