นายกฯ ญี่ปุ่นเตรียมปรับครม. รับมือสถานการณ์โควิด-19 ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 รวมถึงสงครามรัสเซียยูเครน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในช่องแคบไต้หวัน

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยขณะแถลงข่าวที่เมืองฮิโรชิมา หลังเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุการณ์สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มฮิโรชิมา ระบุว่า เมื่อพิจารณาประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของการปรับคณะรัฐมนตรี แต่จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวคาดว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งแรกของรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายคิชิดะ อาจมีขึ้นในวันพุธนี้ (10 ส.ค.)

ด้านสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีที่จะมีการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีคนปัจจุบันขอถอนตัวเนื่องจากเหตุผลในเรื่องสุขภาพ โดยผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นแทนนายคิชิ กำลังเป็นที่จับตา ท่ามกลางความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทเป และพบกับผู้นำไต้หวัน จนทำให้จีนโกรธจัดประกาศซ้อมรบครั้งใหญ่บริเวณช่องแคบไต้หวัน

การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความแตกแยกในหมู่ประชาชนบางส่วน ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะนำงบประมาณจากภาษีมาใช้ในการจัดรัฐพิธีศพให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่ถูกมือปืนลอบสังหารเมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยจากการให้การของมือปืนถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ เนื่องจากเชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะมีความเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคีซึ่งเป็นองค์การศาสนาที่แม่ของมือปืนเป็นสมาชิกและบริจาคเงินให้จำนวนมากจนครอบครัวล้มละลาย 

คำให้การของมือปืนได้นำไปสู่การตั้งคำถามจากสังคมและบรรดาพรรคฝ่ายค้านเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรค LDP กับองค์กรศาสนาแห่งนี้ แม้โบสถ์แห่งความสามัคคีจะออกมาปฏิเสธว่านายอาเบะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโบสถ์ เพียงแต่เคยได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ในกิจกรรมของโบสถ์ไม่กี่ครั้ง  แต่จากการสืบค้นของสื่อมวลชนพบว่า มีนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับนายอาเบะอย่างน้อย 3 รายมีความพัวพันกับโบสถ์ดังกล่าว

นายคิชิดะได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความเกี่ยวข้องของสมาชิกสภานิติบัญญัติกับโบสถ์แห่งความสามัคคีว่า เขาจะสั่งการให้รัฐมนตรีทุกคนในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทบทวนความสัมพันธ์ที่มีความเป็นไปได้กับโบสถ์แห่งความสามัคคี พร้อมกับยืนยันว่า “เท่าที่บอกได้ตอนนี้ ตัวผมเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรศาสนากลุ่มนี้เลย”

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเรื่องดังกล่าวในช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ร่วมการสำรวจมากกว่า 80% ต้องการให้มีการเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ในขณะที่ 53% ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะนำงบประมาณจากภาษีมาใช้จัดรัฐพิธีศพให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ