SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมทางหลวงตั้งกรรมการตรวจข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุสะพานกลับรถถล่ม พร้อมสั่งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อนหวั่นเกิดเหตุถล่มซ้ำ ด้าน ‘ศักดิ์สยาม’ สั่งเร่งแก้ปัญหาด่วน พร้อมเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

หลังเกิดเหตุคานสะพานลอยกลับรถ กม.34 ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หล่นทับรถยนต์อย่างน้อย 2 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดวันนี้ (1 ส.ค. 2565) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการด่วนให้อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วยผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) และผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ร่วมลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบ และหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่า เหตุเกิดในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 20.00 น. ถนนพระราม 2 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34 บริเวณโครงการปรับปรุงสะพานกลับรถบริเวณใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ขณะที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่คุมงาน และคนงาน อยู่ระหว่างการเตรียมความเรียบร้อยพื้นที่เพื่อจะเทพื้นสะพานใหม่ หลังจากที่ได้ทุบพื้นสะพานช่วงที่ชำรุดเสียหายออกแล้ว ทันใดนั้นคานสะพานลอยตัวริมสุดได้ร่วงหล่นลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรบนถนนพระราม 2 เป็นเหตุให้มีรถได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย (ประชาชนในรถเกิดเหตุ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย) ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ได้ปิดช่องจราจรช่องทางหลัก (ขาเข้า) โดยให้วิ่งทางคู่ขนานแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทาง

สำหรับสะพานกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ที่ กม.34 (สะพานกลับรถบริเวณใกล้โรงพยาบาลวิภาราม) ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2536 ซึ่งได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี จึงมีความจำเป็นต้องบูรณะซ่อมแซมสะพาน โดยเริ่มเข้าซ่อมแซมสะพานตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2565 ประกอบด้วยการทุบรื้อพื้นสะพานและเปลี่ยนพื้นใหม่ จำนวน 2 ช่วง งานสกัดโครงสร้างสะพานที่เสียหาย ส่วนที่อยู่บนคานคอนกรีตอัดแรง รวมทั้งบริเวณพื้นที่ส่วนของทางขึ้นทางลง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะใช้งานได้อย่างแข็งแรงปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการกลับรถขาเข้าบนถนนพระราม 2

อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่กรมทางหลวงจะต้องทบทวนและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยด้านต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้นในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนจะเริ่มงานโครงการต่อไป

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยในวันที่ 1 ส.ค. 2565 จะตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความปลอดภัย และได้สั่งการให้ตรวจสอบ ขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้มีความพร้อม หากพบว่าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่พร้อม ไม่ปลอดภัย ให้หยุดงานก่อสร้างทันที โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด ซึ่งมีกว่า 200 โครงการ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีก ทั้งนี้กรมทางหลวงพร้อมที่จะรับผิดชอบเยียวยาให้กับผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และขออภัยประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

นายกฯ แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต-ผู้ได้รับบาดเจ็บ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมกำชับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์หาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกพื้นที่ของโครงการปรับปรุงสะพาน หรือในบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางและถนนนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขึ้นอีก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับให้กระทรวงคมนาคม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (สกอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบและสอบสวนหาสาเหตุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีเครื่องบินโดยสารสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอุบัติการณ์รุนแรง (Serious Incident) เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก ตลอดจนให้มีมาตรการดูแลช่วยเหลือผู้โดยสารเป็นไปอย่างเหมาะสมทันท่วงที

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า