เส้นทาง ‘เต่าเหยียบโลก’ โปรดักต์ระงับกลิ่นบ้านๆ คู่ไทย รายได้หลักร้อยล้าน

ถ้าจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสไตล์ไทยๆ ที่ขายดิบขายดีจนวางขายในร้านสะดวกซื้อได้มานานหลายปีแล้ว โปรดักต์นั้นคงหนีไม่พ้น ‘เต่าเหยียบโลก’ แน่นอน

แต่ที่น่าสนใจคือ แม้ในบ้านเรา โปรดักต์ดับกลิ่นใต้วงแขนจะมีแบรนด์ดังๆ จากประเทศมากมาย แต่แบรนด์ไทยๆ และสินค้าบ้านๆ อย่างเต่าเหยียบโลก กลับอยู่คู่คนไทยมาได้กว่า 22 ปี และมีรายได้หลักร้อยบาทเลยทีเดียว

แล้วเส้นทางของเต่าเหยียบโลกเป็นไปเป็นมาอย่างไร TODAY Bizview ชวนย้อนเรื่องราวไปด้วยกัน

จุดเริ่มต้นของเต่าเหยียบโลกมาจาก ‘สมชาย จันทิพย์วงษ์’ พื้นเพเขาเป็นคน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ครอบครัวมีอาชีพทำสวน ปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริก มะเขือ เผือก มัน

‘สมชาย’ เรียนจบแค่ชั้น ป.4 จากนั้นก็ไปเรียนภาษาจีนกับผู้ใหญ่ในละแวกบ้านอีกประมาณ 4 ปี จนกระทั่งอายุ 16 ปี เขาต้องไปทำงานหาเลี้ยงชีพ จึงไปสมัครเป็นเด็กปรุงยา หยิบยาตามใบสั่งของลูกค้า ในร้านขายยาไทย-จีนที่ตัวเมืองนครปฐม

แต่เมื่ออยากมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิม เขาจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ หลังจากทำงานที่แรกได้ปีกว่า โดยหวังว่าจะหาอาชีพใหม่

แต่สุดท้ายเขาก็ได้เข้าทำงานเป็นเด็กปรุงยาอีกครั้งที่ร้านขายยาจีนแถววงเวียนใหญ่ เขาทำงานที่นั่นอยู่นานกว่า 20 ปี แต่ก็มีเหตุน้อยใจในที่ทำงาน จึงตัดสินใจลาออกทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปทำงานที่ไหน

เรียกได้ว่าตกงานในวัย 40 ปี

สมชายตกงานแบบที่ไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันอยู่ปีกว่า จนวันหนึ่งนึกได้ว่าลูกค้าร้านขายยาคนหนึ่งเป็นหัวหน้าพยาบาล มักจะมาสั่งปรุงยาซึ่งทำเป็นแป้งทาดับกลิ่นรักแร้ โดยเป็นสูตรโบราณ ทำมาตั้งแต่สมัยอากงอาม่า

เขาจึงลองเอามาผสมใช้เองบ้าง ก่อนจะเริ่มทำขายโดยบรรจุในถุงซิป ปริมาณราว 20 กรัม ติดกระดาษบอกสรรพคุณว่าทำจากสมุนไพร ไม่เหนียว ไม่เลอะเสื้อผ้าแบบโรลออน

ในยุคแรก เต่าเหยียบโลกมีชื่อว่า ‘จับเต่า’ ซึ่งสมชายคิดโลโก้เอง โดยโลโก้มีสัญลักษณ์เป็นรูปเต่าเหยียบอยู่บนโลก

เขาอธิบายถึงที่มาที่ไปของชื่อแบรนด์ว่ามาจากสมัยนั้นคนไม่ค่อยรู้หนังสือ เวลาจะมาซื้อยาก็จะเรียกหาชื่อยี่ห้อ ซึ่งตอนนั้นหลายแบรนด์เป็นชื่อสัตว์ เช่น กระต่ายบิน ตะขาบห้าตัว ฯลฯ แสดงให้เห็นว่าการมีสัญลักษณ์อะไรสักอย่างนั้นทำให้คนเรียกได้ง่าย และจดจำได้ง่าย

สมชายจึงเลือกใช้ ‘เต่า’ เพราะเห็นว่าเป็นสินค้าทารักแร้ดับกลิ่นเต่า นอกจากนี้ เต่าก็เป็นสัตว์ที่มีความหมายที่ดี คือหมายถึงการเติบโตที่ถึงจะเดินช้า แต่ก็ก้าวอย่างมั่นคง และที่ให้เต่าไปเหยียบโลก เพราะหวังจะให้สินค้าขายไปได้ทั่วโลก

สมชายตั้งราคาขายแป้งจับเต่าถุงละ 20 บาท เริ่มแรกวางขายในร้านเสริมสวยของภรรยาในตำแหน่งที่ลูกค้าเห็นได้ง่ายๆ อย่างหน้ากระจก

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มขยายไปฝากขายในร้านเสริมสวยร้านอื่นๆ สมชายอาศัยขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงปี๊บ ตระเวนแนะนำสินค้ากับร้านเสริมสวย และประมาณ 80% ยินดีให้เขาวางสินค้า เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก ไม่เน่าเสีย แถมยังได้ค่าส่วนต่างชิ้นละเกือบ 10 บาท

ช่วงแรกของธุรกิจเรียกได้ว่าเป็นไปแบบลองผิดลองถูก มีลูกค้าสะท้อนปัญหาของโปรดักต์เข้ามาบ้าง เช่น เปิดใช้นานแล้วแป้งจับเป็นก้อน ทำให้เขามีการปรับสูตรเป็นระยะๆ จนได้สูตรที่ลงตัวแบบในปัจจุบัน

แบรนด์จับเต่าวางขายในร้านเสริมสวยอยู่พักใหญ่ก็เริ่มมีลูกค้าถามหามากขึ้น สมชายเริ่มดันสินค้าเข้าไปขายในร้านขายส่งอุปกรณ์เสริมสวยอีกทาง แต่ก็พบอุปสรรคว่ายอดขายทางนี้ไม่ดีนัก เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยกล้าบอกว่ามาซื้อจับเต่า และเลี่ยงด้วยการบอกว่ามาซื้อ ‘เต่าเหยียบโลก’ แทน

สมชายกลับไปหาวิธีแก้ปัญหา เขาปรับชื่อแบรนด์เป็น JT แต่ลูกค้าก็ยังไม่คุ้นและติดเรียกเต่าเหยียบโลกมากกว่า และนั่นก็เป็นที่มาของการเรียกแบรนด์ว่าเต่าเหยียบโลก

แป้งระงับกลิ่นเต่าเติบโตอย่างช้าๆ มาเรื่อยๆ ขายได้สูงสุดหลักพันขวดต่อเดือน แต่จุดพลิกผันเริ่มในปี 2552 หลังมีลูกค้าคนหนึ่งโพสต์รีวิวแป้งเต่าเหยียบโลกในเว็บไซต์พันทิป ว่าใช้แล้วได้ผลดี ราคาไม่แพง และนั่นทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน

จากนั้นมีหนังสือพิมพ์รายวันมาสัมภาษณ์ เซเว่นอีเลฟเว่นติดต่อเข้ามาให้นำสินค้าไปวางขาย แต่ตอนนั้นเขายังไม่พร้อมเนื่องจากขาดบุคลากร กระทั่งปี 2557 ที่ลูกทั้ง 3 คนของเขาเรียนจบ สามารถมาช่วยงานได้ เขาจึงไปเจรจากับเซเว่นฯ อีกครั้ง จนกระทั่งนำเข้าไปวางขายในเซเว่นฯ ได้ในที่สุด

ภายใต้การบริหารของเจนเนอเรชั่นใหม่ ในตอนแรกพวกเขาเข้ามาเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ให้ทันสมัย ดูสากล เพื่อให้โดนใจคนรุ่นใหม่ แต่ก็พบว่าผลตอบรับไม่ดีนัก เนื่องจาก ‘เต่าเหยียบโลก’ เป็นชื่อที่ติดตลาดอยู่แล้ว

พวกเขาจึงหารือกัน กลับมาใช้แบรนด์เดิม แต่ปรับแพคเกจจิ้งให้ดูดีขึ้น ทันสมัย น่าพกพา พร้อมพัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆ ออกมา เป็น New Gen ของเต่าเหยียบโลก

ไม่ว่าจะเป็น โรลออน, สเปรย์ระงับกลิ่นกาย, แป้งระงับกลิ่นเท้า, สบู่ระงับกลิ่นกาย, ครีมบำรุงใต้วงแขน ส่วนแป้งตัวเดิมนอกจากปรับดีไซน์ก็มีการเพิ่มกลิ่นใหม่ๆ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น

แล้วรายได้ของเต่าเหยียบโลกเป็นอย่างไร

ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุงบการเงินของบริษัท ไทย เฮิร์บ เอนเตอร์ไพรซ์ จำกัด เจ้าของแบรนด์เต่าเหยียบโลกไว้ดังนี้

-ปี 2561 รายได้ 87.3 ล้านบาท กำไร 11.8 ล้านบาท

-ปี 2562 รายได้ 102 ล้านบาท กำไร 8.3 ล้านบาท

-ปี 2563 รายได้ 94.9 ล้านบาท กำไร 5.6 ล้านบาท

-ปี 2564 รายได้ 90 ล้านบาท กำไร 4.8 ล้านบาท

ทายาทรุ่น 2 ให้เหตุผลที่รายได้ลดลงในช่วงโควิดว่าส่วนหนึ่งมาจากการหยุดทำการตลาดและการโฆษณาไปในช่วงโควิดพอดี ทำให้ปีนี้จะกลับมาทุ่มงบการตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์

รวมถึงจะดันสินค้าตัวใหม่ๆ วางขายบนช่องทางโมเดิร์นเทรด เทรดิชั่นนอลเทรด รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างช้อปปี้ ลาซาด้า ด้วย

ส่วนจะทำได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ตั้งไว้ว่าจะมีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทหรือไม่นั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไป

อ้างอิง:

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_31976

https://marketeeronline.co/archives/8831

https://www.prachachat.net/marketing/news-908304