SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายคนเห็นการโปรโมทของ Prime Video ตามรถไฟฟ้า และอยากรู้ว่า สตรีมมิ่งในเครือยักษ์ใหญ่ Amazon จะเข้ามาทำอะไรในไทยรึเปล่า

วันนี้เฉลยแล้ว Prime Video จะเพิ่มการลงทุนในไทย หลังเปิดให้ใช้งานในไทยเงียบๆ มา 2 ปี

ซึ่งคราวนี้ Prime Video จะมาร่วมงานกับคนไทย ปั้นคอนเทนต์ออริจินัล เริ่มที่ Comedy Island: Thailand, Thirteen Lives และจะมีตามมาอีกหลายเรื่อง รวมถึงปรับฟังก์ชั่นภาษาไทยบน  Prime Video ให้ดูเนื้อหาฉบับภาษาไทยมากกว่าเดิม

โดยไทยเป็นหนึ่งในสามประเทศอาเซียน (อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ) ที่ Prime Video เลือกเพิ่มการลงทุน 

แต่คำถามคือ ยุคทองสตรีมมิ่งน่าจะเลยจุดพีคมาแล้วรึเปล่า สังเกตได้จากสถานการณ์ของ Netflix ในเวลานี้ และทำไม Prime Video ถึงเลือกจะมาลงทุนในไทยตอนนี้ 

TODAY Bizview มีโอกาสพูดคุยสั้นๆ กับ จอช แมคไอเวอร์ Director, International Expansion และ เอริก้า นอร์ธ Head of Asia-Pacific Originals จาก Amazon Studios ถึงเหตุผลการลงทุน มองเห็นอะไรในไทย และความขาลงของสตรีมมิ่งจะส่งผลต่อ Prime Video ยังไงบ้าง

[ ตั้งเป้าเป็นเป็นสตรีมมิ่งระดับโลก ที่มี local content ที่ดีที่สุด ]

ทั้งจอชและเอริก้า มองว่าคนไทยมีความครีเอทีฟสูงมากในเรื่องการทำหนัง การเล่าเรื่อง และมีทาเลนต์หน้ากล้อง หลังกล้องจำนวนมาก ยังมีพื้นที่อีกเยอะที่คอนเทนต์ไทยจะโตได้ Prime Video ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ตั้งเป้าเป็นเป็นสตรีมมิ่งระดับโลก ที่มี local content ที่ดีที่สุด 

คุณเอริก้า ยกตัวอย่างคนไทยเก่งๆ ที่ร่วมทำโปรเจกต์ของ Prime Video ด้วยกันเช่น  อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม,  โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล (ผู้กำกับหนังร่างทรง)  ซึ่งอนาคต ตั้งเป้าอยากเป็นฮับครีเอทีฟในประเทศไทย เป็นจุดที่ทำให้ Prime Video ต่างจากคู่แข่งรายอื่น

ซึ่งตัวคุณเอริก้าเอง ถือเป็นผู้คร่ำหวอดในสตรีมมิ่งมาก่อน เคยทำเกี่ยวกับการปั้นคอนเทนต์โลคอลให้ Netflix มาแล้ว 

การลุย local content นั้น Prime Video ทำมาหลายประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่ใช่สตรีมมิ่งเจ้าแรกในประเทศเหล่านั้นที่ทำ แต่เราก็ให้ long term commitment หรือการลงทุนคอนเทนต์ในระยะยาว 

ซึ่งจะมีสองขาคือ ขาแรก ออริจินัลคอนเทนต์ของ Amazon คือ The Boys, The Lord of The Rings และขาที่สองคือ local content ที่จะเป็นภารกิจในระยะยาว

[ เพิ่มคอนเทนต์ที่ถูกจริตคนไทย ]

ส่วนหนึ่งที่ Prime Video มาปั้น local content ในประเทศต่างๆ ก็เพื่อเพิ่มเนื้อหาที่จะดึงดูดคนท้องถิ่นได้ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นจากเดิมที่เนื้อหาหนักไปทางอเมริกัน, ฮอลลีวู้ด 

มีการนำหนังเกาหลีและอะนิเมะเข้ามาฉายบนแพลตฟอร์ม เช่น Nothing Serious (รับชมได้แล้ววันนี้) ภาพยนตร์โรแมนติก นำแสดงโดย ซนซอกกู, จอนจงซอ และ กงมินจอง และ Toy Soldiers: Fake Men 2 The Complete นำแสดงโดย จูเลียน คัง รวมถึงอะนิเมะดัง Demon Slayer และ หนัง Jujutsu Kaisen 0

แต่ก็ต้องยอมรับว่า สตรีมมิ่งคู่แข่ง ทำมาก่อนแล้ว ซึ่ง จอช บอกว่าเป็นสิ่งที่ต้องลงทุนทำในระยะยาว 

[ ทุบราคาเดือนละ 149 บาทถึงสิ้นปีหน้า ]

และในโอกาสที่ Prime Video เข้ามาเพิ่มการลงทุนในไทย รวมถึงทำการตลาด จึงทุบราคาค่าใช้งานเหลือ 149 บาท สตรีมได้พร้อมกัน 3 อุปกรณ์ และสร้างโปรไฟล์ได้สูงสุด 6 คน ซึ่งดูราคานั้นถูกกว่า Netflix อยู่มาก (เทียบกับแพ็กเกจมาตรฐาน 279 บาท สตรีมได้ 2 อุปกรณ์)

ส่วน VIU นั้นอยู่ที่เดือนละ 119 บาท แต่จะหนักไปทางเนื้อหาเกาหลี, ส่วน Disney+ ที่ในไทยเป็นเวอร์ชั่น Hotstar (ฟีเจอร์และคอนเทนต์ไม่เต็มรูปแบบเหมือน  Disney+ ตัวเต็ม) ค่าใช้งานอยู่ที่เดือนละ 60 กว่าบาท และถ้าสมัครกับเอไอเอสก็จะจ่ายได้ถูกกว่า

[ จับตา สงครามสตรีมมิ่งครึ่งปีหลัง ]

แม้ตลาดสตรีมมิ่งซบเซา ส่วนหนึ่งเพราะคนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตปกติ เวลาบนหน้าจอน้อยลงกว่าช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นขาขึ้นของสตรีมมิ่ง

แต่บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมนี้ ต่างเร่งสร้างเนื้อหาที่ดีที่สุดของตัวเองอย่างเต็มที่ เกิดการแย่งชิงตัวคนเก่งมาสร้างหนัง และครึ่งปีหลังนี้ จะเป็นศึกของโลกแฟนตาซีระหว่างสามค่าย 

Netflix มี The Sandman แฟนตาซีสายดาร์กจักรวาล DC, HBO มี House of the Dragon จากจักรวาล Game of Throne 

และสัญญาณที่แสดงชัดว่า Prime Video จะเริ่มรุกสตรีมมิ่งเต็มที่ ก็คือการลงทุนสร้าง The Lord of The Rings ฉบับซีรีส์ ลงทุนหลัก 400 ล้านกว่าดอลลาร์ สูงกว่า The Sandman (165 ล้านดอลลาร์) และ House of the Dragon (200 ล้านดอลลาร์)

อีกคอนเทนต์ของ Prime Video ที่น่าจับตามอง คือ Thirteen Lives (สิบสามชีวิต) หนังตีแผ่ภารกิจช่วยชีวิตเด็กติดถ้ำที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก นำแสดงโดย วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) และ โคลิน ฟาร์เรล (Colin Farrell) รวมถึงนักแสดงชาวไทย อย่าง เจมส์ – ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, เวียร์ – ศุกลวัฒน์ คณารศ, พลอย – ภัทรากร ตั้งศุภกุล, ตู่ – ภพธร สุนทรญาณกิจ, ตุ้ย – ธีรภัทร์ สัจจกุล และ ปู – สหจักร บุญธนกิจ  จะฉาย 5 สิงหาคม นี้

 

ก่อนหน้านี้ไม่นาน Prime Video ยังยกเครื่องหน้าตาการใช้งานใหม่ ให้มีอินเตอร์เฟสที่ผู้ใช้งานคุ้นเคยจาก Netflix น่าจับตามองว่า สงครามและการตลาดสตรีมมิ่งในไทย จะเดือดและสนุกขึ้นขนาดไหน ในภาวะขาลงเช่นนี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า