SHARE

คัดลอกแล้ว

ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายๆ องค์กรต้องทำงานทางระยะไกล หรือทำงานจากที่บ้าน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระดับโลก เพราะบางองค์กร ถึงขั้นเปลี่ยนคำสั่งให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานระยะไกลได้อย่างถาวร

นอกจากรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป อีกหนึ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนไปก็คือ ‘เพื่อนร่วมงาน’ ถึงแม้พนักงานออฟฟิศในอดีตอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากก็ตาม ก็แค่รูปแบบการสื่อสารที่เปลี่ยนไป

แล้วเด็กจบใหม่ที่บริษัทให้ทำงานระยะไกลหล่ะ? พวกเขาจะเข้าหา ทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานคนแรกยังไง? แล้วการหาเพื่อนร่วมงานคนแรกเป็นเรื่องที่ยากมั้ย? 

TODAY Bizview หยิบยกบทความจาก The New York Times ที่ได้รีวิวประสบการณ์การมีเพื่อนร่วมงานคนแรกไว้ที่นี่

[ กว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานคนแรก ]

สิ่งที่ Lisa Degliantoni นักสนับสนุนศิลปะชุมชน เรียนรู้จากเพื่อนสนิททั้งสองที่เธอพบเจอจากงานตีพิมพ์ในนิวยอร์ก เมื่อตอนอายุ 22 ปี มีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น:

– วิธีรับคำติชมจากเจ้านายโดยไม่ประนีประนอมกับไอเดียของตัวเอง

– วิธีมีความสุขในงานสังสรรค์วันหยุดของออฟฟิศโดยไม่ดื่มจนเมาเกินไป

– เมื่อเธอได้เจอกับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่จะสามารถแต่งงานได้

ตอนนี้ Degliantoni ในวัย 50 ปี รู้สึกว่าชีวิตการทำงาน ครอบครัว และการเป็นตัวของตัวเอง ส่วนหนึ่งมาจากเพื่อนร่วมงานทั้งสองอย่าง Ginny Cahill (61 ปี) และ Molly Miller (56 ปี)

เธอรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ที่ทำให้เธอรู้สึกสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานคนแรกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสังสรรค์จนดึกดื่น การลากเพื่อนร่วมงานจากโต๊ะของเขาเพื่อไปนินทาคนอื่นในห้องน้ำ หรือจะเป็นความอ่อนโยนของเพื่อนร่วมงานที่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติเมื่อมาทำงานในตอนเช้า

เธอพบว่าเพื่อนร่วมงานคนแรกเปรียบเสมือนทั้ง ‘กัลยาณมิตร’ และ ‘นางฟ้าอุปถัมภ์’

แต่ตอนนี้ มิตรภาพในช่วงเริ่มต้นของการทำงานกำลังจะสูญพันธุ์ไป โดยเฉพาะสำหรับ First Jobber ที่ยังไม่ได้กลับมาทำงานในออฟฟิศอย่างเต็มตัว แต่เป็นชีวิตการทำงานที่คุยผ่านวิดีโอคอล บางคนยังไม่เคยเจอเพื่อนร่วมงานตัวเป็นๆ เลยด้วยซ้ำ 

[ รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป แลกกับความเหงาที่เข้ามา ]

อัตราการเข้าไปทำงานในออฟฟิศยังต่ำกว่า 50% ในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้นายจ้างบางบริษัทพยายามที่จะชดเชยช่วงเวลาที่หายจากการทำงานที่บ้านแล้วก็ตาม นอกจากนี้ อาชีพบางตำแหน่งกว่า 3 ล้านตำแหน่ง เปลี่ยนรูปแบบเป็นการทำงานระยะไกลอย่างถาวรเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา

ทำให้ผู้จัดการบางบริษัทวางแผนทำกิจกรรมเสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมพูดคุยเบ็ดเตล็ดเสมือนจริง หรือชั่วโมงค็อกเทลเสมือนจริง ทั้งในและนอกสถานที่

แต่สำหรับหลายๆ คน การพูดคุยผ่านวิดีโอคอลก็ยังรู้สึก ‘เหงาอยู่ดี’

Marin Callaway (26 ปี) เริ่มทำงานปี 2018 ในศูนย์ทนายความพิทักษ์สิทธิ อาชีพของเธอเกี่ยวพันกับมิตรภาพจากเพื่อนร่วมงาน เธอมักจะเห็นเพื่อนร่วมงานร้องไห้เมื่อลูกค้าแพ้คดีความ เธอเองก็แบ่งปันความเศร้าโศกกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อเธอสูญเสียญาติเช่นกัน โดยพวกเขารู้เสมอว่าสิ่งที่ควรพูดคืออะไร

ตอนนี้ Callaway กำลังฝึกงานด้านกฎหมายในสำนักงานลอสแองเจลิส ด้วยบรรยากาศที่ว่างเปล่า ซึ่งเขาเองยังคงเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่เขาก็รู้สึกว่าเด็กจบใหม่ที่ยังไม่เคยทำงานเต็มรูปแบบในออฟฟิศกำลัง ‘พลาด’ อะไรไปหลายอย่าง

[ มิตรภาพที่หายไป เมื่อ Zoom มาแทนที่ ]

เมื่อปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ Abe Baker-Butler จัดกิจกรรมพักดื่มกาแฟผ่าน Zoom กับเพื่อนร่วมงาน เขามักกังวลเรื่อง ‘Abilene Paradox’ หรือ​​สถานการณ์การตัดสินใจแบบกลุ่มที่ทุกคนจะเห็นด้วยไปในทางเดียวกัน แต่เมื่อถามแยกทีละคน พบว่าแต่ละคนไม่ได้ชอบหรือเห็นด้วย

จนกระทั่ง 9 เดือนผ่านไป เขาสามารถเข้าไปในสำนักงานขององค์กร และรู้ว่าเขาพลาดอะไรไป

ในปี 1993 บริษัท Gallup ได้เผยแพร่องค์ประกอบ 12 ประการที่ที่ทำงานต้องมี ซึ่ง Jim Harter หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Gallup เผยถึงผลทดสอบว่า “หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกประหลาดใจ คือพนักงานควรที่จะยืนยันได้ว่า ฉันมีเพื่อนที่ดีที่สุดในที่ทำงาน” 

ซึ่ง 2 ใน 10 คนอเมริกัน มักจะตอบว่า ‘มี’ อย่างมั่นใจ และการทำเช่นนั้นอาจหมายถึงความพึงพอใจในงานที่สูงขึ้น 7 เท่า และคอร์ติซอลน้อยลงในช่วงเวลาที่มีความเครียด

ผู้บริหารที่ทุ่มเทพลังงานเพื่อส่งเสริมมิตรภาพ มักจะพูดถึงมิตรภาพในที่ทำงาน เป็นประโยชน์ต่อผลิตภาพอย่างไร คนที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานก็จะมีส่วนร่วมกับงานมากขึ้น องค์กรของพวกเขาก็จะประสบอุบัติเหตุน้อยลง ทำให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้น และผลกำไรสูงขึ้นตามมา 

พูดง่ายๆ คือ มิตรภาพในที่ทำงานส่งผลดีสำหรับธุรกิจ

นอกจากนี้ Gallup พบว่าเมื่อเดือนมีนาคม 2020 สำนักงานหลายแห่งถูกปิดตัวลงไป ทำให้โอกาสในการสร้างเพื่อนหายไปเช่นกัน ทำให้เปอร์เซ็นต์ของพนักงานไฮบริดที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานลดลงจาก 22% ในปี 2019 เป็น 18% ในปีนี้

หลายคนได้ลองสานสัมพันธ์ระยะไกลในรูปแบบที่รุนแรง อย่าง Andrew Pauly (32 ปี) ที่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้เสมือนจริงกับเพื่อนร่วมทีมของเขา ซึ่งพวกเขาทั้งหมดได้ดื่มเบียร์ และแลกเปลี่ยนการตีความของภาพยนตร์เรื่องนี้ 

Pauly บอกว่า “ทุกอย่างดูเหมือนของจริง รสชาติเหมือนของจริง แต่สมองของเรารู้ว่ามันไม่ใช่ของจริง”

[ ‘มิตรภาพ’ เปรียบเสมือน ‘กระจกเงา’ ]

Mollie West Duffy และ Liz Fosslien นักเขียนหนังสือชื่อดัง เขียนถึงประเภทของเพื่อนในที่ทำงานหลายรูปแบบ มีทั้งเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ทุกอย่าง เพื่อนที่มีแรงบันดาลใจในการทำงานมาก หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่มีความคลั่งไคล้ในการแข่งขัน แต่ก็ยังผลักดันความสำเร็จของคุณในเวลาเดียวกัน 

อย่างความสัมพันธ์ของนักเขียนเองก็เกิดจากเพื่อนที่มีร่วมกัน และพอรู้ว่าทั้งสองมีความชอบในการเขียนและวาดภาพ ทำให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สิ่งที่เห็นได้จริงในเพื่อนทุกประเภท คือการเติบโตที่เพื่อนร่วมงานสามารถสนับสนุนได้ ถึงแม้เพื่อนสมัยมัธยมและมหาวิทยาลัยจะเห็นกันผ่านงานปาร์ตี้ ความบาดหมางในครอบครัว การเลิกรา และการก้าวเข้าสู่วัยชรา 

แต่เพื่อนที่ทำงานเห็นกันผ่านโลกแห่งความคิด และพวกเขาสามารถหาได้ง่ายกว่าในช่วงทำงานเริ่มแรก

ซึ่งในทางกลับกัน การไม่มีเพื่อนในที่ทำงานอาจส่งผลให้เกิด ‘ความเหงา’

Marisa G. Franco (31 ปี) นักจิตวิทยาและนักเขียนหนังสือ ทำงานแรกที่มหาวิทยาลัยเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ในฐานะผู้ช่วยศาสตราจารย์คนผิวสีเพียงคนเดียวในคณะ เธอตั้งใจว่าจะไม่ตีสนิทกับเพื่อนร่วมงาน และจะไม่ต้องการเปิดใจกับเพื่อนร่วมงานเพื่อเสี่ยงกับการถูกตัดสิน

แต่ในบ่ายวันหนึ่ง เธอตัดสินใจทำแบบทดสอบ U.C.L.A. Loneiness Scale ซึ่งวัดความรู้สึกโดดเดี่ยว เธอจึงตระหนักว่า ถึงแม้เธอจะมีเพื่อนร่วมงานอยู่รอบตัวเธอ แต่เธอก็รู้สึกโดดเดี่ยวมาก เพราะพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยนอกจากงานของเธอ

เมื่อ Dr. Franco เริ่มงานใหม่ในปี 2019 เธอจึงตัดสินใจเริ่มเปิดเผยเกี่ยวกับตัวเองให้มากขึ้นกับคนรอบข้าง เธอพูดถึงแผนฤดูร้อนและวันหยุดพักผ่อน เธอเล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอเคยประสบในที่ทำงาน เช่น การถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพื่อนร่วมงานผิวดำ

สำหรับ Dr. Franco การสร้างมิตรภาพในที่ทำงานช่วยให้เธอเปลี่ยนแปลงวิธีที่เธอเห็นตัวเอง และสรุปว่า ‘เพื่อนก็สะท้อนตัวตนของเรา ให้เราเห็นอีกที’

[ สานสัมพันธ์ผ่านการทำงาน ]

Amos Tversky และ Daniel Kahneman นักจิตวิทยาชื่อดัง มีงานวิจัยที่เผยให้เห็นว่านอกจากการทำงานของสมองแล้ว จิตใจของคนยังทำงานผ่านหัวใจด้วย 

Micheal Lewis นักข่าวคนหนึ่งสังเกตว่า ในเวลาทำงาน Tversky และ Kahneman มักหัวเราะเยาะกัน  ช่วยเติมประโยคให้กันเมื่อเขียนบทความ และใช้เครื่องพิมพ์ดีดร่วมกัน ถึงขั้นว่าเมื่อพวกเขาทำงานร่วมกันในบทความแรก พวกเขาตัดสินใจไม่ได้ว่าใครควรเป็นหัวหน้าผู้เขียน พวกเขาจึงโยนเหรียญเพื่อตัดสินใจ

Dr.Kahneman บอกว่า “เราเข้าใจกันเร็วกว่าที่เราเข้าใจตัวเอง มันยังคงทำให้ฉันขนลุก” 

ส่วน Lewis บอกว่า “สิ่งที่ทำให้มิตรภาพในการทำงานร่วมกันไม่เหมือนใคร คือการเข้าไปพัวพันกับความทะเยอทะยานส่วนตัว และการสร้างสรรค์บางสิ่งร่วมกัน”

ประสบการณ์แบบนี้ มักเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมงานได้มาเจอกันตัวเป็นๆ แต่เมื่อต้องทำงานระยะไกล หลายคนรู้สึกสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกจำกัดอยู่แค่ในแล็ปท็อปของพวกเขา 

อย่าง Abigail Jacob (21 ปี) นักศึกษาที่กำลังฝึกงานอยู่ในสำนักงานในแมนฮัตตันตอนล่าง เธอสงสัยว่าสำนักงานที่มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจะเป็นอย่างไร เพราะทุกวันนี้ บางครั้งเธอยังโทรวิดีโอคอลกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานจากที่บ้านอยู่เลย

Degliantoni ก็สงสัยว่าตัวเขาเองในตอนที่อายุน้อยกว่านี้จะเป็นอย่างไร ถ้าเธอไม่ได้มาทำงานในออฟฟิศในเช้าวันแรกของการทำงาน 

ย้อนไปเมื่อปี 1995 ในเช้าวันนั้น เธอนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ และได้ยินผู้หญิงสองคนพูดถึงบาสเกตบอลเธอขัดจังหวะพวกเขา และรู้สึกว่า ‘เขากำลังพูดถึงอะไร? เกมบาสเก็ตบอลอะไร?’ ซึ่งเธอสามารถบอกได้ว่าพวกเขาคงรู้สึกว่า ‘เด็กฝึกงานที่น่ารำคาญคนนี้คือใคร?’

ซึ่งผู้หญิงสองคนนั้น คือ Cahill และ Miller เพื่อนที่ดีที่สุดของ Degliantoni ในระยะเวลา 25 ปีต่อมา เพื่อนที่คอยช่วยแนะ ทำให้เขาทำงานในสำนักงานหารพิมพ์ 

บางครั้ง Degliantoni รู้สึกอยากขอบคุณพระเจ้าที่เธอโผล่หัวไปที่ห้องเล็กๆ นั้น ได้เจอกับเพื่อนทั้งสองของเธอ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนั้น ก็คงไม่สนุกเท่าตอนนี้

Degliantoni ทิ้งท้ายว่า “วัฒนธรรมออฟฟิศเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตวัยทำงาน เพราะคุณสามารถเรียนรู้ได้ว่าคุณอยากเป็นใคร”

[ ถึงเวลาที่ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ]

สำหรับหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มทำงาน การสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานในช่วงแรก จะสามารถกำหนดตัวตน และทิศทางชีวิตของเราได้ แต่ในปัจจุบันคงเป็นเรื่องที่ยากขึ้น เพราะการสื่อสารผ่าน Zoom ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนการได้เจอคนตัวจริง

อย่างที่ไทยเอง หลายๆ องค์กรก็หันมาทำงานที่บ้านมา 2 ปีกว่า ตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 จนถึงตอนนี้ หลายคนไม่เคยเจอเพื่อนร่วมงานเลย หรือแม้แต่ไม่มีโอกาสที่จะร่ำลาเพื่อนร่วมงานเมื่อเปลี่ยนสายงานก็ตาม  

นักศึกษาที่เรียนจบตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบที่คล้ายกัน บางคนไม่มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่องค์กรเลย และไม่สามารถปรับตัวได้เมื่อตนเองกลายเป็น First Jobber ที่ได้เข้าไปทำงานในองค์กรแล้ว หรือนักศึกษาจบใหม่บางคนได้เจอเพื่อนร่วมชั้นครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ถึงแม้บางคนอาจจะชอบการทำงานระยะไกล เพราะสามารถจัดแจงชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตื่นแต่เช้า รีบออกจากบ้านเพื่อฝ่ารถติด แต่ในอีกมุมหนึ่ง การทำงานระยะไกลอาจส่งผลเรื่องมิตรภาพ การเข้าสังคมหรือไม่ โดยเฉพาะกับ First Jobber ในยุคนี้

ความรู้สึกเหงาและอึดอัดที่ต้องคุยผ่านหน้าจอเท่านั้น อาจจะทำให้ First Jobber ต้องปรับตัวให้ได้ไม่ว่าภายใต้เงื่อนไขไหนก็ตาม หรืออาจจะต้องหาหนทางอื่นๆ ที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงานด้วยตัวเอง 

หรือนี่จะกลายเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ในยุคนี้ตลอดไปแล้ว?

ที่มา : 

https://www.nytimes.com/2022/07/14/business/work-friends.html

https://www.careervisaassessment.com/abilene-paradox/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า