เพื่อไทยอภิปราย ‘ประยุทธ์’ บริหารงาน 8 ปี ครอบงำกระบวนการประชาธิปไตย

เพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘ประยุทธ์’ ระบุปล่อยปละละเลยในการทำหน้าที่ ชี้ตลอด 8 ปี บริหารงานทำลายประชาธิปไตย ครอบงำรัฐสภา เกิดงูเห่ากินกล้วย ด้าน ‘คารม’ รับจะย้ายพรรค ปัดไม่ได้กินกล้วย แต่ไปเพราะได้ทำงานที่มากกว่าพรรคเดิม

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีทหารพม่าบินล้ำน่านฟ้าไทย เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมปฏิบัติการดังกล่าวมีความล่าช้า จึงอยากถามว่าใครสั่งหน่วงเวลา เรื่องดังกล่าวถือว่าผิดรัฐธรรมนูญหมวด 3 มาตรา 119 และมาตรา 157 หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งนี้ยังพบว่ามีการล้ำน่านฟ้าไทยประมาณ 230 ครั้ง แต่ไม่มีปฏิบัติการอะไรที่จะป้องกัน จึงอยากถามว่านี่เป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ไม่ได้โทษกองทัพอากาศหรือผู้ปฏิบัติงาน แต่โทษนายกรัฐมนตรีว่าทำไมนิ่งเฉย

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์​ปล่อนปละละเลยทำให้ประเทศไปสู่วิกฤติประชาธิปไตย ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พบว่าไม่ได้รับการยอมรับการบริหารงานจากประชาชน และยังพบว่ายังทำลายประชาธิปไตย โดยการทำลายกติกา เพื่อสืบทอดอำนาจ มีการครอบงำรัฐสภา เกิดงูเห่ากินกล้วย รวมทั้งลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน จับกุมตัวบุคคลไปปรับทัศนคติ บางคนต้องลี้ภัยในต่างประเทศ ต่อมารัฐธรรมนูญปี 60 เป็นรัฐธรรมนูญบิดเบี้ยว นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไม่มีสิทธิที่จะมาบอกว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย 

นอกจากนี้ประชาธิปไตยแบบงูเห่ากินกล้วย เพื่อให้ผ่านกฎหมายและรักษาเก้าอี้ ยกมือให้ผ่านการอภิปาย เรื่องแจกกล้วยและการเมืองแบบเก่ามีอยู่ เริ่มหายไปแล้ว แต่ขณะนี้ได้กลับมาอีกครั้ง

ทำให้นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วง โดยระบุว่าเรื่องงูเห่า ไม่มีใครเข้าใจดีเท่าตน แต่จะบอกว่าครั้งหน้าจะไปอยู่พรรคภูมิใจไทย แต่การย้ายพรรคไม่ได้มีเหตุผลกล่าวหาว่าคนจะย้ายพรรคจะไปรับอะไร หรือรับกล้วย แต่การย้ายพรรคจะได้ไปทำงานการเมืองที่มีโอกาสได้ทำมากกว่าพรรคเดิมที่อยู่ จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วินิจฉัยว่า ผู้อภิปรายไม่ได้เอ่ยชื่อใคร เป็นการเปรียบเปรยเท่านั้น 

จากนั้น น.ส.ธีรรัตน์​ อภิปรายต่อว่า นายกรัฐมนตรีทำตามนโยบายพรรคร่วม เพราะจะได้อยู่ในอำนาจต่อ นี่เป็นประชาธิปไตยในแบบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ครอบงำรัฐสภา พร้อมกันนี้ยังพูดถึงการจัดอันดับประชาธิปไตยจากองค์กรต่างๆ ว่าอันดับประเทศไทยถูกลดอันดับลงเรื่อยๆ ทั้งนี้เห็นว่าผ่านมา 8 ปี หมดเวลาที่จะอยู่ในอำนาจ ขอเรียกร้องเพื่อนๆ ในสภา หากหัวใจยังมีเพื่อประชาชน โปรยลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ได้มากที่สุด 

ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การอภิปรายช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีดูแจ่มใส เหมือนได้ไปต่อ แต่เมื่อวานบรรยากาศในที่ประชุม เห็นพี่ใหญ่ชี้ไปที่น้องเล็กว่าเป็นคนปฏิวัติ เพราะกลัวจะปฏิวัติต่อเหมือนพอใจ เพราะวิกฤตการเมืองปวดหัวทั้งชีวิต มาเป็นนายกรัฐมนตรีในยุคที่มี ส.ส. ทั้งนี้จะติดตามว่าการอภิปรายครั้งนี้ จะมีเรื่องงูเห่าหรือแจกกล้วยอีกหรือไม่  ยืนยันว่าการอภิปรายวันนี้ตามหลักการ ไม่ได้โกรธอะไรกับนายกรัฐมนตรีเป็นการส่วนตัว