SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ส.ส.มนพร’ ซัด ‘พล.อ.ประวิตร’ แก้ยาเสพติดเหลว แฉนายตำรวจตัวย่อ ‘พ.’ อมของหลวง ขณะที่ รองนายกฯ โต้ไม่เป็นความจริง พร้อมท้าไปร่วมจับพร้อมเจ้าหน้าที่ 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นวันที่ 2 ดุเดือดขึ้น โดยช่วงหนึ่ง นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่า ตั้งแต่และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงกระทั้งปี 2565 เป็นระยะเวลา 8 ปี คนไทยอยู่กับความยากลำบาก ความเดือดร้อนของประชาชนถูกขายทุกย่อมหญ้า ความยากจน ความเหลื่อมล้ำพุ่งสูงขึ้น จากการรุกคืบของกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ ตนจะอภิปรายถึงความล้มเหลวเหลวในการปราบปรามยาเสพติด เพราะเป็นปัญหาที่ไม่คิดจะแก้ไขและมองไม่เห็น ยิ่งอยู่นานยาเสพติดยิ่งเยอะขึ้น ราคาซื้อขายถูกลง ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อไอศกรีม

นางมนพร กล่าวว่า แล้วไหนคือผลงานการปราบปรามยาเสพติดที่คุยหนักหนาว่า ระดับ 3 ป. เท่านั้นจะเอาอยู่ วันนี้ท่านปล่อยปละละเลยทำความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างไม่น่าให้อภัย ซึ่งคำแถลงนโยบายของนายกฯ เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานการณ์โควิดนี่สิ่งเดียวที่เป็นรูปธรรม แต่อย่าให้พล.อ.ประวิตร ชี้แจงว่า ไม่รู้ ไม่รู้ เพราะคนไทยทั้งประเทศไม่ได้กินแกลบ ปกติตนไม่ได้สนใจเรื่องทหาร หรือ 3 ป. แต่ 3 ป. ที่ประกอบไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้บริหารประเทศตั้งแต่ยุคคสช.จนถึงทุกวันนี้ ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ทางการเมืองและมีการปฏิวัติถึง 13 ครั้ง

“ท่านคือ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ วันนี้ท่านเดินย้อนศรวิวัฒนาการสังคมประชาธิปไตย ท่านมีส่วนสำคัญที่มีการปฏิวัติรัฐประหารหลายครั้ง บางท่านมีส่วนสลายคนเสื้อแดง พวกท่านมีตำแหน่งลอยหน้าลอยตาในสังคม ต่อให้กฎหมายเอาผิดอะไรไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ท่านเป็นคนมีสุขภาพไม่แข็งแรง ไปไหนก็ต้องมีคนจูงไป ท่านเป็นคนที่มีศักดิ์ศรี เป็นถึงหัวหน้าพรรคใหญ่ เป็นแกนนำในการแต่งตั้งรัฐบาล มียศเป็นถึงพล.อ.แต่ยังปกป้องผู้กองไม่ได้เลย แล้วท่านจะบริหารประเทศอย่างไร” นางมนพร กล่าว

นางมนพร กล่าวต่อว่า ตนทราบมาจากตำรวจชั้นผู้น้อยว่ามีนายตำรวจชื่อ พ.พาน เป็นคนเดินสายเก็บเงินทอนยาเสพติด รวมถึงผลประโยชน์จากการยึดทรัพย์เอื้อให้พวกพ้อง และสินบนนำจับที่ไม่ถึงผู้ปฏิบัติงานจริง หรือเรียกว่าอมของหลวง นี่คือหนึ่งในกระบวนการปราบปรามยาเสพติดของพล.อ.ประวิตร ในยุคของ 3 ป. อีกทั้งแม้ว่าผู้จับยาเสพติดแม้จะมีผลงานดีแค่ไหน สุดท้ายไม่ได้ขั้นความดี เพราะต้องถามก่อนว่าเป็นสายไหน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และลูกน้องที่รายงายว่าได้ครับพี่ดีครับผมเหมาะสมครับนายลุงป้อมลุงตู่เก่งที่สุดใน 3 โลก ถามจริงๆ ว่า ท่านปล่อยให้เยาวชนเผชิญยาเสพติด และอาจถูกคนคลั่งยาฆ่าตายสักวัน

“ขอให้จดจำรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคร่วมเข่นฆ่าอนาคตลูกหลานคนไทย ทำลายสังคมครอบครัวที่อบอุ่น ทำลายระบบรัฐสภ่าในระบบอประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยว ตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน ส.ส.ถูกประณามด้วยพฤติกรรมจากสมาชิกเอง ทำลายอุดมการณ์ประชาชนที่เลือกมาและพรรคในสังกัด เราร่วมกันพิพากษาพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นนั่งร้านให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ในวันเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่าแม้มือในสภาฯไม่สู้ แต่ศรัทธาประชาชนจะตอบแทบให้พวกเราซีกฝ่ายค้าน ท่านรู้เหตุเป็นใจทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ไม่ชอบ ไม่คำนึงความเสียหายประชาชน ยาเสพติดเลวร้ายเกินแก้ไข การเมืองทรุดต่ำระยำใจ ปล่อยเปรต ประวิตร ประยุทธ์ไป ไทยเจริญ พรรคเล็กทั้งหลายท่านไม่ต้องสนใจว่า ได้กล้วยกี่หวี ตอนนี้ดิฉันมีกล้วยอยู่แล้ว ใครต้องการกล้วยให้มารับที่ดิฉัน” นางมนพร กล่าว พร้อมชูกล้วยเป็นหวีขึ้นมากลางห้องประชุมสภา

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ลุกขึ้นยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหายาเสพติดตลอด หวังฝ่ายค้านให้ความร่วมเจ้าหน้าที่จับกุมขบวนการค้ายาด้วย อย่าเอาแต่พูดให้ด้อยกำลังใจ ยืนยันไม่มีปัญหาผู้บังคับบัญชาอมรางวัลนำจับของลูกน้อง

พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้างใจของ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เพื่อไทย ในประเด็นปัญหายาเสพติด ว่ารัฐบาลได้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นมหัตภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายสถาบันครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมอย่างมาก โดยรัฐบาลได้เสนอร่างพ.ร.บ.โดยให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญายาเสพติด พ.ศ. 2564 เน้นการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ โดยถือว่าผู้เสพ และผู้ติดเป็นผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ได้ทำอนุบัญญัติหรือกฎหมายลูกยังไม่แล้วเสร็จ โดยตนได้เร่งรัดให้ผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปพรางก่อน แต่เนื่องจากว่าปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ไม่สามารถรอได้ จึงได้บูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมควบคู่กันไป เป็นการบำบัดรักษาและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย ตั้งแต่การใช้ระบบสายด่วน 167 ศูนย์ดำรงธรรม รวมทั้งภาคีเครือข่าย และรับส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์คัดกรอง สถาบันบำบัดยาเสพติด กรมการแพทย์ และสถานพยาบาล เพื่อเข้าสู่การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจเพื่อให้ฟื้นฟูสภาพทางสังคมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อประกอบอาชีพและคืนคนดีให้กับสังคม

“เรื่องยาเสพติดนั้นเราได้ป้องกันและปราบปราม โดยมีการจับกุมอยู่ทุกวัน ปัญหาตามแนวชายแดนไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือทหารเรือ ก็มีการจับกุมทุกวัน จะเห็นจากการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมได้ดำเนินการมา ตนฟังท่านส.ส.ที่พูดดูเหมือนจะเคยไปจับกุมกับเจ้าหน้าที่เลย ผมขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะจับกุมให้ได้มากขึ้นด้วย ไม่ใช่มาพูดอย่างนั้นอย่างนี้ คนทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาของผมที่อยู่ตามชายแดนเขาจะเสียกำลังใจ”

สำหรับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคงในการจับกุมเพื่อให้สามารถจับกุมได้จำนวนมากๆ และเราก็จับกุมได้ และมีการคืนความดีให้กับผู้จับกุมทุกคน ไม่มีการไปอมตามที่กล่าวหา

“ผู้บังคับบัญชาไม่เคยคิดจะอมรายได้ของผู้จับกุมได้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือตำรวจ หากสมมุติว่ามีการอมกัน เราก็จะต้องตัดสินกันอย่างเฉียบขาด ปัจจุบันสามารถทลายเครือข่ายยาเสพติดได้จำนวนมาก ซึ่งเห็นได้จากทีวีทุกวัน ขอให้รับทราบว่าตลอด8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยนิ่งเฉย เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ยาเสพติดลดน้อยลงและหมดไป และพยายามที่จะช่วยเลหือผู้ป่วยให้สามารถกลับสู่สังคมได้”พล.อ.ประวิตรกล่าวทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า