รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียประกาศเป้าหมายปฏิบัติการทหารในยูเครน ไม่ใช่แค่ดินแดนตะวันออกอีกต่อไป

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียลั่นพร้อมขยายเป้าหมายสงครามไปไกลกว่าภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน หากตะวันตกยังไม่หยุดจัดหาอาวุธหนักส่งให้ยูเครน

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA Novosti ว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนไม่ได้มีเป้าหมายแค่พื้นที่ในภาคตะวันออกของยูเครนอีกต่อไป หลังจากที่ชาติตะวันตกร่วมกันส่งอาวุธหนักช่วยเหลือยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง รัสเซียจำเป็นต้องผลักดันกองกำลังของยูเครนออกไปไกลจากพื้นที่แนวหน้า เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง 

“ตอนนี้เป้าหมายทางภูมิศาสตร์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่ใช่แค่ดินแดนโดเนตสค์และลูฮานสก์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปริเซีย ตลอดจนดินแดนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง” นายลาฟรอฟกล่าว

ทั้งนี้ รัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้ารุกรานยูเครนตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นภารกิจปฏิบัติการทางทหารพิเศษเพื่อปกป้องประชาชนเชื้อสายรัสเซียซึ่งอยู่ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ในช่วงแรกของการบุกยูเครน กองทัพรัสเซียได้พยายามยึดครองกรุงเคียฟแต่ต้องเผชิญกับความล้มเหลว จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการเข้ายึดครองพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศแทน โดยอ้างว่าวัตถุประสงค์หลักในขณะนี้คือการปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสให้เป็นรัฐอิสระอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับสื่อรัสเซีย นายลาฟรอฟระบุว่า สาเหตุที่ทำให้รัสเซียต้องขยายเป้าหมายของปฏิบัติการนี้ออกไปจากภูมิภาคดอนบาส เป็นเพราะถูกบีบบังคับจากชาติตะวันตกที่พากันส่งอาวุธหนักให้กับยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง

“เราไม่สามารถอนุญาตให้พื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเซเลนสกี ครอบครองอาวุธที่จะเป็นภัยคุกคามต่อดินแดนของเราได้” นายลาฟรอฟระบุ

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังประกาศด้วยว่า หากชาติแสดงความโกรธเคืองโดยไร้อำนาจออกมา หรือต้องการทำให้สถานการณ์แย่ลง ด้วยการส่งอาวุธที่มีวิถีทำลายล้างพิสัยไกล อย่างระบบจรวดหลายลำกล้อง HIMARS ของสหรัฐฯ ให้ยูเครนเพิ่มขึ้นอีก รัสเซียก็จะขยายเป้าหมายทางภูมิศาสตร์ออกไปอีกเรื่อยๆ จากเป้าหมายที่มีอยู่ในขณะนี้