‘มิน อ่อง หล่าย’ เยือนรัสเซีย กระชับความสัมพันธ์ ‘ปูติน’ ยกระดับความร่วมมือทวิภาคี

‘มิน อ่อง หล่าย’ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาหารือกับ ‘ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน’ ส่งสัญญาณยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางความโดดเดี่ยวจากนานาชาติ

นายพลมิน อ่อง หล่าย เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจภูมิภาคตะวันออก (EEF) ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งที่ 3 ตั้งแต่ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว แต่เป็นการพบกับผู้นำรัสเซียครั้งแรก หลังจากที่การเดินทางเยือนรัสเซียสองครั้งก่อนหน้าไม่ได้มีโอกาสเข้าพบประธานาธิบดีปูติน

ผู้นำทั้งสองพบกันนอกรอบการประชุม EEF ซึ่งจัดที่เมืองวลาดิวอสตอค ทางตะวันออกของรัสเซียในวันนี้ (7 ก.ย.) โดยปูตินถือเป็นผู้นำต่างชาติคนที่ 2 ที่พบกับมิน อ่อง หล่าย หลังจากกองทัพยึดอำนาจในเมียนมา

สำนักข่าว RIA Novosti สื่อรัฐบาลรัสเซียรายงานว่า ระหว่างการหารือมิน อ่อง หล่าย และปูติน ต่างเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีดำเนินไปในเชิงบวก และมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ผู้นำทั้งสองประเทศยังหารือกันในเรื่องที่เมียนมาเจรจานำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยมิน อ่อง หล่าย ได้ตกลงที่จะจ่ายค่าน้ำมันที่สั่งซื้อจากรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล “การส่งมอบน้ำมันจากรัสเซียไปเมียนมากำลังดำเนินไปได้อย่างดี เราจะได้รับการจัดส่งน้ำมันจากรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้” มิน อ่อง หล่าย ระบุ พร้อมเสริมว่า เมียนมายินดีชำระค่าน้ำมันให้กับรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิลตามที่รัสเซียต้องการ “ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินใดที่รัสเซียยอมรับ เราจะจ่ายเป็นสกุลเงินนั้น นี่ทำให้เราดำเนินการอะไรง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องเจอกับข้อจำกัดในการรับและโอนเป็นสกุลเงินอื่น”

ด้าน Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ออกมารายงานว่า ก่อนจะพบกับประธานาธิบดีปูติน นายพลมิน อ่อง หล่าย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภาบริหารแห่งรัฐและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้พบกับแอนตัน โคบาคอฟ ที่ปรึกษาของปูติน, อเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย และนายทหารอาวุโสของกองทัพรัสเซียในคืนวันอังคาร (6 ก.ย.)

ระหว่างการหารือกับคณะผู้แทนของรัสเซีย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาได้พูดคุยกันถึงเรื่องสร้างความสัมพันธ์อันดีฉันท์มิตรระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและเมียนมา รวมถึงกองทัพของสองประเทศ เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมียนมา-รัสเซีย ในปี 2565

โดยการหารือยังครอบคลุมไปถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในวงกว้าง การเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างรัสเซียและเมียนมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนเรื่องการซื้อขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ